ศาสนเสวนาของจริง

ไม่มีความคิดเห็น โดย จอมป่วน เมื่อ 1 สิงหาคม 2011 เวลา 21:39 ในหมวดหมู่ จอมป่วน #
อ่าน: 1955

เสียดายที่พระศรีคัมภีรญาณไม่ว่าง  ไม่ได้มาพบปะพูดคุยด้วย  อาจารย์วินัย สะมะอุนก็มีธุระ  หลังเบรคเช้าก็เข้ามาพบปะพูดคุยพักหนึ่ง  เลยเหลืออาจารย์นริศ มณีขาวแต่ผู้เดียว

เริ่มเปิดรายการโดยเจ้าเก่า พันเอก เอื้อชาติ หนุนภักดี นายทหารประจำกรมข่าวทหารบก

ถาม ชอบเรื่องค้างคาวกับนกเงือกมาก  แต่ในความเป็นจริงต้างคาวจะอยู่เป็นฝูง  มีความหลากหลายเหมือนภาพจริงของสังคม  แล้วผลจะเป็นอย่างไร?

ตอบ เด็กแว๊นในสังคมมีมาก มีคนรำคาญในโรงเรียนก็คว้าปืนออกมา จะจัดการกับเด็กแว๊น  ต้องใช้กระบวนการที่ซับซ้อนมากขึ้น

วันที่ 10 เมษายน 2553 กรณีชุมนุม  แยกเหลืองแดง  ทีมงานสันติอาสาซึ่งเป็นทีมงานที่ทำงานเงียบๆ จัดพูดคุย ให้รับฟังกันเพือหาความต้องการ ก็ลดความรุนแรงลงได้

ในวันที่ 10 เมษายน  สันติอาสาเจรจาทั้ง 2 ฝ่าย  ทหารกับผู้ชุมนุม  ผู้ชุมนุมก็สามารถกลับบ้านได้เพราะความต้องการคือความปลอดภัย  น่าจะช่วยได้  มีคนกลับบ้านอย่างปลอดภัยประมาณ 1,000 คน

นฤมล ศิริวัฒน์ สมาชิกวุฒิสภา

นฤมล (Small)

ถาม กรณี Oslo ความสูญเสียมาก  คนที่สูญเสียรู้สึกว่าการเยียวยา-วิธีลงโทษในประเทศนอร์เวย์เบาเกินไป  รู้สึกไม่เป็นธรรม

ตอบ การเจรจาน่าจะช่วยได้ เพื่อเยียวยา  ทำให้เกิดความพึงพอใจ

ถาม กฏหมายไม่ให้ประหารชีวิต  ประเทศเชื่อในการไม่ใช้ความรุนแรง  เลยทำให้สั่นคลอนทั้งระบบ  เป็นโจทย์ใหม่

ตอบ ทำอย่างไรให้สังคมปลอดภัย การลงโทษน่าจะเหมาะสม?   ประเทศที่พัฒนาแล้วเช่นที่อเมริกาก็มีเหตุการณ์แบบนี้บ่อย

แสดงว่าสังคมป่วย  มีความรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย  จะทำอย่างไรดี?

อาจเป็นเพราะเราไปสนใจเรื่องเศรษฐกิจ  ไม่ได้สนใจความสุขมวลรวมของประชาชาติเหมือนภูฎาน  ต้องหาตัวชี้วัดไว้ด้วย

ประเทศไทยจะพัฒนาตรงนี้ได้อย่างไร?

พวกเราจะช่วยกันทำตรงนี้ได้อย่างไร ?  เพื่อลูกหลาน

ผู้ใหญ่ยังมีปัญหา  ยังยิงกัน ฆ่ากัน  แล้วจะไปสอนเด็กๆได้อย่างไร?

พี่นฤมล ก็มีคนสนับสนุนคนที่ก่อเหตุ

อาจารย์นริศ ไปทางใต้  ผู้คนก็เจ็บปวด  ต้องให้มีเวทีพูด เพื่อแสดงความต้องการ

คำพูดอาจรับยาก  แต่ก็อาจจะแสดงความต้องการออกมาได้

ต้องเปิดพื้นที่  หาความต้องการ  แล้วจะรู้ว่าจะทำอย่างไร?

พี่นฤมล ต้องหาความต้องการของผู้ก่อเหตุ

พันเอก ดร. พิเชษฐ คงศรี นายทหารปฏิบัติการกองบัญชาการกองทัพไทย

ถาม เมื่อเกิดความขัดแย้งแล้ว  วิธีการจัดการและเยียวยาเป็นปลายเหตุ  สถานการณ์ของสังคมไทยในปัจจุบันมีความขัดแย้งที่ควบคุมไว้  ในศาสนาคริสต์มีมาตรการป้องกันความขัดแย้งไหม?

ตอบ ศาสนา  ถ้าใส่ใจตอบโจทย์ความต้องการของผู้อื่นได้ก็จะไม่เกิดความขัดแย้ง

กานต์ ยืนยง กรรมการผู้อำนวยการ บจ. สยามอินเทลลิเจนซ์ ยูนิต

1-8-2554 20-58-26

แสดงความคิดเห็น ผู้ก่อเหตุเขียน e-book ร้อยกว่าหน้า ได้ดาวน์โหลดมาอ่านแล้ว  มีระบบความคิดที่ซับซ้อน  เขารู้สึกว่าโลกถูกครอบงำโดยมาร์กซิสม์  ฝ่ายซ้าย  สังคมพหุนิยม  แล้วจะถูกครอบงำโดยมุสลิม  ผู้ก่อเหตุยอมรับชะตากรรม

อาจารย์นริศ ความต้องการของผู้ก่อเหตุ ต้องการปกป้องชุมชน ผู้คน  ต่อต้านภาครัฐ  ความต้องการสวยงาม  แต่การกระทำรุนแรง รับไม่ได้  การปกป้องมีหลายแบบให้เลือก

มีคนต่อต้านศาสนา  มองว่าต้องการอิสระ

สิงห์ชัย ทุ่งทอง สมาชิกวุฒิสภา

1-8-2554 21-13-01

แสดงความคิดเห็น ภูฏานคล้ายชนเผ่าหนึ่ง  ต่อไปคงเป็นแค่เรื่องเล่า  เราดูภายนอกคล้ายกับมีความสุข

ภูฏานเหมือนแมวที่คิดว่าตัวเองมีความสุข  ที่อาจารย์พูดเป็นทฤษฎี  แต่สังคมไทยปัจจุบัน  พยายามหา Content แล้วนำไปสู่คน 60 ล้านคน  จะทำอย่างไร?

ยุคใหม่ สื่อจะเป็นเครื่องมือที่จะทำให้แนวทางปฏิบัติไปสู่คน 60 ล้านคน

สังคมไทยลืมเอาสิ่งที่มีประโยขน์มาใช้

นักศึกษามาเรียนจะเข้าใจ  แต่คน 60 ล้านคนจะเข้าใจไหม?

รัฐบาลจะนำสิ่งนี้ลงสู่ประชาชนได้อย่างไร?  ต้องอาศัยสื่อ  ผ่านประเพณี วัฒนธรรมและศิลปะ

พวกเราต้องร่วมกัน  ถ้ามุ่งไปทางตะวันตกคงไม่ใช่คำตอบ  ยังมองไม่เห็นว่าองค์กรไหนจะทำ ? ทั้งๆที่มีองค์ความรู้มากมาย

สถาบันพระปกเกล้าควรเป็นคนนำเสนอรัฐบาล

อาจารย์นริศ การรณรงค์ร่วมกันในการต่อต้านสงคราม 25 ล้านคนทั่วโลกเป็นเครือข่ายนักสันติวิธีทั่วโลก  ผ่าน Social Media

พลตำรวจตรี อรรถพันธ์ พรมณฑารัตน์ รองนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ

รับหน้าที่มาขอบคุณอาจารย์  พระศรีคัมภีรญาณไม่มี  อาจารย์ตึ๋งเล็กเลยอ่านเอกสารแล้วสรุปแทนพระศรีคัมภีรญาณ

…….บุคคลที่ขัดแย้งกันจะโกรธกัน  เป็นกิเลส  มีวิธีบริหารความโกรธ 9 วิธี

  1. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้ระลึกถึงโทษของความโกรธ
  2. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้ระลึกถึงความดีของเขา
  3. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้รู้เสียด้วยว่า “โกรธคือทำทุกข์ให้ตนเอง”
  4. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้พิจารณาว่า “มนุษย์ทุกผู้ตัวตนมีกรรมเป็นของตน”
  5. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้ระลึกบุพพจริยา(การทำความดีครั้งอดีต)ของพระพุทธองค์
  6. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้ระลึกถึงความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในวัฏฏสงสาร
  7. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้พิจารณาอานิสงส์เมตตา
  8. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้ใช้วิธีพิจารณาตัวคนโดยแยกธาตุ
  9. เมื่อรู้สึกโกรธ ให้ทำทานสังวิภาค คือให้สิ่งของแก่คนที่โกรธและรับสิ่งของจากคนที่โกรธ

แถมด้วยให้ดูกาละเทศะก่อนใช้คำพูด  แต่ได้ยินเสียงแว่วๆว่า  บ่ายโมงแล้ว….หิว…..  อิอิ

Post to Facebook Facebook


“ศาสนเสวนา:สันติวิธีในวิถีชีวิต” (2)

ไม่มีความคิดเห็น โดย จอมป่วน เมื่อ 1 สิงหาคม 2011 เวลา 2:16 ในหมวดหมู่ จอมป่วน #
อ่าน: 2162

ประเด็นร้อนๆในการปฏิรูปประเทศไทยคือการสร้างความเป็นธรรม

ยุทธศาสตร์ลดความเหลื่อมล้ำทั้ง 5 มิติ

  1. รายได้
  2. สิทธิ
  3. โอกาส
  4. อำนาจ
  5. ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

“สันติจะไม่เกิด ถ้าไม่มีความเป็นธรรม”

การปฏิรูปการเมืองต้องเปลี่ยนความสัมพันธ์เชิงอำนาจ กลุ่มที่พลังอำนาจมีอยู่สามกลุ่มคือ

  1. กลุ่มคนกลไกรัฐ คือข้าราชการ ตำรวจ ทหาร
  2. กลุ่มทุน
  3. ประชาชนทั่วไป

กลุ่มกลไกรัฐและกลุ่มทุนผลัดเปลี่ยนกันเป็นผู้ปกครอง ประชาชนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศกลับไม่มีอำนาจเลย

ปฏิรูปการเมืองต้องเปลี่ยนความสัมพันธ์เชิงอำนาจ?
ถ้าเราต้องการปฏิรูปการเมือง เราต้องปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์ทางอำนาจที่ต้องทำให้ภาคประชาชนนั้นมีดุลย์ อำนาจใกล้เคียง หรือไม่แตกต่างกันมากกลับอำนาจของกลไกรัฐและอำนาจของทุนภาคประชาชน มวลชนจะต้องเป็นกลไกอำนาจตัวหนึ่งที่สามารถดุลย์ ถ่วง คาน งัดกับกลไกรัฐและทุนได้ ในปัจจุบันกลุ่มคนกลไกรัฐที่มีทหาร ตำรวจ ข้าราชการทั้งหลายก็จับมือกับกลุ่มทุน จะเห็นว่ากลุ่มทุนนั้นอำนาจมากมายมหาศาลอยู่แล้ว บางครั้งทั้งสองอำนาจนี้ก็ปะทะกัน บางครั้งก็ประสานกัน และยิ่งซับซ้อนขึ้นอีก เมื่อกลุ่มทุนแบ่งเป็นสองซีก อีกกลุ่มหนึ่งร่วมมือกับกลไกรัฐ ขณะเดียวกันกลุ่มทุนอีกกลุ่มก็ร่วมมือกับกลไกรัฐอีกกลุ่มหนึ่ง กลายเป็นสองซีกที่แต่ละซีกมีทั้งทุนและกลไกรัฐจับมือกันอยู่ทั้งสิ้น จากนั้นก็พยายามที่จะผลักดันใช้ประชาชนมาหนุนตนเอง แล้วก็สร้างปรากฏการณ์ต่างๆ ในนามประชาชน

ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ http://thaireform.in.th/

อาจารย์เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ที่ไปพบเด็กชาวม้งกินข้าวกับน้ำ กินข้าวกับเกลือ ไม่เคยเจอไข่เจียว น่องไก่ทอด

มีกรณีของการที่ระยองปล่อยก๊าซ Carbon dioxide 75% ของทั้งประเทศ แต่ชาวเขาปล่อยแค่ 4% ถูกจับติดคุก 150 ปี ถูกปรับกรณีทำให้เกิดก๊าซ Carbon dioxide เป็นเงินค่าปรับ 150 ล้านบาท

สังคมขาดความเข้าใจคนที่มีความคิดเห็นแตกต่างจากเรา  ไม่ทราบว่าเขาคิดอย่างไร? อยากได้อะไร?

Marshall B. Rosenberg มีข้อสงสัยอยู่ว่า

  1. เพราะเหตุใดมนุษย์จึงถูกตัดขาดจากความกรุณาอันเป็นธรรมชาติพื้นฐานของมนุษย์  และหันไปใช้ความรุนแรงกับผู้อื่น
  2. แล้วเพราะเหตุใดมนุษย์บางคนยังคงไว้ซึ่งความกรุณา  แม้ว่าเขาจะอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเพียงใดก็ตาม

จึงค้นหาจนได้คำตอบว่าพื้นฐานของมนุษย์ต้องการความรัก  ความเข้าใจ  สันติ  มิตรภาพ  ความมั่นคง  และการดูแลเอาใจใส่

นักสันติวิธีทำหน้าที่เป็นคนกลางที่จะทำให้คนที่ขัดแย้งกันทราบความต้องการในส่วนลึกของแต่ละฝ่าย  ทำให้ได้ยินกัน

ในการเจรจากัน  ต่างฝ่ายต่างไม่สามารถบอกความต้องการส่วนลึกของตนเองได้  อีกทั้งยังไม่สามารถทราบและเข้าใจความต้องการของอีกฝ่าย  จึงเป็นหน้าที่ของนักสันติวิธีที่ต้องมีทักษะ  ทำให้ทุกฝ่ายได้ยิน เข้าใจ รับรู้ความต้องการของอีกฝ่าย

เช่นฝ่ายหนึ่งแค่ต้องการความปลอดภัย  ไม่ต้องการใช้ความรุนแรง  อีกฝ่ายอาจต้องการความเท่าเทียมกัน  หรือต้องการความจริง  ความชัดเจน

หลังจากพักเที่ยงก็เป็นรอบที่ 2

อ.วินัย สะมะอุน

ในศาสนาอิสลามสอนไว้…

  1. ต้องพยายามรู้จักซึ่งกันและกัน  แม้จะแตกต่างกัน  พระเจ้าได้สร้างเผ่าพันธ์ที่แตกต่างกันเพื่อให้มารู้จักกัน
  2. ห้ามไม่ให้เกลียดชังซึ่งกันและกัน เพราะเป็นเหตุให้ไปประทุษร้ายต่อผู้อื่นและทำให้ไม่เป็นธรรม
  3. ไม่ให้ข่มเหง ดูถูกดูแคลนซึ่งกันและกัน เพราะจะทำให้เกิดความหวาดระแวง

ถ้าติดตามดูข่าวอาจเห็นว่ามุสลิมชอบความรุนแรง  แต่ศาสนาสอนให้คนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ  ความขัดแย้งเป็นเรื่องอื่น  เป็นเรื่องการเมือง  ไม่ใช่สาเหตุจากศาสนา

อ.นริศ มณีขาว

1-8-2554 2-09-34

ถ้าเรายึดเอาเงิน อำนาจ  และการได้รับการยกย่องเป็นเป้าหมาย  เราก็คิด  ใช้ชีวิตและทำงานไปแบบหนึ่ง

1-8-2554 2-09-07

แต่ถ้าเป้าหมายของเราเป็นความรักต่อพระเจ้า  ความรักต่อเพื่อนมนุษย์และความรักต่อธรรมชาติ  เราก็จะคิดต่างออกไป  ใช้ชีวิตและทำงานต่างไปจากเดิม  โดยใช้เงิน อำนาจและการยกย่องเป็นเครื่องมือและวิธีการ  ไม่ใช่เป็นเป้าหมาย

อาจารย์พยายามเน้นให้เห็นความสำคัญของการค้นหาความต้องการ

คำทักทายภาษาฮีบรู  ทักทายกันด้วยคำว่า Shalom  ซึ่งแปลว่า ขอให้ปลอดภัย

ความต้องการของคนภาคใต้  ต้องการความปลอดภัย  ความสงบสุข

บทบาทของศาสนา

  1. ให้วิธีคิด
  2. ให้ย้อนมองตัวเอง
  3. ให้แบบอย่าง - แนวปฏิบัติ
  4. เตือนสติ - ให้เข้มแข็ง
  5. เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของเพื่อนมนุษย์

อาจารย์ยกตัวอย่างของสามีภรรยาที่ทะเลาะกันมานานถึง 39 ปี  เริ่มทะเลาะหลังแต่งงานกันได้ 6 เดือน  เพราะภรรยาเขียนเช็คเกินบัญชี  สามีเลยคุม  ไม่ให้เขียนเช็คอีก  เลยทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้มา 39 ปี

นักสันติวิธีบอกว่าสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ภายใน 20 นาทีหลังจากที่ทั้งสองคนสามารถบอกได้ว่าแต่ละฝ่ายต้องการอะไร?

จะทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไรก็ตาม  คนกลางหรือนักสันติวิธีต้องพยายามหาความต้องการให้ต่างฝ่ายต่างเข้าใจกัน

บางครั้งความต้องการก็ซ่อนอยู่ในความรู้สึก  และบางครั้งคู่กรณีก็เจ็บปวดมากที่คนกลางต้องปฐมพยาบาล(ด้านจิตใจ)

ในการเจรจาที่เริ่มด้วยการต่อว่ากันไปมา  คนกลางก็พยายามให้ทั้งสองฝ่ายหาความต้องการส่วนลึกออกมา

จนได้ความต้องการของสามี

ความต้องการของสามี สามี “รู้สึกกลัว ต้องการปกป้องครอบครัวเรื่องการเงิน”

ความต้องการของภรรยา ภรรยา “ต้องการความไว้วางใจ”

คนกลางอาจจะไม่เห็นด้วย  แต่คู่กรณีเกิดความเข้าใจกัน

เมื่อทั้งคู่เข้าใจ ทราบความต้องการของกันและกันแล้ว เรื่องของวิธีการ  ข้อตกลงที่จะพูดคุยกันต่อไปก็จะง่าย…และจบลงด้วยดี

Post to Facebook Facebook


“ศาสนเสวนา:สันติวิธีในวิถีชีวิต” (1)

ไม่มีความคิดเห็น โดย จอมป่วน เมื่อ 1 สิงหาคม 2011 เวลา 0:59 ในหมวดหมู่ จอมป่วน #
อ่าน: 2953

29 กรกฎาคม 2554  9.30-12.30 น.

Photo987 (Small)

อาจารย์วินัย สะมะอุน

อาจารย์นริศ มณีขาว

พระศรีคัมภีรญาณ รองอธิการบดี ฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(ติดธุระ)

วิชาที่เรียนกันวันนี้เป็นเรื่องของสันติวิธีจากมุมมองของศาสนาต่างๆ  อาจารย์วินัย สะมะอุนมาให้มุมมองจากศาสนาอิสลาม  อาจารย์นริศ มณีขาวมาให้มุมมองจากศาสนาคริสต์  พระศรีคัมภึรญาณติดธุระ  แต่ก็เมตตาฝากเอกสารมาให้ศึกษา

อาจารย์วินัย สะมะอุน

อาจารย์ทักทายพวกเราด้วยภาษอาหรับ …ขอให้ท่านทั้งหลายมีความสุขและสันติ กล่าวสดุดีพระเจ้าและประสาทพรให้แก่กัน

31-7-2554 22-23-38

อาจารย์อธิบายเรื่องสัญชาติไทย  ว่าแม้เชื้อชาติ ศาสนา ภาษา ประเพณี วัฒนธรรมจะแตกต่างกัน  เมื่อได้สัญชาติไทยแล้วก็จะมีสิทธิเสรีภาพ  และหน้าที่เท่าเทียมกันหมด

สมันกรุงศรีอยุธยา เมืองไทยเรามีผู้คนหลายเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา ประเพณีและวัฒนธรรม  แต่ก็มาอยู่ร่วมกันได้ ไม่เป็นเหตุที่จะให้มีความรู้สึกว่าเป็นคนละพวกกัน  หรือทำให้เป็นศัตรูกัน  มีสำนึกร่วมในความเป็นชาติเดัยวกัน  เมืองไทยยอมรับพหุวัฒนธรรมมาแต่เดิม

อย่าไปมองว่าต้องมีวัฒนธรรมเดียวกัน

รัฐธรรมนูญให้สิทธิเสรีภาพในการเลือกนับถือศาสนาใดก็ได้  แต่ก็มีประเด็นที่ระบุว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ  คนสัญชาติไทยทุกเชื้อชาติ ศาสนาก็ถูกเกณฑ์เป็นทหาร  มีหน้าที่ในการป้องกันประเทศเท่าเทียมกัน

ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี  อยู่ร่วมกันอย่างสันติแม้พิธีกรรมทางศาสนาจะแตกต่างกัน

ประวัติศาสตร์มีไว้เรียนรู้  แต่ไม่ใช่เอามาเป็นประเด็นให้เกลียดกัน  อย่าเอาอารมณ์มาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ในคัมภีร์อัล-กุรอาน ก็สอนไว้:

……แต่ละชีวิตต้องพิจารณาอดีต เพื่อเตรียมอนาคต

……ต้องมีสำนึกร่วม  ต้องอยู่อย่างมิตร

ไม่ใช่เอาอดีตมาต่อเชื่อมกับอนาคต  แต่สอนให้พิจารณาอดีตเป็นบทเรียน เพื่อนำไปสู่อนาคต

เรื่องในอดีต  คนในอดีตเป็นผู้รับผิดชอบ  เหตุการณ์ในปัจจุบัน  เราซึ่งเป็นคนในปัจจุบันเป็นผู้รับผิดชอบ

อาจารย์นริศ มณีขาว

อาจารย์เริ่มเปิดประเด็นว่า “ ศาสนาสร้างสันติหรือสร้างความขัดแย้ง”

ตามด้วยให้ดู VDO เรื่องค้างคาวกับนกเงือก

200409191204130.bat

เริ่มด้วยฉากตอนใกล้รุ่ง ค้างคาวกลับจากการออกหาอาหารก็กลับมาห้อยหัวนอนนอนที่กิ่งไม้ใกล้ๆกับโพรงนกเงือก  พอเริ่มสว่างนกเงือกที่หลับอยู่ที่กิ่งไม้ข้างๆโพรงก็ตื่น  ส่งเสียงร้องปลุกลูกๆสามสี่ตัวในโพรง  ลูกๆก็ส่งเสียงร้องดังมากเพราะหิว  นกเงือกจึงไปหาอาหารจำพวกหนอนมาป้อนลูกๆซึ่งส่งเสียงร้องเพราะความหิว  รบกวนค้างคาวที่ต้องการพักผ่อน

ค้างคาวต้องสะดุ้งตื่นบ่อยครั้ง  ท่าทางอารมณ์เสียเอามากๆเพราะอดนอน  และรำคาญเสียงของนกเงือกและลูกๆ

ตกกลางคืน นกเงือกและลูกๆก็หลับ  ค้างคาวก็ออกหากิน  แต่ตกดึกค้างคาวก็แอบมาที่โพรงของนกเงือก  แล้วก็อาศัยความมืดหลบเข้าไปในโพรงของนกเงือกซึ่งมีลูกๆของนกเงือกนอนหลับอยู่

พอเช้า  นกเงือกก็ตื่น  ส่งเสียงปลุกลูกๆ  แต่คราวนี้เงียบกริบทีเดียว  เกิดอะไรขึ้น ?

นกเงือกรีบชะโงกเข้าไปดูในโพรงด้วยความตกใจ !!!!!!!!!!!

อาจารย์ก็อธิบายเรื่องความต้องการ

31-7-2554 23-59-04

ค้างคาวมีทางเลือกดังนี้

1-8-2554 0-08-07

ใน VDO นกเงือกพบว่าที่ลูกนกเงียบเสียงไปเพราะมัวกินหนอนหลายตัวที่ค้างคาวหาเผื่อมาให้กิน  ค้างคาวเลือกหาอาหารให้ลูกนก  ค้างคาวก็ได้พักผ่อนนอนหลับอย่างสบาย

หลักสันติวิธี

  1. ให้ความสัมพันธ์ (ความเข้าใจ) ก่อนแก้ปัญหา
  2. ใส่ใจ ให้คุณค่ากับความต้องการของทุกคน (รวมทั้งของตัวเองด้วย)

Marshall B. Rosenberg  www.cnvc.org

แก่นของศาสนาต้องเพื่อมวลมนุษยชาติ

Post to Facebook Facebook



Main: 0.079452037811279 sec
Sidebar: 0.05564284324646 sec