ธรรมะสำหรับเช้าวันอาทิตย์นี้-20-07-2551
อ่าน: 3615พระพุทธศาสนา เป็นศาสนา ที่มุ่งพูดถึงความเป็นจริง ตามธรรมชาติ เพราะธรรมะคือธรรมชาติ
มีคนจำนวนมากๆ ที่ไม่รู้ว่า เราเกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน ไม่เข้าใจว่า มีเหตุผลกลใด จึงต้องมีชีวิตเกิดขึ้น แล้วก็ตายไป ไม่รู้ว่า วัฎสงสารคืออะไร
ผลนี้คือวิบากกรรม เมล็ดพืชคือกิเลส การงอกงามคือกรรม ลูกดอกผลที่ออกมาคือวิบากของกรรม วิบากกรรมนี้เองเป็นสิ่งที่มีอำนาจร้ายแรง หรือมีเสน่ห์อย่างร้ายแรง ที่ทำให้คนเราต้องตกอยู่ในกระแสแห่งวัฎฎะ หรือกระแสแห่งกรรม (ท่านพุทธทาส-คู่มือปฏิบัติธรรม) จริงๆแล้ว แม้ร่างกายดับสูญไป แต่วิญญาณยังคงอยู่
แต่ไม่ว่า จะศาสนาอะไร ความเชื่อแบบไหน ทุกศาสนาจะสอนให้เรา พยายามกล่อมเกลาจิตใจให้ใสสะอาดปราศจาก การปรุงแต่ง ของอคติ ทั้งสิ้น
ส่วนในเรื่องของปฎิบัติธรรมนั้น ในความเห็นส่วนตัวแล้ว จะปฎิบัติที่วัดใดก็ได้ ที่สะดวกที่สุด วิธีไหนๆก็เหมือนกัน แค่เป็นอุบาย ในการน้อมใจเราที่วุ่นวายให้สงบ และหยุดได้เท่านั้น เหมือนเรามีนิ้วมือ 5 นิ้ว แต่ก็ไปบรรจบกันที่ข้อมือเรา
สำหรับการนั่งสมาธิ เพื่อปฎิบัติธรรม ควรนั่งในท่าที่สบายที่สุด ไม่บีบหัวตา เส้นสายไม่เขม็ง ปล่อยให้เบาสบาย ผ่อนคลาย
ในที่สุดพอนั่งไปถึงจุดหนึ่ง ใจเราจะเกิดความว่าง เบาสบาย ไม่มีการปรุงแต่งอะไรทั้งสิ้น ความสุขเล็กๆ เกิดขึ้นพร้อมๆกับที่กายและจิตผ่อนคลาย เมื่อนั่งไปเรื่อยๆ อาจจะมีความรู้สึกเหมือนกับเราเป็นเพียงผู้ดู ไม่มายินดี ยินร้าย กับความสุข ความทุกข์ ที่ตามปกติแล้ว เราต้องยึดอยู่ 2 อย่าง คือ ไม่สุข ก็ทุกข์หรืออึดอัด คำว่า กลางๆ ไม่ค่อยมีตอนนี้ เราก็จะเริ่มมีปัญญาขึ้นบ้าง ในการพิจารณา ทุกสิ่ง ที่เกิดขึ้นกับตัวเรา ด้วยใจเป็นกลางๆ ไม่ยึดติด มากขึ้น ความว้าวุ่นใจ ของคนเราเกิดขึ้นได้ แม้ไม่มีแรงลมอื่นใด จากภายนอก มาปะทะ
เนื่องจากเราเองก็มีคลื่นความคิด เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
ไม่ต้องมีแรงกระทบจากภายนอกหรอก แค่แรงดันจากใจเราเอง นั่นแหละ ก็เป็นตัวทำให้เกิดคลื่นในใจแล้ว
« « Prev : วันเข้าพรรษา-วันอาสาฬหบูชา
Next : ปัญญาญาณ » »
10 ความคิดเห็น
กลัวเค้าจะเปลี่ยนชื่อลานปัญญาเป็นลานธรรมะ อิอิ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะคะ คุณหมอ ลานนี้เป็นลานความสุขค่ะ สุขใดจะมากกว่า และยั่งยืนกว่าความสุขจากการที่ทำใจหยุด ใจนิ่ง ไม่มีค่ะ
ตัวเอง ก็ยังทำได้ไม่ดีนัก ต้องเตือนตัวเองบ่อยๆค่ะ เดี๋ยวจะเผลอ อิๆๆๆ
เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้นั่งสมาธิเลยค่ะ แต่ยังเจริญสติอยู่ิเป็นประัจำ ^ ^
อาจารย์คะ พี่นั่งบ่อยหน่อยค่ะ พยายามเจียดเวลา แต่ก็ไม่ได้ต่อเนื่องนานนัก เพราะต้องลุกไปทำโน่นนี่เรื่อยๆ แต่เนื่องจากนั่งมาจนชิน จึงรวมใจได้ไม่ยากเท่าใด พยายามนั่งค่ะ วันละไม่มากนักก็ยังดี
ได้ไปแลกเปลี่ยนกับ คุณหมอมัทนา และให้ความคิดเห็น ตามประสาชาวโลก ที่มีความเชื่อมั่นในศาสนาพุทธ ไม่ได้รู้ดีเท่าไรนัก ต้องศึกษาไปเรื่อยๆเหมือนกัน…
เรื่องที่เราตายไป แต่วิญญาณยังอยู่ แล้วจะกลับมาเกิดใหม่อีก ก่อนจะกลับมาเกิด ก็มัก จะไปรับผลกรรมดี กรรมชั่ว ในสุคติภูมิ หรือ ทุคติภูมิเสียก่อน
แต่จะเกิดใหม่ในรูปอะไร มีบุญกรรมติดมาแค่ไหน ก็แล้วแต่ผลของการกระทำในชาติก่อนๆ เป็นสิ่งเครื่องกำหนด ให้เราเกิดสิ่งนั้น สิ่งนี้ ขึ้นมาในชีวิต
การเวียนว่ายตายเกิด จึงเป็นเรื่องที่ทางศาสนาพุทธกล่าวถึงอยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นเรื่องจริงที่คนที่นับถือพุทธเชื่อเช่นนั้น พระพุทธเจ้า กว่าจะเสด็จดับขันธปรินิพพานได้ พระองค์ท่านก็ทำบุญบารมีมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน โดยเฉพาะ 10 ชาติสุดท้าย
อย่างเช่น คนเราบางคน ก็ไม่ได้ยินดีให้โรคเกิดขึ้นในร่างกายของตน แต่ที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเพราะบาปอกุศล ที่ตนทำไว้ในปางก่อน มาประจวบกับ วิถีการดำเนินชีวิตที่ไม่ถุกต้อง ในชาตินี้ด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่มีโรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นมาตั้งแต่เด็กๆเล็กๆเลย ส่วนคนแก่ สังขาร ก็จะมีความเสื่อมเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
ส่วนตัว เป็นคนเชื่อเรื่องกรรมค่ะ ทั้งกรรมดี กรรมชั่ว
วิบากกรรม เป็นเรื่องจริง เป็นสัจจะ เป็นอมตะไม่มีเปลี่ยนแปลง แต่บางครั้ง ยากแก่การอธิบาย ต้องไปศึกษาเอง หรือแม้ศึกษาแล้ว ก็ยังไปถึงไม่ที่สุดแห่งความจริง ที่เรียกว่า อจินไตยน่ะค่ะ
สวัสดีค่ะคุณพี่ศศินันท์
มารายงานตัวค่ะ หมู่นี้กำลังศึกษาและทดลองจัดการบล็อกของตัวเอง จึงยังไม่ได้ไปเยี่ยมญาติ มาบันทึกนี้ก็เลยได้ข้อคิดดีๆ กลับไป.. ขอบคุณนะคะ แล้วจะแวะมาอีกค่ะ
สวัสดีค่ะ
ดีใจที่มาเยี่ยมค่ะ ช่วงเข้าพรรษานี้ พี่ได้ไปปาวารณา บวชพระไว้ด้วย
ผู้ที่บวชเป็นพระแล้ว มีความสุข แบบสงบๆนะคะ
แต่พระก็มี งาน เหมือนกัน เช่น สวดมนต์ไหว้พระ เจริญภาวนา ศึกษาธรรมะ
ในช่วง 3 เดือน ถ้าตั้งใจจะให้ได้ประโยชน์จริงๆ ผู้บวช ก็จะได้ไม่น้อยนะคะ
ถ้ามีเวลา อ่านที่นี่ ก็ได้ค่ะ เรื่องของ กรรม
กฏแห่งกรรม เป็นของมีจริง เป็นเรื่องสำคัญ ทำให้เกิดความละอายและเกรงกลัวต่อผลของบาป
ผลของบาป มีทั้งในปัจจุบัน คือ ร้อนใจ ทุกข์ใจ กับผลบาปที่จะติดตัวเราไปอีกยาวไกล
ถ้าเรา หวังผลของเกิดไม่เกิดอีก เราก็ต้องทำตัวให้บริสุทธิ์ สะอาดที่สุด ซึ่ง จะใช้เวลาที่ยาวนานมากๆ
แม้ ในชาติสุดท้ายของพระอรหันต์ทุกรูป ถ้าเราศึกษา จะพบว่า ท่านเอง ก็มี สิ่งที่เรียกว่า เศษกรรม ติดกันไปทั้งนั้นค่ะ
http://gotoknow.org/journals/sasinanda/entries/16177
คุณสาธิตแนะนำ webนี้ค่ะ
โรคทางวิญญาณ เป็นต้นเหตุ ให้เกิดโรคทางกาย
ตัวเองก็ใช้กลไกรักษาตัวเอง จากจิตใจและร่างกาย มาช่วยค่ะ บางทีใช้เวลานานนิดนึง แต่ไม่เป็นอันตราย ไม่ค่อยกินยาเท่าไร
การพักผ่อนสำคัญที่สุด เพราะจะมีGrowth Hormone มาช่วย อีกอย่างคือ ทำสมาธิ ค่ะ ช่วยได้มาก เป็นการเรียกพลังภายในคืนมา
กฏแห่งกรรม เป็นของมีจริง เป็นเรื่องสำคัญ ทำให้เกิดความละอายและเกรงกลัวต่อผลของบาป
ผลของบาป มีทั้งในปัจจุบัน คือ ร้อนใจ ทุกข์ใจ กับผลบาปที่จะติดตัวเราไปอีกยาวไกล
ถ้าเรา หวังผลของเกิดไม่เกิดอีก เราก็ต้องทำตัวให้บริสุทธิ์ สะอาดที่สุด ซึ่ง จะใช้เวลาที่ยาวนานมากๆ
แม้ ในชาติสุดท้ายของพระอรหันต์ทุกรูป ถ้าเราศึกษา จะพบว่า ท่านเอง ก็มี สิ่งที่เรียกว่า เศษกรรม ติดกันไปทั้งนั้นค่ะ
http://gotoknow.org/journals/sasinanda/entries/16177