ค่ายธรรมปัญญา พัฒนาชีวิต ตอน เปลี่ยน ท เป็น ธ

โดย อุ๊ยสร้อย เมื่อ พฤศจิกายน 1, 2009 เวลา 8:57 (เย็น) ในหมวดหมู่ การเรียนรู้ชีวิต #
อ่าน: 2275

เรื่องของค่ายธรรมปัญญา พัฒนาชีวิต มีอีกหลายกิจกรรม

ที่ถูกใจวัย สว. คือ กิจกรรมของบ่ายวันที่ 2 คือ การทำสปา

เป็นกิจกรรมที่ท่านวิทยากรบอกว่า เปลี่ยน ท. เป็น ธ.

โดยท่านแม่ชีให้แง่คิดว่า ทุกวันนี้เราทำหน้าที่ หรือว่า ทำภาระ

ถ้าเราทำหน้าที่ กิจของเราที่ทำ ก็คือธรรม คือธรรมดา แต่ถ้าเราทำภาระ สิ่งนั้นก็จะทำให้เกิดทุกข์เพราะเราจะไปรับเอาไว้ไม่ปล่อยไม่วางเห็นเป็นภาระก็จะหนักอกหนักใจหากว่าทำได้ไม่ดีอย่างที่เราคาดหวัง ….เรื่องนี้ ท่านวิทยากร อ. ไก่ เคยอธิบายมาครั้งหนึ่งโดยยกตัวอย่างเรื่องทำกับข้าวให้คนในครอบครัว ถ้าเราทำเพราะหน้าที่ เราก็จะไม่ทุกข์ว่าคนกินแล้วติว่าหรือชม ถือว่าหน้าที่เราสิ้นสุด แต่ถ้าเรารับเป็นภาระเราก็จะทุกข์ถ้าทำไม่ถูกใจคนกิน

กิจกรรม ทำ ท. เป็น ธ. มีการแบ่งกลุ่มหลากหลาย บางกลุ่มก็ไปทำครัว บางกลุ่มอย่างของ สว. แบบอุ๊ยก็ไปหัดทำสปาเท้า โดยท่านวิทยากร อ. นอม อ. น้อง แนะนำว่านำวิธีการนี้ไปทำให้พ่อให้แม่จะทำให้ท่านหลับสบาย ….วิธีการคือเอามะกรูด ใบมะกรูด ไพล เกลือ มาผสมกันในน้ำอุ่นจัดๆ ในกาละมังใบโต แล้วเอาเท้าลงแช่ สลับกันนั่ง สลับกันขัดเท้าให้กัน กิจกรรมสนุกมากค่ะ เพราะว่าทุกคนมีหน้าที่ทำคนละอย่างสองอย่าง ต้องช่วยกันทำและช่วยกันขัดล้างสปาเท้าให้กันและกัน มีการนวดเท้าให้กันด้วย …

รายการนี้มีเกรงใจกัน เพราะบางครั้งคนอาวุโสต้องล้างเท้าให้คนที่เด็กกว่า…แต่ก็หัวเราะกันสนุกสนานดี

ตอนที่ถอดบทเรียน..วิทยากรก็บอกว่า เป็นกิจกรรมลดอัตตา เพราะเคยมีบริษัทหนึ่งพอถึงเวลาสปา หัวหน้าหงุดหงิดว่าทำไมท่านจะต้องมาทำหน้าที่ขัดเท้าให้คนอื่น …

ตอนที่ถอดบทเรียน ก็ได้สะท้อนคิดกันตั้งแต่เริ่มเลือกจะทำหน้าที่ และมีความรู้สึกอย่างไรในขณะที่ทำ มีหลายคนในกลุ่มก็บอกว่า เป็นความรู้สึกที่ดีเวลาที่มีคนมาดูแล ทำให้นึกถึงพ่อและแม่ว่า ถ้าได้ทำให้ท่านบ้างท่านคงรู้สึกดีมากเหมือนกัน …

เป็นกิจกรรมที่รู้สึกประทับใจทุกคนในกลุ่ม รับรู้ถึงความสุขที่แต่ละคนฉายออกมา…อย่างเช่นมีท่านหนึ่งชื่อป้าหมัย ท่านเลือกหั่นมะกรูด และก็หั่นได้บางเฉียบ ทำอย่างคล่องแคล่วว่องไว เห็นแล้วอยากหั่นบ้างก็ไปนั่งสังเกตนั่งมอง สุดท้ายก็ไม่ได้ขอทำเพราะมองเห็นว่าป้าหมัยมีความสุขในการได้ทำ…..

พอตอนจะจบ วิทยากรท่านก็พูดถึงแนวทางของธรรมะ ว่าแนวทางนี้ของหลวงพ่อทูล อาจจะมีคนไม่เข้าใจว่าทำไมสอนธรรมะแบบนี้ ปฏิบัติธรรมทำไมไม่นั่งสมาธิสวดมนต์ภาวนา ยุบหนอพองหนอ และอาจจะไม่ยอมรับว่าวิธีการที่นำมาเป็นแนวสอนนี้เป็นการปฏิบัติธรรมได้อย่างไร

อุ๊ยเลยขออนุญาตเรียนเสนอความเห็นแลกเปลี่ยนกับท่านวิทยากรว่า อุ๊ยคิดว่าเรื่องของการปฏิบัติอะไรก็ตามหากว่ามีความสุข ถึงเราไม่ประกาศใครว่าเรามีความสุข ก็เป็นสิ่งที่รับรู้ได้…..เหมือนป้าหมัยหั่นมะกรูด ก็นั่งดูป้าหมัยทำอย่างคล่องแคล่ว ได้เฝ้าสังเกตเห็นก็รับรู้ว่าป้าหมัยมีความสุข และความสุขนี้ก็ดึงดูดให้คนอื่นอยากลองทำอย่างป้าหมัยบ้าง ก็ได้เรียนรู้ไปกับการทำของป้าหมัยว่า เราจะทำหน้าที่อย่างไรให้เกิดความสุขความปิติในชีวิตการทำหน้าที่ของเราทุกๆวัน (ทางธรรมก็คงเช่นกัน ผู้ปฏิบัติในแนววิธีการใดก็ตามแล้วทำให้เป็นผู้ที่มีความสุขมีปัญญาในการไตร่ตรองสิ่งต่างๆ…. คนอื่นที่รับรู้ก็จะสนใจมาอยากศึกษาปฏิบัติด้วย…)  ในวงเล็บไม่ได้พูดแต่คิดว่าถึงไม่พูดวิทยากรท่านก็คงรับรู้

ตอนหลังมีท่านผู้เข้าร่วมกิจกรรมท่านหนึ่งมาชมซึ่งหน้าว่า อุ๊ยเก่ง พูดแล้วทำให้เข้าใจง่ายฟังแล้วทำให้รู้สึกว่าชีวิตมันง่ายขึ้น ยอมรับสิ่งต่างๆได้ง่ายขึ้นและไม่ต้องแบกความสงสัยว่า ใช่หรือไม่ใช่ ในเรื่องการปฏิบัติว่า เป็นปฏิบัติธรรมหรือไม่ใช่ปฏิบัติธรรม….

เออ…แฮะ…เพิ่งเคยได้ยินคนชมว่าอุ๊ยเก่ง….อิอิ…

คืนที่สองเลยนอนแล้วรู้สึกว่า หลังไม่แตะฟากเลย…มันลอยๆชอบกล…5555

ค่ายธรรมปัญญา พัฒนาชีวิต ตอน ระวังเหตุสังเกตผล...ค่ายธรรมปัญญา พัฒนาชีวิต ตอนมื้อกลางวัน...ภาษา...ไปเข้าค่าย ธรรมปัญญา พัฒนาชีวิต (1)...อ่านป้ายรายทางก่อนเลือกตั้ง...

« « Prev : ค่ายธรรมปัญญา พัฒนาชีวิต ตอนมื้อกลางวัน

Next : เตรียมไปสวนป่าในโครงการ “วิถีพอเพียง:ชีวิตที่มีคุณค่า” » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.8819887638092 sec
Sidebar: 0.035627126693726 sec