ห้วยขาแข้ง: ผ้าป่ามหากุุศล

โดย อุ๊ยสร้อย เมื่อ มกราคม 8, 2014 เวลา 11:17 (เย็น) ในหมวดหมู่ การเรียนรู้ชีวิต, ห้วยขาแข้ง, เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 43113

กิจกรรมในการไปห้วยขาแข้งครั้งนี้ มีการดำรงความเป็น “เพื่อนร่วมโลก” ด้วยการ “สร้างบุญ” ร่วมกันด้วยค่ะ

ในวันที่ 9 ธันวาคม มีกิจกรรมทอดผ้าป่ามหากุศลที่ด่านทุ่งแฝก การทอดผ้าป่านี้เพื่อสมทบทุนมูลนิธิห้วยขาแข้ง เพื่อสร้างจิตสำนึก ป้องกันไฟป่า และเชิดชูเกียรติผู้ดูแลปกป้องห้วยขาแข้งมรดกโลก

ก่อนหน้าการทอดผ้าป่า มีเวทีวิชาการ เรื่อง “ปัญหาสิ่งแวดล้อม อุปสรรคที่พบเจอ แก้ไขอย่างไร เหมือนหรือแตกต่างกับห้วยขาแข้ง”

วิทยากรระดับมือพระกาฬ นั่งเรียงรายบนเวที

P1070436

รอบๆ บริเวณมีการขายของอยู่ด้านหนึ่ง

ที่น่าสนใจคือพวกสมุมไพร และพุทราป่า กับของขบเคี้ยวนิดหน่อย

P1070432P1070434 P1070435

แม่ค้าพุทราเข้าใจทำ เอาพุทราทั้งแบบแห้งแดดเดียว แห้งหลายแดด และพุทราเชื่อมน้ำตาล มาเรียงล่อน้ำลาย ขายดิบขายดี จนเกลี้ยงร้าน สุดท้ายครูอารามยกเหมาถุงหลายกิโล

P1070433

พุทรามีประโยชน์มาก เพราะมีกากใยช่วยในการขับถ่ายระบายดี คนจีนนิยมเอามาตุ๋นกับถั่วเมล็ดแห้ง อร่อยและหอมด้วยค่ะ

ระหว่างที่รอกันไปรอกันมาก่อนเริ่มเวทีวิชาการ ป้าหวานเธอก็ขยันขันแข้ง เอารายชื่อของผู้ที่สั่งข้าวอินทรีย์มานั่งพิมพ์ ..ช่วยกันพิมพ์ ช่วยกันตรวจคำผิดเป็นเรื่องที่ดีเมื่อพบว่ามีรายชื่อตกหล่น หรือพิมพ์ผิดก็ได้ช่วยกันดู

เรื่องพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกนี้ ทำให้นึกถึงคนทำงานสมัยก่อน ที่เครื่องพิมพ์แบบพิมพ์ดีดธรรมดา ถ้าพิมพ์ผิดก็ต้องมาหายางลบค่อยๆ ลบไม่อย่างนั้นกระดาษจะเปื้อน ต่อมามีพวกน้ำยาป้ายคำผิดมาช่วยให้กระดาษไม่เปื้อนมาก (ที่จริงอยากเรียกว่าน้ำยากลบเกลื่อนความผิด– เพราะว่าพวกน้ำยาพวกนี้ เมื่อเวลาผ่านไปตัวหนังสือก็โผล่อยู่ดี)

การจะแก้ไขสิ่งที่พิมพ์ผิดในอดีตนั้นต้องพิถีพิถันมาก ขยับแป้นพิมพ์ขึ้นลงเพื่อลบคำผิดถ้าขยับไม่ดี แถวบรรทัดก็จะเขย่ง ต้องเริ่มต้นแผ่นใหม่

คนยุคก่อนก็จะนิยมป้องกันการพิมพ์ผิดไว้ก่อน คือทบทวนร่างสิ่งที่จะพิมพ์ ขณะพิมพ์ต้องมีสติจิ้มแป้นพิมพ์ให้ถูกต้อง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ผิดแล้วต้องลบ

การรับงานเลขานุการหรือเสมียนสมัยนั้น เขาสอบเข้าด้วยการให้พิมพ์สัมผัสและนับจำนวนคำต่อนาทีและนับคำผิด

การตรวจงานสมัยก่อน จึงไม่ยุ่งยากมากนัก ดูแต่สำนวนบ้างเพราะเลขาฯ หรือเสมียนจะกลั่นกรอง และตรวจสอบคำผิดมาล่วงหน้า

สำหรับสมัยใหม่นี้ เครื่องคอมพิวเตอร์เข้ามาแก้ไขทุกอย่างให้มากขึ้น พิมพ์ผิดหรือถูก เครื่องก็ช่วยแสดงสัญลักษณ์เตือนว่าพิมพ์ผิด

คนยุคนี้จำนวนมากไม่ร่างเอกสารก่อนพิมพ์เพราะเสียเวลา พิมพ์ผิดเครื่องก็ให้แก้ไขได้

แต่ก็เจอความน่าแปลกใจว่า งานที่ตรวจสมัยนี้กลับเจอคำผิดมากขึ้น การเรียงประโยควรรคตอนไม่สวยงามเท่าคนยุคก่อนทำ และสำนวนภาษาก็ดูเหมือนว่าจะสับสนกันกว่าก่อน

ไม่คิดจะโทษใครหรอกค่ะ

เมื่อเข้าสู่ยุคสมัยของความสบาย การพึ่งพาตัวเองลดลงมากอย่างนี้ การตรวจสอบด้วยตนเองย่อมลดลงและไปไว้ใจเครื่องมืออื่นเข้ามาตรวจสอบแทน ถ้าไม่มีการตรวจสอบก็จะเข้าใจ(ไปเองอย่างอัตโนมัติ) ว่าสิ่งนั้นเหมาะสมแล้ว ดีแล้ว เพราะ “ใครๆ ก็ทำกัน ไม่เห็นมีใครว่าอะไรสักคนนี่นา” สุดท้ายก็คุ้นชินกับการทำงานที่ไม่ตรวจสอบและไม่อยากให้ใครมาตรวจสอบ

คนก็จะทำงานละเอียดน้อยลงเรื่อยๆ เพราะคุ้นเคยกับความสบาย พิมพ์ผิดใช้ไม่ได้ก็สั่งเครื่องพิมพ์ใหม่ เพราะไม่ต้องบรรจงลบอีกแล้ว เกิดความสิ้นเปลืองที่อาจจะไม่มีใครเห็นหรือเห็นก็มองเป็นเรื่องธรรมดา ละเลยว่ากว่าจะเป็นกระดาษแต่ละแผ่นสิ้นเปลืองต้นไม้ไปกี่มากน้อย ไม่เห็นความต่อเนื่องเชื่อมโยงของการใช้ชีวิตร่วมโลกเดียวกันว่าต้นไม้ที่เป็นแหล่งพักพิง แหล่งอาหารของสัตว์น้อยใหญ่ รวมทั้งคนที่ต้องได้รับอากาศที่ดี ถูกทำลายลงไปมากขึ้นๆ เพราะความละเอียดรอบคอบของคนที่น้อยลงๆ

เมื่อรู้สึกธรรมดากับความสบายจนเคยตัว และเมื่อมีความละเอียดน้อยลง การใช้ชีวิตจะไม่ได้คำนึงถึงความต่อเนื่องเชื่อมโยงกับชีวิตอื่นๆ เมื่ออยากทำโครงการอะไรก็จะเร่งรีบ ละเลยเรื่องราวของการพึ่งพาอาศัย ละเลยทุกข์สุขของคนอื่น ไม่ตรวจสอบด้วยตนเองและหวังพึ่งพาให้อุปกรณ์ไร้ใจต่างๆ เข้ามาแทนหัวจิตหัวใจของคนด้วยกัน…

โลกก็ไหลไปตามกระแสความสบาย ไม่รู้ร้อนรู้หนาว รู้ทุกข์รู้สุขกับทุกข์ของคนอื่นไปด้วย…

ใครจะตัดป่าไม้ ใครจะทำโครงการเขื่อน ใครจะกินหัวคิวหางคิวบ้าง ก็ไม่อยากไปรับรู้ ขอให้ตัวเองสบายแบบด่วนๆ ไว้ก่อน

ใครเดือดร้อนก็ให้ไปเรียกร้องเอา เรียกค่าประกันตรงนั้นตรงนี้เอาเอง จะได้ไม่ได้ก็เรื่องของเขา

การจะให้คนที่ละเลยทุกข์สุขของเพื่อนร่วมโลก หันกลับมาดูแลกันและกัน คงเป็นโจทย์ที่ท้าทายเป็นอย่างมากสำหรับคนทำงานด้านการพัฒนาที่อยากเห็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยประชาชนสามารถพึ่งพาตัวเองได้และมองเห็นสายสัมพันธ์ของการพึ่งพาอาศัยกัน

ภาคประชาชนที่จะหันกลับมาดูแลต้นไม้ อนุรักษ์ทรัพยากรเพื่อคงสภาพให้เป็นแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่างๆนั้น ก็ต้องตระหนักรู้ภัยพิบัติของกระแสหลักของสังคมที่เลื่อนไหลสู่สังคมบริโภคและการเป็น “ตัวกูของกู” ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของทุกวันนี้ รวมถึงเรียนรู้และเข้าใจตนเองอย่างถ่องแท้เพื่อเกิดอิสระทางความคิดที่จะพัฒนาสู่การพึ่งพาตนเอง

ทั้งภาคประชาชนและภาครัฐน่าจะเรียนรู้ร่วมกันผ่านเทคโนโลยีช่วยการเรียนรู้ ในขณะที่ การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลยังน่าจะเป็นหัวใจของการทำงานร่วมกันในทุกพื้นที่ ซึ่งจะทำได้อย่างนั้นคงเป็นเรื่องของใจที่เปิดกว้าง รับฟังกันและกัน ของทั้งสองฝ่าย จะทำอะไรก็คงต้องรอบคอบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คิดก่อนทำ ระหว่างทำก็มีสติในสิ่งที่ถูกต้อง

จะดันทุรังทำไปแบบผิดๆ แล้วค่อยไปหาน้ำยากลบเกลื่อน เช่นกลบเกลื่อนด้วยช่องว่างกฏหมาย ด้วยประชานิยม หวังมาลบสิ่งที่ทำผิดๆ เหมือนพิมพ์ผิด อย่างนั้นคงไม่ได้ เพราะสิ่งที่เสียหายไปนั้นไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียวที่ขยำทิ้ง แต่มันแลกด้วยชีวิตคน ชีวิตสัตว์และอนาคตของประเทศ

ภายหลังการทำพิธีทอดกฐินแล้ว กิจกรรมของชาวคณะยังไม่จบสิ้น แต่เนื่องเพราะหลายคนมีกิจต้องกลับไปเตรียมตัวสำหรับการทำงาน ทีมเชียงใหม่-ลำพูน ทีมปักษ์ใต้ ทีมอิสาน ทีมพิษณุโลก(+เชียงราย) ก็ขอตัวแยกย้ายกันกลับก่อน

เก็บภาพความทรงจำที่ดี การเรียนรู้ร่วมกันในโอกาสนี้ เพื่อทบทวน ไตร่ตรอง และนำเสนอสิ่งที่พบเห็น ประสบการณ์ และบรรยากาศที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน เพื่ออาจจะเป็นประโยชน์ต่องานการดูแลสิ่งแวดล้อม

ขอขอบคุณ ทุกๆ ท่านที่มีส่วนร่วมในการดำเนินการโครงการ อำนวยความสะดวก และการให้โอกาสมาเรียนรู้ร่วมกัน ตลอดจนชาวเฮฮาศาสตร์ทั้งหลานๆ เด็กๆ และพี่ป้าน้าอาที่มีส่วนสนับสนุนให้กิจกรรมต่างๆ สนุกสนานและมีความสุขในการพบปะกันค่ะ

P1070423 P1070427 P1070419

ห้วยขาแข้ง: แรงของใจ 1...ห้วยขาแข้ง: เขื่อนทับเสลา...ห้วยขาแข้ง: หมุดแผนที่บนเขาสะแกกรัง...ห้วยขาแข้ง: อนุสรณ์สถานสืบ นาคะเสถียร...ห้วยขาแข้ง: อุทธยานแห่งชาติแม่วงก์ และมออีหืด...

« « Prev : ห้วยขาแข้ง: อุทธยานแห่งชาติแม่วงก์ และมออีหืด

Next : เที่ยวอีสานผ่านงานศิลป์ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

5595 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 8.4185781478882 sec
Sidebar: 0.051698923110962 sec