ไปงาน HA National Forum ( 2 )

3 ความคิดเห็น โดย ครูโย่ง เมื่อ 13 มีนาคม 2009 เวลา 19:16 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2351

สวัสดีครับ

หลังจากที่พวกเราเสร็จสิ้นภารกิจ ก็เลยมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกันซะหน่อย พี่ไก่ประกาย บอกว่า เดี๋ยวจะไม่มีหลักฐาน อิอิ  ถ่ายกันไป ถ่ายกันมา  ปรากฎว่า อ.ขจิต กลายเป็นตากล้องจำเป็นซะงั้น โดย ถ่ายภาพให้เหล่า คุณหมอ พยาบาล ทั้งหลาย งานนี้ อ.ขจิต บอกสู้ตาย เพราะคุ้นเคยกับคุณพยาบาล คุณหมออยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆ

 

 

 

รับจ้าถ่ายภาพ

 

หลังจากสร้างภาพเสร็จ พี่ไก่กับพี่แก้วก็ไปซื้อเสื้อ ซึ่งเป็นเสื้อของงาน HA

ง่วนกันใหญ่

หลังจากถ่ายภาพเสร็จ ก็เลยเข้ามานั่งรอเพื่อที่จะรอพบกับแม่ต้อยและ อ.หมอJJ  ผมเพิ่งเจออ.หมอJJ  ครั้งแรกครับ เข้าไปทักสวัสดีครับ คุณหมอ JJ. หมอมองหน้าผม แล้วก็งง ๆ ว่าผมเป็นใคร ก็เลยบอกว่า ผมครูโย่งครับ เท่านั้นแหละ หมอบอก เอ้า เหรอ ก็เลย เอากล้องออกมาถ่าย ไม่รอช้า หมอถ่ายผม ก็เลยถ่ายกลับ ภาพก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ ครับ

ต่างคนต่างถ่าย อิอิ

นี่ไงครับคุณหมอ JJ เพิ่งเจอตัวเป็น ๆ ครั้งแรกครับ

       หลังจากนี้ก็เป็นมหกรรมการกอดอีกแล้วครับท่าน หลังจากกอดคุณหมอ JJ แล้ว ก็เลยเข้าไปทักแม่ต้อย สวัสดีครับ แม่ต้อยทักกลับว่า สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ามาจากโรงบาลไหนคะ ผมก็เลยบอกว่า ครูโย่งครับ เท่านั้นแหละ แม่ต้อย บอกอ้าว เหรอ ก็เลยโผเข้ากอดกันใหญ่ อิอิ

แม่ต้อยครับ

กอดไม่บันยะบันยัง

พี่ไก่ ประกาย พี่แก้ว ครูโย่ง แม่ต้อย อ.ขจิต หมอ JJ ครับ

       พวกเราขึ้นไปรอแม่ต้อยและพอลล่าชั้นสอง ปรากฎว่าได้เจอกับ คุณหมอสุพัฒน์ ด้วยครับพี่น้อง คุณหมอสุพัฒน์ งงเล็กน้อย แต่เนื่องจากงานเข้าก็เลย ได้ถ่ายภาพแป๊บเดียว

แต่มีสองคนในภาพครับไม่รู้เล่นอะไรกัน ตามไปดูภาพกัน อิอิ

ฮาจริงๆ

หลังจากกอดเสร็จ ก็เลยเข้ามานั่งรอ พอลล่า และแม่ต้อย และแล้วก็ได้เจอ พี่นุชช่า อิอิ เจอกันแล้ว งานนี้พลาดการกอดได้ไง

นั่งรอสักพักพอลล่าก็เข้ามาเรียก พี่ ๆ ขา  หิวไหม ค่ะ พอลล่าเลี้ยงส้มตำ  ปรากฎว่า เป็นอาหารบุฟเฟ่ ส้มตำไก่ ย่าง ข้าวเหนียว งานนี้ ส้มตำปู ไม่รู้ว่าอร่อยหรือไม่อย่างไร ตามไปดูภาพเลยครับพี่น้อง

 

 

 

 

สำหรับบันทึกนี้ เอาไว้แค่นี้ก่อนโปรดติดตามตอนต่อไป ครับ


ไปงาน HA National Forum ( 1 )

8 ความคิดเห็น โดย ครูโย่ง เมื่อ 13 มีนาคม 2009 เวลา 12:20 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2095

สวัสดีครับพี่น้องชาวลานทุกท่าน

       เมื่อวานนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในงาน HA National Forum ครั้งที่ 10  ที่ ศูนย์การประชุม IMPACT เมืองทองธานี โดยได้รับเกียรติจาก ท่านที่ปรึกษาของเรา คือ น้องพอลล่า นั่นเอง ได้เชิญไป โดยมีอ.ขจิต ร่วมด้วย

ซึ่งตัวผู้เขียนเองเดินทางไปถึง อิมแพค ประมาณ บ่ายสองโมงกว่า ๆ โดยหลงทางอยู่พักหนึ่ง อิมแพค เป็นอะไรที่ใหญ่มากๆ ต้องอาศัย ถามทางจากเจ้าหน้าที่และใช้รถรางเป็นตัวช่วย กว่าจะเดินทางมาถึง เล่นเอาซะเหงือตกกีบเลย อิอิ

ผมเดินทางมาที่ ห้อง คอนเวนชั่น ฮอลล์ ก็เจอพอลล่า เลย เพราะพอลล่ามารับ จากนั้นก็ไปที่เวทีที่จะร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พอไปถึงกำลังมีการแสดงหมอลำซิ่งอยู่ แต่เป็นแบบ หมอลำซึ่งอะคูสติก โดยใช้แคนหนึ่งตัวและ กีตาร์หนึ่งตัว ลงตัวกันมาก    ทราบภายหลังว่าคนที่เป็นหมอลำเป็นถึงพยาบาลด้วย โอ้ มายด์กอด เก่งขั้นเทพ

 

 

พอถึงเวที มหกรรมการกอดก็เกิดขึ้น ผมเจอกับพี่แก้ว อุบล และพี่ไก่ประกาย ครั้งแรก เจอกันแล้วภาพก็เลยเป็นแบบนี้ครับ ร่วมด้วยน้องพอลล่า และอ.ขจิต

กอดพี่ไก่ ประกาย

กอดพี่แก้วอุบล

กอดน้องพอลล่า

และกอดหมดเลย อิอิ

หลังจากที่การแสดงของหมอลำอะคูสติกจบลง ก็ได้เวลาของพวกเราชาวคณะ อิอิ พอลล่าคว้าไมค์ไปก่อนจะแนะนำ พิธีกร และวิทยากรที่จะมาช่วยให้ความรู้เกี่ยวกับ การใช้งานของบล็อกและประสบการณ์ต่าง ๆ ของบล็อกเกอร์

เริ่มต้นด้วยพี่แก้วอุบล พูดถึง การนำประสบการณ์ต่าง มาบันทึกเรื่องราวผ่านบล็อก ไม่ว่าจะเป็นบล็อกเรื่องงาน เรื่องทั่วไป เรื่องท่องเที่ยว  จากนั้น พี่ไก่ ประกาย ก็ได้นำประสบการณ์ต่าง ๆ มาพูด โดยเฉพาะเรื่องพี่ไก่ ชอบกล้วยไม้ โดยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านบล็อก ไป ๆ มา ๆ พี่ครูคิมก็หอบ กล้วยไม้มาให้เยอะแยะ ซึ่งเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์จริง ๆ หลังจากที่นั้นหมอเจ้ก็เดินมา อ.ขจิตบอกว่า ไปตามหมอเจ้สีเสื้อส้มมา ด่วน ผมก็เลยไปคว้าตัวหมอเจ้มาแชร์ประสบการณ์ต่าง ๆ ผ่านบล็อกเลย หลังจากทั้งสามท่านได้แบ่งปันประสบการณ์ดีๆ 

 

 

ก่อนหมอเจ้ไป ขอกอดก่อนไป อิอิ รู้อะไรไหมครับพี่น้อง จะมาบอกว่า หมอเจ้ สูง พอๆ กับครูโย่งเลย

โดยใช้ตัวช่วย อิอิ

 

เสร็จแล้ว อ.ขจิตก็เลยอยากให้คนที่มาฟังสมัครสมาชิกกันสด ๆ บนเวทีกันเลย กะจะทำเป็นขั้นตอนเพื่อให้ผู้สมัครหน้าใหม่ได้เป็นสมาชิก และได้มีบันทึกใหม่ ๆ แต่ปรากฏว่า เน็ตเจ้ากรรมดันล่มก็เลยแก้ปัญหาโดยการบอกวิธีและขั้นตอนเข้าไปสมัคร ( โถ่ อ.ขจิต หลอกให้เขาขึ้นเวที อิอิ )

สำหรับบันทึกนี้ เอาไว้แค่นี้ก่อนครับ แล้วค่อยมาต่อ เพราะมีอะไรที่จะเขียนเยอะเลยครับพี่น้อง


คอนเสิร์ตหัวหมาก

4 ความคิดเห็น โดย ครูโย่ง เมื่อ 10 กุมภาพันธ 2009 เวลา 23:19 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1640

สวัสดีครับ

       หายหน้าหายตากันไปนาน เนื่องจากพิษงานเข้า และพิษเน็ต ตอนนี้ใช้งานได้ปกติแล้วครับ  มีเรื่องราว หลาย อย่างที่อยากบันทึก

        บันทึกนี้ก็เป็นอีกอันทึกหนึ่งที่อยากบันทึกแต่ไม่ได้บันทึก

        คือ ได้มีโอกาสไปร่วมเล่นดนตรี ในงานคอนเสิร์ต กีฬา หัวหมากเกมส์ที่รามคำแหง โดย

วงเรา แนน พันธุ์ทิพย์ ได้ขึ้นเล่นประมาณ สามทุ่ม เล่นเพลงทั้งหมด 4 เพลง ไปดูภ่าพคอนเสิร์ตกันครับ

ขอหล่อก่อน อิอิ

บรรยากาศก่อนขึ้นคอนเสิร์ต

โห ถ่ายไกลมาก

เทห์จริงๆ อิอิ

ขอบคุณที่ให้กำลังใจครับ 


ชวนมาชื่นชมลุงเอก

13 ความคิดเห็น โดย ครูโย่ง เมื่อ 2 กุมภาพันธ 2009 เวลา 19:34 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2726

สวัสดีครับ

       เมื่อวาน ครูโย่งกำลังสอนเด็ก ๆ อยู่ เผอิญมีหนังสืออยู่เล่มหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ เหลือบไปหยิบมาดู รู้สึกคุ้นหน้ามาก ๆ ก็เลยไม่แน่ใจ ไปเปิดอ่าน ปรากฎว่า เป็นลุงเอก ของพวกเราชาวโกทูโนว์ นั่นเอง ครับเป็นหนังสือ ครอบครัวพอเพียง ฉบับเดือนธันวาคม

       พอได้เข้าไปอ่าบนทความของลุงเอก รู้สึกอบอุ่นในแนวคิดของลุงเอก อย่างหนึ่งในการเลี้ยงลูกคือ ลุงเอกบอกว่า ลูกไม่ต้องเรียนเก่ง แต่ต้องอยู่ในสังคมให้ได้ เรียนเก่งแล้วเห็นแก่ตัว เอาเปรียบคนอื่น พ่อไม่ต้องการ ลูกของลุงเอก เรียนไม่เก่ง แต่ทำงานและอยู่ร่วมกับสังคมได้ เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ลุงเอกบอกว่า ครอบครัวเอกน่ารักและอบอุ่นมาก อ่านแล้วรู้สึกดีมาก ๆ ครับ ขอบคุณลุงเอกมากครับ ผม

      

พลเอก เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า

 

ตั้งแต่ผมเกิดมาจำความได้ คุณพ่อของผมเป็นทหาร เป็นทหารอากาศ เป็นทหารการเงิน เป็นตัวอย่างในชีวิตของผม เพราะท่านเป็นคนตรงมาก เรื่องระเบียบวินัย ความเคร่งครัด ผมได้รับการสอนจากคุณพ่อเป็นอย่างดี คุณแม่ผมเป็นแม่ค้าขายของ ขายขนม ขายจิปาถะ สมัยผมเรียนมัธยม ทุกเช้าผมจะห่อขนมไปขายที่โรงเรียนด้วย จนเพื่อนๆ ล้อ และให้สมญานาม แต่ผมภูมิใจนะ ภูมิใจในสิ่งที่ผมทำ

 

การดำเนินชีวิตของผมนั้น ผมยึดถือการทำงานแบบปิดทองหลังพระ คือหมายความว่าเราจะไม่ทำงานแบบที่ว่าทำไปประชาสัมพันธ์ไป โปรโมทตัวเองไป แต่เมื่อเราได้ทำงานมาแล้วถึงจุดหนึ่ง ดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสไว้ว่า เมื่อทองล้นมาหน้าพระแล้วคนทั่วไปก็จะเห็นเอง ผมเป็นข้าราชการทหาร ผมมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ในทุกๆ เรื่อง ผมจะไม่เคยไปสั่งหรือบงการใครว่าต้องทำ แต่ผมจะค่อยๆ บอก ค่อยๆ แนะนำว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนถ้าทำแล้วจะเกิดผลอย่างไร ผมชอบแนะนำและชี้แนะหนทางกับทุกคน ทุกเรื่อง และเมื่อทำมาแล้วมาถึงจุดจุดหนึ่ง เราก็คิดว่าเรารับรู้ได้ ว่าสิ่งที่เราทำมาตลอดชีวิตนี้ ตั้งแต่ทำงานมา ได้มาปรากฏให้เห็น ซึ่งเราก็ไม่รู้สึกตัวหรอก แต่ว่ามันก็เริ่มรับรู้ได้จากการที่สังคมยอมรับในความคิดของเรา เช่นในปัจจุบัน การได้รับเกียรติจากหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ ที่มาเชิญไปบรรยายในหลายๆ เรื่อง หลายๆ แห่ง

 

จนถึงวันหนึ่งที่ได้รับมอบหมายให้ทำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยความเข้าใจว่าเรื่องของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้นไม่ใช่เรื่องของการเกษตรเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องทางด้านจิตใจ เป็นเรื่องของการที่จะปรับวิถีชีวิตให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ของแต่ละบุคคล โดยยึดหลักธรรม รวมถึงธรรมชาติ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ หลักของท่านพระพุทธทาส คือทำตัวให้เป็นธรรมชาติ ทำยังไงให้ชีวิตเป็นธรรมชาติ เราจะไม่ทุกข์ร้อน จะไม่เดือดร้อน ปัญหาหนักหนาสาหัสยังไงเราก็จะถือว่าเป็นธรรมชาติ เพราะเราจะไม่ฝืนธรรมชาติ ไม่ฝืนกระแสน้ำ ฝืนกระแสลม อันนี้เป็นจุดสำคัญ เพราะฉะนั้นใครจะแรงมา ใครจะมีปัญหา เราก็ไม่มีปัญหา เราก็ไม่แรงด้วย เราก็จะโอนอ่อนผ่อนตามไป อันนี้คือการดำเนินชีวิต

 

ในด้านความเป็น พ่อ ผมได้รับการคัดเลือกให้เป็นพ่อดีเด่นแห่งชาติเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก แต่สิ่งที่ทำให้ผมได้สิ่งนี้ก็เนื่องมาจากแนวคิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ทำแล้วไม่ต้องหวังว่าใครจะมาตอบแทน ทำแล้วไม่ต้องหวังว่าจะได้อะไร ผมจึงสอนลูก ถึงจะเรียนไม่เก่งก็ไม่เป็นอะไร แต่ต้องไม่เห็นแก่ตัว ทุกวันนี้การแข่งขันมันสูง แข่งขันกันตั้งแต่เด็ก ผมว่าการแข่งขันกันจนเกินไปมันก่อให้เกิดการเห็นแก่ตัว และยิ่งในกระแสทุนนิยม ทำให้คนเห็นแก่ตัว เมื่อคนเห็นแก่ตัวก็จะไม่คิดถึงการทำอะไรที่เป็นกิจสาธารณะ ทำประโยชน์เพื่อคนอื่น ขาดการแบ่งปัน เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าสังคมไทยในทุกวันนี้มาถึงจุดที่ว่า เราอยากทำอะไรเพื่อตัวเองอย่างเดียว ไม่อยากทำให้เพื่อประเทศชาติ ทำให้เพื่อคนอื่น แม้แต่ทะเลากันนั่นก็คือผลประโยชน์ตัวเองทั้งสิ้นเลย ไม่ใช่ทะเลาะแล้วทำให้ประเทศชาติเจริญขึ้นมาเลย

ฉะนั้นผมจึงบอกลูกผมเสมอว่า ลูกไม่ต้องเรียนเก่งนะ แต่ลูกต้องอยู่ในสังคมได้ เพราะเราถือว่าตรงนี้สำคัญมากกว่าการเรียนที่จะอยู่ในสังคมได้ เพราะว่าการดำเนินชีวิตได้ในสังคมต้องมีการปรับตัว แต่ถ้าเมื่อเรามุ่งแต่จะเรียนเก่ง เราก็จะเห็นแก่ตัวมาก ก็จะไม่ยอมทำอะไรเพื่อนคนอื่น และก็ยังคอยกีดกัน คอยปิดบังคนอื่นตลอดเวลา ผมเลี้ยงลูกค่อนข้างปล่อยอิสระ ลูกผมเรียนแย่มากเลย แต่ก็บอกลูกว่าไม่เป็นไร แต่จะทำอย่างไรให้อยู่ในสังคมได้พอแล้ว จนกระทั่งเค้าเรียนจบมา แต่กลับทำงานได้ดีกว่าคนที่เรียนเก่ง ผู้ใหญ่ให้ความรักและความเอ็นดู มีแต่คนชอบ ไม่มีใครรังเกียจ ผมจะสอนลูกสาวในเชิงป้องกันทางจิตใจมากที่สุด สอนให้เข้าใจในเหตุและผลของสิ่งต่างๆ ตั้งแต่เล็กจนโต ครอบครัวผมอบอุ่นมากครับ”

ขอบคุณพี่ ธ.วัชชัย ที่พิมพ์มาให้อ่านนะครับ น่ารักจริงๆ ครับพี่น้อง

 

 


มาแนะนำตัวครับพี่น้อง

25 ความคิดเห็น โดย ครูโย่ง เมื่อ 31 มกราคม 2009 เวลา 12:53 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1068

สวัสดีครับ

       หลังจากลูบ ๆ คลำ ๆ มาตั้งนาน พยายามแล้วพยายามอีก วันนี้ครูโย่งมีโอกาสได้มาเปิดบล็อกที่ลานปัญญาได้สำเร็จแล้วครับ

วันนี้มีความพยายามอย่างหนึ่งคือ โทรขอความช่วยเหลือจากน้องจิ นึกว่าจะช่วยอะไรได้ ทีแท้ น้องจิ บอกว่า มีคนสมัครให้แป่ววววว

น้องจิแนะนำให้โทรหาอาเหลียง และให้เบอร์อาเหลียงมาก็เลยโทรหา อาเหลียงบอกผมลืมแล้ว มันนานมาก ๆ ครูโย่งลอง คลำ ๆ ไป

ดูคู่มือและทำตาม ปรากฎว่า ได้ลูบคลำจนได้ผล  อิอิ

        ขอบคุณทุกท่าน ขอฝากเนื้อฝากตัวคนตัวเล็ก ๆ เด็กตำดำ ไว้ด้วยนะครับ



Main: 0.58347797393799 sec
Sidebar: 0.29169106483459 sec