โจทย์บ้านเราเหมือนกันหมด ? ทำยังไงดีน้อ………

โดย จอมป่วน เมื่อ 19 มกราคม 2009 เวลา 23:15 ในหมวดหมู่ จอมป่วน, เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 2161

โจทย์บ้านเราเหมือนกันหมด ? ทำยังไงดีน้อ………

ที่สวยๆน่าเที่ยวแบบนี้

สักพักก็มีปัญหากลายเป็นแบบนี้ แถมหนักข้อขึ้นทุกวัน

โจทย์ครั้งนี้เป็นเรื่องของเกาะช้าง แต่ไม่ว่าจะเป็นเกาะภูเก็ตของทั่นอัยการ เกาะสวยๆของหมอเจ๊ เอ๊ย สาวตา หรือเกาะสมุยก็จะเป็นโจทย์เดียวกัน (ขอคุยกันแต่เรื่องของเกาะ เว้นไม่พูดถึงเมืองต่างๆไว้ก่อน)

เกาะต่างๆที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เดิมก็จะมีอาชีพเกษตรกรรมและประมงเป็นหลัก ไม่ทราบเหมือนกันว่าอยู่เป็นสุขกันดีไหม ? แต่พอฝรั่งเริ่มมาเที่ยวเพราะชอบธรรมชาติ ชอบแบบยังดิบๆอยู่ พวกเราก็เริ่มไปเที่ยวกันบ้าง ฝรั่งก็หนีไปหาที่ที่เงียบๆ ยังดิบๆอยู่ พวกเราก็ตามไปทำให้สุก ? เกิดปัญหาที่คล้ายๆเดิม คือ ลงทุนก่อสร้างที่พัก บุกรุกป่าสงวนและชายหาด ผู้คนก็อพยพเข้ามาขุดทอง ทั้งแรงงาน การขายบริการ และทำลายวิ่งแวดล้อม เที่ยวนี้เจอทั้งแสงสี ดนตรี แถมมีเต้นด้วยที่ชายหาดเลย อิอิ

ยืมสไตล์ครูบามาใช้บ้างครับ

เรื่องราวแบบนี้เกิดซ้ำๆซากๆ เราไม่เคยเรียนรู้กันเลยหรือ ?

เราจะแก้ไขยังไงกันดี ?

ใครควรจะทำอะไร ?

จะเริ่มต้นกันยังไงดี ?

…… ?????????

)(&@%&)(_(@^_+!)~%$$*@%*&^%&*

ผมก็ได้โจทย์มาว่าจะพยายามเริ่มทำความเข้าใจว่าทุกๆฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ไข ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน

อาจจะเป็นจุดเล็กๆจุดนึงที่พยายามเริ่มทำเพื่อแก้ไขปัญหาตามกำลัง ความรู้ความสามารถที่มี ก็คงจะดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

ใครมีข้อเสนอแนะอะไรดีๆ ช่วยด้วยครับ ไอ้แบบบ่นไปบ่นมาแล้วไม่รู้จะทำอะไรก็ขอร้องครับ ปวดหัวๆๆๆๆๆๆๆๆ อิอิอิอิ


พยายามหลีกเลี่ยงประเด็นที่จะหาผู้ผิด  ใครทำอะไรผิด  แต่จะเริ่มมานั่งพูดคุยกันว่าต่อไปจะช่วยกันทำอย่างไรดี

Post to Facebook Facebook

« « Prev : ค้างคาวกับทุเรียน

Next : คนปากเสีย อิอิ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

8 ความคิดเห็น

  • #1 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 มกราคม 2009 เวลา 0:31

    1. ตอนผมไปทำงานที่หลวงพระบางมีโอกาสไปเที่ยวสุสาน มูโอต์ ที่ http://gotoknow.org/blog/dongluang/161686  และพบคุณครูสาวพานักเรียนมาทำความสอาดบริเวณสุสานเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว  กิจกรรมนี้ไม่ใช่ใช้แรงงานเด็ก แต่เป็นกรณีศึกษาว่า หากเราเอานักเรียนมาทำความสอาด ครูสอนไปด้วย และทางเทศบาล หรือ อบต หรือใครก็ตามที่เป็นเจ้าของพื้นที่ ก็น่าท่ีจะประสานงานแล้วลองให้เด็กนักเรียนหมุนเวียนมาทำความสอาดกัน  และมีค่าตอบแทนให้โรงเรียน ผมมองว่าการทำเช่นนี้ คุณครูต้องทำ dialogue for awareness ด้วย ทำซ้ำๆ
    2. นอกจากเด็กนักเรียนแล้วก็อาจจะจัดตั้งกลุ่มเยาวชนรักถิ่นอะไรทำนองนั้น มีเงินสนับสนุนกิจกรรมเขาโดยรัฐและเอกชนท้องถิ่น กิจกรรมหนึ่งคือการระดมทำความสอาดและรณรงค์การทิ้งขยะอย่างถูกวิธี ทำซ้ำๆ
    3. ทำประชาคมหมู่บ้าน แล้วเอาฝรั่งนักท่องเที่ยวเข้าร่วมด้วยเพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับสภาพธรรมชาติของท้องถิ่นและความสอาดและอื่นๆ ก็อาจจะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้หมู่บ้านคิดมากขึ้น ทำซ้ำๆ ต่อเนื่อง
    4. อปท. ตั้งงบประมาณใครก็ได้ที่เอาขยะมาให้ 1 กิโลกรัม เอาข้าวไป ครึ่งกิโลกรัมอะไรทำนองนี้  คนยากคนจนก็จะออกมาเก็บขยะ้เพื่อไปแลกข้าว
    5. ทั้งหมดนี้ต้องพุ่งเป้าไปในระยะยาวว่าจะสร้างสำนึกสาธารณะอย่างไร กระบวนวิธีที่เป็นแบบเฉพาะท้องถิ่นที่ทำแล้วคนท้องถิ่นสะเทือนสำนึก  ทำซ้ำๆ แล้วเขาลุกขึ้นมาจัดการขยะของเขาเองตั้งแต่ในครอบครัว แล้วจะรวมไปถึงชุมชนด้วย

    อุ้ย….ผมฝันไป..เฮียตึ๋ง

  • #2 พี่นิด ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 มกราคม 2009 เวลา 13:02

    ปลูกจิตสำนึกกันใหม่จ้ะ พร้อมมาตรการขั้นเด็ดขาด อิอิ  พี่นิดเคยเห็นที่ จ.ตาก งานลอยกระทง ไปเก็บข้อมูล ที่ผ่านมา  เผอิญมีเหตุต้องนอนกันบนรถ   จึงเห็นเหตุกราณ์ทั้งหมด  หลังงานเลิกให้นักเรียนเก็บขยะ   มันดึกพอควรแล้ว เด็กๆๆ เค้าไล่เก็บจนหมด แต่ปัญหาไม่จบไป เพราะพวก เที่ยว กิน ดื่ม ส่งเสียงดัง  ทื้งขยะไว้อีก  โห… พี่นิดเห็น อะไรกันนี่ วัฒธรรมการกิน ความรับผิดชอบในส่วนตัว ไม่เกิดเลยจริงๆๆ  เฮ้อ เหนื่อยใจแทนค่ะ

  • #3 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 มกราคม 2009 เวลา 13:10
    #1  ลุงบางทราย
    ไม่ได้ฝันไปหรอกครับ  การอบรมหลักสูตร การจัดการขยะโดยชุมชน (CBM)  ก็พูดเรื่องที่ลุงบางทรายว่าไว้แหละครับ  เริ่มมีการดำเนินการอย่างที่ลุงบางทรายแนะนำหลายพื้นที่แล้ว  กำลังหาทางเร่งขยายผลอยู่  เลยไม่ค่อยได้อยู่บ้านไงครับ  อิอิ
  • #4 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 มกราคม 2009 เวลา 13:11

    #2  พี่นิด
    น่าจะลงจากรถไปช่วยนักเรียน  ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

     

  • #5 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 มกราคม 2009 เวลา 22:49

    อย่างงี้มากระบี่จะชวนไปเที่ยวห้างในพื้นที่ที่อบต.เขาบ่นว่า การจัดการขยะด้วยการสร้างสำนึกทำยากๆๆๆๆ  คุยไปๆแล้วก็พบว่าเขาทำ dialog of awareness ไม่เป็น แต่เขาก็รับปากว่าถ้าร.พ.เข้าไปช่วยวางแผน เขาก็ยินดีที่จะดำเนินการต่อ ไอ้พื้นที่อย่างนี้นะพี่ เริ่มต้นอย่างนี้มันไปไหวมั๊ยค่ะ

  • #6 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 มกราคม 2009 เวลา 22:44
    #5  สาวตา

    มันเริ่มต้นที่ใจ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหาร  ถ้าใจอยากทำมันสำเร็จไปแล้วกว่าครึ่ง  อิอิ

  • #7 sompornp ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 มกราคม 2009 เวลา 10:21

    ท่านจอมป่วน
    อย่างที่ท่านบอกต้องร่วมมือ ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน
    ทุกวันเราเราแก้กันที่ปลายเหตุ คือ ให้เหตุเกิดขึ้นถึงหาวิธีการแก้ไข
    เรื่อง”ขยะ” เป็นเรื่องที่แก้ไม่ยากและแก้ไม่ง่าย
    ความคิดของน้าเกี่ยวกับเรื่องขยะของ “เกาะ” (ยังไม่เอาเมืองมาเกี่ยว)
    น่าจะมีวิธีการจัดการที่น่าจะทำเป็นรูปธรรม และเป็นแบบอย่างชัดเจนได้
    ถ้า…ทางภาครัฐอออกกฎระเบียบเกี่ยวกับการทิ้งขยะ และมีมาตรการทางกฏหมายที่ชัดเจน
    เราก็น่าจะทำได้
    ภาคเอกชนก็ควรทำตามนโยบาย และจัดเก็บขยะในพื้นที่ของตัวเองอย่างเป็นระเบียบ
    มีการควบคุมการทิ้งขยะให้ถูกที่ ตามที่ภาครัฐกำหนด
    ภาคประชาชน คนในพื้นที่ ก็สร้างจิตสำนึกของการเป็นเจ้าบ้านในการเป็นตัวอย่างในการกำจัดขยะให้ถูกต้องตามวิธีการที่ทางรัฐกำหนด
    ประชาชนที่มาเที่ยวก็ต้องปฏิบัติตามกฎที่กำหนดไว้  การทิ้งขยะให้ถูกที่ ถูกทางสร้างไม่ยาก เพียงแต่เราต้องทำระบบรองรับให้ชัดเจน
    ……….
    ต้องย้อนกลับมาถึงระบบการจัดการขยะของภาครัฐ หรือภาคเอกชนที่มีการรับช่วงต่อ
    บ้านเราไม่มีระบบการจัดการที่เอื้อต่อการปฏิบัติ  พอจะทราบว่าระบบการจัดการขยะภาครัฐมีปัญหาไม่ลงตัวเรื่องผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง เราจึงไม่สามารถทำเรื่องขยะให้ครบวงจรที่ควรจะปฏิบัติได้ อย่างเช่นต่างประเทศ..ญี่ปุ่น  เป็นต้น
    ในขณะที่เราแยกขยะทิ้ง  แต่เวลาทางการมาเก็บขยะ ก็นำไปรวม ๆ กัน…….
    ……….
    แบบนี้ เรียกว่าบ่น แล้วไม่ทำไหมคะ
    อยากเห็นระบบการจัดการที่เป็นรูปธรรม สร้างจิตสำนึกร่วมกันในทุกภาคส่วน  นาจะไม่เป็นการยากถ้าเริ่มต้นจากตัวเอง จากหน้าที่ของตัวเอง  น่าจะไม่ยาก (แต่ดูยาก….อิอิอิ)
    ……..
    การที่ให้เด็กนักเรียน หรือคนในชุมชนมีส่วนร่วมในการรณรงค์เก็บขยะหลังจากมีงาน หรือกิจกรรม ที่ทำให้เกิดขยะ  ก็เป็นการดี  เพราะจะทำให้บ้านเมืองเขาสะดาด  แต่ถ้าย้อนกลับไปว่า  สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่สิ่งที่เขาทำ  แต่เขากลับต้องมานั่งทำในสิ่งที่คนอื่นทำ (เมาหรือเปล่า)  น่าจะไม่เป็นการดี  การดีอีกอย่างคือ น่าจะจัดพื้นที่สำหรับการทิ้งขยะให้พอเพียงกับปริมาณขยะที่จะเกิดขึ้น  เช่นจัดการเรื่องภาชนะที่ทิ้งให้เพียงพอ  ถุงดำให้เพียงพอ  แทนที่จะจัดนักเรียน คนในชุมชน เจ้าหน้าที่มาตามเก็บทีหลัง แต่เราให้บริการในการทิ้งขยะเป็นจุด ๆ และมีคนดูแลแค่หาภาชนะให้พอเพียง
    ……..
    ไม่ทราบว่าเป็นการแก้ปัญหาแบบง่าย ๆ เบื้องต้นแต่น่าจะเกิดผลนะคะ
    สำหรับพื้นที่ในการกำจัดขยะของส่วนกลาง ก็มอบให้ท่านรองนายกฯ ผุ้เชี่ยวชาญเรื่องขยะ  กระตุ้น ก็แล้วกัน
     นะจ๊ะ นะจ๊ะ นะจ๊ะ

  • #8 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 มกราคม 2009 เวลา 22:54
    ฮ่า   ๆๆๆๆๆๆๆ

    แค่มาอ่าน  แล้วเอ๊ะๆๆๆๆๆ  คิดๆๆๆๆๆ แล้วแสดงความเห็นก็ถือว่าทำแล้วครับ  ไม่เรียกว่าบ่นครับ  แต่ถ้าทำมากกว่านี้อีก  ข้างบ้านจะรักน้าอึ่งมากขึ้นนะครับ  อิอิ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.17418885231018 sec
Sidebar: 0.31726813316345 sec