หวัด

โดย อุ๊ยสร้อย เมื่อ กันยายน 17, 2011 เวลา 6:23 (เย็น) ในหมวดหมู่ การเรียนรู้ชีวิต #
อ่าน: 4277

อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ

ถ้าเป็นหวัด….แผงสี…ท๊อฟฟี่

อิอิ

ดูโฆษณานี้แล้ว คำมันติดปากค่ะ ….ง่ายๆ และดูจะจริงใจอุ่นใจว่ามีทางแก้ไขปัญหา ….ถ้าเป็นหวัด…

ถ้าเป็นหวัด….คำนี้ยิ่งง่ายใหญ่เลย เพราะใครๆ ก็เคยเป็นหวัดมาทั้งนั้น คือคัดจมูก ไม่สบายเนื้อสบายตัว มีน้ำมูกหรือไม่มี มีไอหรือไม่มี คอแดงหรือไม่แดงก็ได้

แต่พอไปทางการแพทย์ …หวัด ไม่ใช่หวัดก็มี อาการที่คิดว่าหวัด อาจจะเป็นแค่ภูมิแพ้ เพราะหวัดในทางการแพทย์ มันรวมอาการติดเชื้อทางเดินหายใจตั้งแต่ระดับไวรัส แบคทีเรีย น้ำมูกก็หมายรวมน้ำมูกใส น้ำมูกข้น น้ำมูกเหลืองเขียว อาจมีไอ จาม

ความแตกต่างในการเข้าใจ “คำ” ระหว่างคนทั่วๆไปกับทางการแพทย์ ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในความเข้าใจ บางทีพูดกันคนละภาษาก็พาขัดแย้งง่ายๆ หรืออาจเป็นที่ขบขันก็มี เช่นเรื่องอาหาร ๕ หมู่ เอามาโจ๊ก เล่าว่า หมอสอนให้อุ๊ยกิ๋นอาหารครบ ๕ หมู่ทุกวัน อุ๊ยบอกว่าอุ๊ยกิ๋นบ่อได้ แต่ละหมู่(บ้าน) มันไกล๋กัน อุ๊ยเดินทางยาก …อย่างเงี๊ยะ

วันนี้มาเข้ารับการอบรมเรื่อง “ทัศนคติเชิงบวกในการทำงาน”

ก็มีหลายประเด็นในการฟังท่านวิทยากรบรรยาย

ประเด็นหนึ่งที่ท่านให้ข้อคิดเห็นว่า ชีวิตคนเราแบ่งเป็น 5ด้านคือ เรื่องชีวิตส่วนตัว เรื่องชีวิตการทำงาน เรื่องชีวิตครอบครัว เรื่องชีวิตการเรียนรู้ และเรื่องสังคมทั่วไป และท่านก็แนะนำว่า เรื่องชีวิตส่วนตัวต้องทำให้ดี และต้องทำเพื่อตัวเอง อย่างเช่นอย่าเอาเรื่องอื่นมาเป็นข้ออ้างของการไม่ทำอะไรเพื่อตัวเอง เช่นไม่ดูแลแต่งตัว แต่งหน้าตัดผม และท่านก็ให้แต่ละคนพิจารณาน้ำหนักความสำคัญของชีวิตแต่ละด้าน รวมทั้งคิดประโยคสั้นๆ ถ้าจะอธิบายชีวิตแต่ละด้านและให้คิดเชิงบวก

ท่านก็ถามให้ลุกขึ้นตอบว่า คิดอย่างไร

ก็เรียนท่านไปว่า ตอบยากว่าแบ่งส่วนชีวิตอย่างไร เพราะมันเกี่ยวเนื่องพัวพันกัน ยกตัวอย่าง ชีวิตงานกับสังคมก็เรื่องเดียวกัน และก็เป็นชีวิตเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน อย่างเนี่ย และสำหรับชีวิตการงานก็คิดว่า ม่วนไปแต่ละวันเป็นวันๆ เอาตางหน้าเป๋นไป

คนทั้งห้อง…ก็คนทำงานที่คณะทั้งน้านแหล่ะ หัวเราะชอบใจตีมือกับคำตอบ ไม่รู้ไปโดนใจอะไร

แต่ท่านวิทยากรคงเกรงใจว่าหน้าตาแก่กว่าท่านเลยไม่วิจารณ์อะไร แต่บอกว่าให้ทั้งห้องคิดเองว่าที่ตอบไปนี้น่าจะเป็นการคิดบวกหรือไม่

ตอนหลังท่านอธิบายให้บางคนฟังนอกรอบว่า คิดแบบนี้เป็นลบก็ได้เพราะไม่มีความกระตือรือร้น

และท่านก็กรุณาบรรยายเรื่องการวางแผนเป้าหมายของชีวิตว่า ต้องวางไว้เช่นจะต้องเป็น รศ. ศ. เมื่อนั้นเมื่อนี้ ต้องวางแผนก้าวหน้าในหน้าที่การงานและทำให้ได้ตามแผน ถ้าไม่ได้ก็ต้องพยายามทำ พยายามศึกษากฎระเบียบเพื่อให้ตัวเองได้ก้าวหน้าเสมอ

อิอิ….เรื่องนี้ทำให้นึกถึงคำว่า “หวัด” เพราะว่าที่ตอบไปนั้น ไม่ได้อธิบายรายละเอียด ศัพท์คำว่า มีความม่วนไปในแต่ละวัน มีความหมายต่างจากศัพท์ของท่านวิทยากร

แต่คนในห้องบอกทีหลังว่า ที่บอกว่าชีวิตการทำงานทุกวันนี้ต้องม่วนไปตามวันนั้นมันใช่เลยเพราะปัจจุบันนี้ มันมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย เหมือนอากาศ คือไม่รู้ว่าทิศทางเป้าหมายมันจะเป็นอะไร มหาวิทยาลัยออกระเบียบใหม่รายวัน ประมาณว่าเจอปัญหาอะไรก็ออกระเบียบใหม่ ก็ต้องทำตัวให้สนุกกับงาน มีชีวิตแต่ละวันให้สนุก พร้อมเผชิญไม่ว่าปัญหาจะมาแบบไหน

ก็เลยเข้าใจว่าที่คนในห้องตีมือเพราะว่าคิดคล้ายๆกัน

การพูดเรื่องเดียวกันแต่รับรู้ไปต่างกัน เป็นเรื่องที่ไม่ได้ซีเรียสอะไรกัน ทุกคนก็เข้าใจวิทยากร และที่ท่านวิทยากรท่านพยายามสร้างแรงจูงใจให้ทุกคนโดยมองที่ประเด็นความก้าวหน้าทางตำแหน่งงานนั้นก็เป็นเรื่องดี ทำให้คนฟังมีความอยากพัฒนาตัวเองไปให้เจริญก้าวหน้ามากขึ้น

ต่อไปคนก็คงกระตือรือร้นทำงานมากขึ้นก็ได้

เมื่อเข้าใจท่านแล้ว กิจกรรมอะไรที่ท่านให้ทำ ก็ช่วยๆ ทำ บางคนบอกว่าช่วยทำเพราะเอาใจวิทยากร เห็นท่าคงเหนื่อยเพราะบรรยายมาทั้งวัน และบอกๆกันว่าประเมินผลดีๆ เอาใจคนจัดอบรมหน่อย จะได้มีกำลังใจทำงานต่อไป

อิอิ

อบรมทัศนคติเชิงบวกในการทำงานก็ลงเอยอย่างนี้เอง….อิอิ

คำเมือง: นั่งก๊กง๊ก เหมือนครกบ่อต๋ำ...ฉลาดแคบ โง่กว้าง...คำเมือง: นอนดึกตื่นขวาย...

« « Prev : ใจสีฟ้า

Next : โมเดลบุรีรัมย์ : ละเมียดละมุนใจ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

577 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 2.8112690448761 sec
Sidebar: 0.03078293800354 sec