ส.ค.ส. ๒๕๕๔

8 ความคิดเห็น โดย handyman เมื่อ 20 ธันวาคม 2010 เวลา 12:04 (เช้า) ในหมวดหมู่ ธรรม #
อ่าน: 1989

    ใกล้ปีใหม่นี้ “คนจนอย่างพี่” ไม่มีอะไรมอบให้ จึงขอส่ง ส.ค.ส. จากใจ แบบง่ายๆด้วยภาพถ่าย 3 ภาพ เก็บมาเมื่อครั้งไปเยี่ยมบ้านเกิด 5 พค. 49 … เป็น “พรปีใหม่” จากสวนโมกข์ .. เชิญเก็บเกี่ยวไปคิดและรับประโยชน์ตามอัธยาศัยครับ

        ขอจงประสบความสำเร็จในการลด สิ่งที่มีอยู่เท่าเดิม ให้เหลือน้อยลงได้เรื่อยๆนะครับ แล้วรับความ สะอาด  สว่าง  สงบ  เป็นรางวัลจากการกระทำดังกล่าวกันทุกท่านทุกคน .. เทอญฯ


ตัวผมนี่หรือ มีทั้งความดื้อ และความประมาท

1 ความคิดเห็น โดย handyman เมื่อ 19 ธันวาคม 2010 เวลา 11:10 (เย็น) ในหมวดหมู่ ชีวิต #
อ่าน: 1249

   ความประมาท มักเกิดจาก ความเชื่อมั่น ที่มากเกินไป เช่น ผมเรียนค่อนข้างดี จบป.ตรี ก็คิดว่ายังไง สอบบรรจุเข้ารับราชการได้ Sure ! ตอนนั้นในใจนึกอยู่แต่ว่าจะ เลือกวิทยาลัยครูไหนดีนะ ? แล้วก็ไม่อ่านหนังสือสอบ  ผลออกมาคือ สอบได้ที่ 113  ปีนั้นสาขาวิชาของผมเขาบรรจุ ไม่กี่สิบคน และเรียกบรรจุรอบสองถึงที่ 110 มันส์ มั้ยล่ะ เจ้า ความประมาท !

    ผลที่ตามมาทำให้ผมต้องไปสอนอยู่ รร.เอกชนอยู่ค่อนปี อะไรๆก็ดีหมด แต่ผมก็  ดื้อ คือ มีเจตจำนง ที่จะทำ หรือ ไม่ทำ ตามที่ คนอื่น หรือ ตนเอง เคยคิดว่าควรทำ ในที่นี้คือการ ลาออกเสีย ทำตัวเองให้เป็นคนว่างงาน และเริ่มอ่านหนังสือเตรียมสอบบรรจุครั้งที่สองในปีถัดมา 

     บางวันไปนั่งอ่านระเบียบ กฎหมาย ใต้ร่มไม้ข้างหอพัก อยู่ได้ไม่ถึงชั่วโมงก็ง่วง เลยเดินกลับจะไปนอน แต่แล้ว  เสียงพ่อ ก็ก้องเข้ามาในสำนึกอีกว่า   ” ปีนี้เอาให้ได้นะ ไปไหน ใครถาม พ่ออายเขาเสียแล้ว “  ก็เพื่อนซี้ผมที่ไปจากตำบลเดียวกัน  เรียนด้วยกันมาตลอด เขาสอบบรรจุได้ที่ 1 ในสาขาของเขาตั้งแต่ปีแรก ไม่ใช่ 1 สองตัว ตามด้วย 3 อย่างที่ผมได้   ผมจึง ดื้อ เดินกลับไปนั่งอ่านหนังสือต่อทันที
     ผลจากความ ดื้อ ทำให้ผมสอบบรรจุ ได้ที่ 2 จากผู้เข้าสอบจากทั่วประเทศ 842 คน และได้รับการบรรจุทำงานรับราชการต่อเนื่องมาจนลาออกจากราชการเมื่อไม่นานมานี้  

    ทำงานมาไม่กี่ปีหรอกครับ 30 ปี ฝ่าๆ เท่านั้นเอง ! ( ตายจริง ! ใครไม่รู้ต้องนึกว่าเราแก่แล้ว แน่เลย .. ขอปฏิเสธว่า ยังครับ … ยังแก่กว่านี้ได้อีกครับ )


เพราะสลัดพิธีกรรม เราจึงทำ(งาน)กันด้วยความผ่อนคลาย

ไม่มีความคิดเห็น โดย handyman เมื่อ 19 ธันวาคม 2010 เวลา 8:34 (เช้า) ในหมวดหมู่ การจัดการความรู้ #
อ่าน: 1187

    ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ หรือกระบวนการจัดการความรู้ ที่มีการรวมคน ร่วมคิดร่วมเรียนรู้  หลายเวที ติดรูปแบบ ติดพิธีกรรม จนสาระสำคัญหดหายไป ซึ่งน่าคิดว่า จำเป็นอะไรที่ต้องทำเช่นนั้น ผมเชื่อและศรัทธาในวิธีการที่เป็นธรรมชาติ และผ่อนคลาย ได้ทำสิ่งที่น่าพอใจมากๆ ก็ตอนร่วมงานกับคุณหมอทวีศักดิ์ นพเกษร ครับ
   ปีงบประมาณ 2548 ผมเป็นหัวหน้าโครงการใหญ่ เป็นผู้ประสานงานระดับประเทศ ทำงานให้ สกอ. ดูแลชุดโครงการวิจัยอันประกอบด้วย โครงการย่อย 37 โครงการ ที่กระจายอยู่ตาม ม.ราชภัฏ ที่มี 8 Nodes 8 ภูมิภาค และแต่ละ Node เป็นผู้ประสานงานต่ออีกชั้นหนึ่ง ในการอบรม 5 วันเพื่อพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยเชิงคุณภาพ ทั้งที่มีเรื่องหนักที่ต้องเรียนรู้และฝึกฝนมาก แต่ทุกคนก็ไม่เครียด งานก็สำเร็จด้วยดี … ดู 3 ภาพนี้ก็คงพอมองเห็นว่าเราเล่นกันอย่างไร

 แต่งกายตามสบาย เพื่อให้ผ่อนคลาย

 

จะนั่งจะนอนยังไงก็ได้ ขอให้ได้งาน

โอกาสเช่นนี้ พิธีกรรม ไม่ใช่สิ่งจำเป็น หรือใครว่าไม่ใช่ครับ.

               

     ส่วนตัวผมนั้นสบาย คอยกระตุ้น ส่งเสริม
อำนวยความสะดวก ให้ทุกอย่างเดินไปและได้ผลตามที่ตั้งความมุ่งหวังเอาไว้

 

 


สัญชาตญาณของมะรุม

4 ความคิดเห็น โดย handyman เมื่อ 11 ธันวาคม 2010 เวลา 3:30 (เย็น) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1965

     ผมมีเรื่องเกี่ยวกับมะรุมที่บ้านที่อยากนำมาฝากว่าปลูกอย่างไร เจอปัญหาอะไร และได้แก้ไขไปอย่างไร  แต่เพราะไปเจอเรื่องมะรุม 3 ต้นที่ไปปลูกไว้ที่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงระดับอำเภอซึ่งห่างบ้านไปราว 2-3 กม. ก็เลยต้องเอาเรื่องดังกล่าวมาเล่าก่อนเพราะแปลกดี

    เริ่มจากเมื่อวันที่ 20 กค. 53 ได้มีกิจกรรมปลูกต้นไม้ในศูนย์ โดยมีนายอำเภอไชยา คือคุณนิคม  ปิ่นแก้ว เพื่อร่วมรุ่นมัธยมพุทธนิคมของผมมาเป็นประธาน  ผมเองปลูกมะรุมไว้ 3-4 ต้นที่บ้าน  และปลูกแบบเพาะติดๆกันประมาณ 30-40 ต้น เพื่อตัดยอดกินในลักษณะ ผักยืนต้น  แต่ขณะนั้นแต่ละต้นก็สูงราวๆ 1 ฟุต  จึงตัดสินใจถอนสามต้นเป็นกล้าไม้ไปปลูกในศูนย์ดังกล่าว  ตอนแรกก็ขุดหลุมปลูกเรียงไว้ข้างป่าธรรมชาติที่เหลืออยู่หย่อมหนึ่ง  แต่พอปลูกเสร็จมีคนมาทักท้วงว่า  ผู้รับเหมาจะมาไถปรับพื้นที่บริเวณนั้นให้ดูเรียบร้อยในอีกไม่กี่วันข้างหน้า  ก็เลยจำต้องถอนออกและย้ายที่ไปปลูกใหม่เรียงกันเป็นแนว  ใกล้ๆกับต้นไม้ที่ท่านประธานคือนายอำเภอเป็นคนปลูก

3 ต้นที่เห็นคือการปลูกครั้งแรก

 

         ผมปลูกใหม่เสร็จก็นึกสนุกขึ้นมาเลยหยิบเศษกระดาษกล่องแถวๆนั้นมาเขียนป้ายมาเสียบไว้ที่ไม้ที่ปักรอบๆโคนต้น  ระบุว่าเป็นต้นมะรุมของใคร โดยใส่ชื่อ พ่อ แม่ และยาย ซึ่งจากโลกนี้กันไปหมดแล้วทั้งสามท่าน

 

     ผ่านไป 2 เดือน คือวันที่ 19 กย. 53  ผมแวะไปเยี่ยมมะรุมทั้งสามต้นอีกครั้ง พบว่าเติบโตดีทั้งสามต้น แต่ความสูงและความสมบูรณ์ของแต่ละต้นต่างกัน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะดินดีไม่เท่ากันก็ได้ เนื่องจากเป็นที่นาดอนเก่า

นี่คือภาพที่ถ่ายเมื่อวันที่ 19 กย. 53 แต่ภาพเด็กนั้นถ่ายเมื่อ 2 เดือนก่อน

 

      และแล้วทั้งมะรุมที่บ้านผม และ 3 ต้นที่กำลังพูดถึง ต่างก็ได้รับผลกระทบจากการที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน เมื่อช่วงอุทกภัยภาคใต้ที่ผ่านมา  ที่บ้านผมนั้นทั้งสามต้นใหญ่ต่างทิ้งใบเหลือแต่ต้นโล่งๆ เหมือนต้นไม้ตาย จึงจัดการตัดต้นที่สูงที่สุดที่สูงราว 5 เมตรแล้ว ตัดให้เหลือเป็นตอราว 1 เมตร แล้วนำทั้งลำต้นและกิ่งตัดเป็นท่อนไปฝังดินได้อีก4-5 ต้น ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มผลิใบให้เห็นบ้างแล้ว 

     ส่วนมะรุม 3 ต้นที่ศูนย์เรียนรู้ฯ  ไม่ได้มีโอกาสไปดูจนกระทั่งเมื่อเช้าวันที่ 1 ธค. ที่ผ่านมาก็ได้ขี่จักรยานผ่านไปดู  ครั้งแรกก็ใจหายเพราะมองไปไม่มีต้นใดเหลือให้เห็น มีแต่ไม้ปักอยู่ 3 อัน  ไปดูใกล้ๆก็พบว่ามันคือมะรุมที่ผมปลูกไว้นั่นเอง ต้นกลางที่เคยสมบูรณ์ที่สุดและมีใบหนา กลายเป็นว่ามีไม้เถาวัลย์บางชนิดพันไปจนถึงยอด เมื่อสังเกตดีๆ ทุกต้นยังไม่ตายครับ เห็นมีการแตกตา ผลิใบออกมาให้เห็นเมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ  แต่ต้นกลางนี่ไม่มีแตกตา แตกใบเลยครับ

\

 

     หลังจากที่ผมสางเถาวัลย์ออกมากองก็แหงนดูที่ยอดต้นมะรุมดังกล่าว  เหลือเชื่อจริงๆครับ  ไม่มีการแตกตาแตกใบ แต่ที่ยอดปลายสุดนั้นออกดอกเป็นช่อเลยครับ .. เห็นแล้วให้นึกเห็นใจ  คิดไปไกลว่านำท่วมคราวนี้มันคงเห็นว่าน่าจะไม่ไหวแน่แล้ว เลยรีบออกดอก เตรียมการขยายเผ่าพันธุ์ให้ทันการกระมัง

    คิดแล้วก็ให้งงๆ ว่าจะเรียกว่าเป็นสัญชาตญาณได้หรือไม่ .. สัญชาตญาณการสืบสานเผ่าพันธุ์ของต้นมะรุม


คนมากรัก

ไม่มีความคิดเห็น โดย handyman เมื่อ 11 ธันวาคม 2010 เวลา 9:11 (เช้า) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1235

      เห็นหัวเรื่องบันทึกนี้แล้ว  หลายท่านคงเดาว่าต้องเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะไม่ควร  รักเดียวใจเดียวนั่นแหละดีที่สุด .. ฯลฯ  แต่ผมว่าไม่จริง  ผมไม่เชื่อจึงเขียนได้บทกลอนนี้เพื่อยืนยันครับ

     คนหลายรัก สังคมมัก จะติฉิน
เคยได้ยิน มานมนาน เกินขานไข
หญิงรักชาย ชายรักหญิง ต้องจริงใจ
อย่ามัวไป หลงเริงร่า หาคู่ชม

    แท้ความรัก สูงส่งนัก ใช่ความใคร่
ยิ่งแจกจ่าย เท่าไร ยิ่งสุขสม
แบ่งใจรัก เผื่อแผ่ไป ให้สังคม
น่านิยม หรือตำหนิ ตริตรองดู

    เห็นแก่ตัว มากมาก อยากได้รัก
ยิ่งอยากมาก ก็ยิ่งหนัก น่าอดสู
ทุกทุกอย่าง ต้องเป็นไป ตามใจกออู
แล้วจะรู้ รสรักได้ อย่างไรกัน

    ลองสิลอง คิดใหม่ ด้วยใจว่าง
มองทุกอย่าง ด้วยใจ อย่าไปฝัน
ล้าง บวก-ลบ ชั่ว-ดี ที่ผูกพัน
จะพบวัน เบาสบาย ทั้งกายใจ

    แล้วความรัก อันสูงค่า จะมาสู่
คำว่ากอ สระอู จะเลือนหาย
เห็นทุกอย่าง ตามเป็นจริง ได้มากมาย
พร้อมแจกจ่าย แบ่งรักไป ให้ทุกคน.



Main: 0.64798378944397 sec
Sidebar: 0.027581214904785 sec