สัญชาตญาณของมะรุม

โดย handyman เมื่อ 11 ธันวาคม 2010 เวลา 3:30 (เย็น) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1964

     ผมมีเรื่องเกี่ยวกับมะรุมที่บ้านที่อยากนำมาฝากว่าปลูกอย่างไร เจอปัญหาอะไร และได้แก้ไขไปอย่างไร  แต่เพราะไปเจอเรื่องมะรุม 3 ต้นที่ไปปลูกไว้ที่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงระดับอำเภอซึ่งห่างบ้านไปราว 2-3 กม. ก็เลยต้องเอาเรื่องดังกล่าวมาเล่าก่อนเพราะแปลกดี

    เริ่มจากเมื่อวันที่ 20 กค. 53 ได้มีกิจกรรมปลูกต้นไม้ในศูนย์ โดยมีนายอำเภอไชยา คือคุณนิคม  ปิ่นแก้ว เพื่อร่วมรุ่นมัธยมพุทธนิคมของผมมาเป็นประธาน  ผมเองปลูกมะรุมไว้ 3-4 ต้นที่บ้าน  และปลูกแบบเพาะติดๆกันประมาณ 30-40 ต้น เพื่อตัดยอดกินในลักษณะ ผักยืนต้น  แต่ขณะนั้นแต่ละต้นก็สูงราวๆ 1 ฟุต  จึงตัดสินใจถอนสามต้นเป็นกล้าไม้ไปปลูกในศูนย์ดังกล่าว  ตอนแรกก็ขุดหลุมปลูกเรียงไว้ข้างป่าธรรมชาติที่เหลืออยู่หย่อมหนึ่ง  แต่พอปลูกเสร็จมีคนมาทักท้วงว่า  ผู้รับเหมาจะมาไถปรับพื้นที่บริเวณนั้นให้ดูเรียบร้อยในอีกไม่กี่วันข้างหน้า  ก็เลยจำต้องถอนออกและย้ายที่ไปปลูกใหม่เรียงกันเป็นแนว  ใกล้ๆกับต้นไม้ที่ท่านประธานคือนายอำเภอเป็นคนปลูก

3 ต้นที่เห็นคือการปลูกครั้งแรก

 

         ผมปลูกใหม่เสร็จก็นึกสนุกขึ้นมาเลยหยิบเศษกระดาษกล่องแถวๆนั้นมาเขียนป้ายมาเสียบไว้ที่ไม้ที่ปักรอบๆโคนต้น  ระบุว่าเป็นต้นมะรุมของใคร โดยใส่ชื่อ พ่อ แม่ และยาย ซึ่งจากโลกนี้กันไปหมดแล้วทั้งสามท่าน

 

     ผ่านไป 2 เดือน คือวันที่ 19 กย. 53  ผมแวะไปเยี่ยมมะรุมทั้งสามต้นอีกครั้ง พบว่าเติบโตดีทั้งสามต้น แต่ความสูงและความสมบูรณ์ของแต่ละต้นต่างกัน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะดินดีไม่เท่ากันก็ได้ เนื่องจากเป็นที่นาดอนเก่า

นี่คือภาพที่ถ่ายเมื่อวันที่ 19 กย. 53 แต่ภาพเด็กนั้นถ่ายเมื่อ 2 เดือนก่อน

 

      และแล้วทั้งมะรุมที่บ้านผม และ 3 ต้นที่กำลังพูดถึง ต่างก็ได้รับผลกระทบจากการที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน เมื่อช่วงอุทกภัยภาคใต้ที่ผ่านมา  ที่บ้านผมนั้นทั้งสามต้นใหญ่ต่างทิ้งใบเหลือแต่ต้นโล่งๆ เหมือนต้นไม้ตาย จึงจัดการตัดต้นที่สูงที่สุดที่สูงราว 5 เมตรแล้ว ตัดให้เหลือเป็นตอราว 1 เมตร แล้วนำทั้งลำต้นและกิ่งตัดเป็นท่อนไปฝังดินได้อีก4-5 ต้น ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มผลิใบให้เห็นบ้างแล้ว 

     ส่วนมะรุม 3 ต้นที่ศูนย์เรียนรู้ฯ  ไม่ได้มีโอกาสไปดูจนกระทั่งเมื่อเช้าวันที่ 1 ธค. ที่ผ่านมาก็ได้ขี่จักรยานผ่านไปดู  ครั้งแรกก็ใจหายเพราะมองไปไม่มีต้นใดเหลือให้เห็น มีแต่ไม้ปักอยู่ 3 อัน  ไปดูใกล้ๆก็พบว่ามันคือมะรุมที่ผมปลูกไว้นั่นเอง ต้นกลางที่เคยสมบูรณ์ที่สุดและมีใบหนา กลายเป็นว่ามีไม้เถาวัลย์บางชนิดพันไปจนถึงยอด เมื่อสังเกตดีๆ ทุกต้นยังไม่ตายครับ เห็นมีการแตกตา ผลิใบออกมาให้เห็นเมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ  แต่ต้นกลางนี่ไม่มีแตกตา แตกใบเลยครับ

\

 

     หลังจากที่ผมสางเถาวัลย์ออกมากองก็แหงนดูที่ยอดต้นมะรุมดังกล่าว  เหลือเชื่อจริงๆครับ  ไม่มีการแตกตาแตกใบ แต่ที่ยอดปลายสุดนั้นออกดอกเป็นช่อเลยครับ .. เห็นแล้วให้นึกเห็นใจ  คิดไปไกลว่านำท่วมคราวนี้มันคงเห็นว่าน่าจะไม่ไหวแน่แล้ว เลยรีบออกดอก เตรียมการขยายเผ่าพันธุ์ให้ทันการกระมัง

    คิดแล้วก็ให้งงๆ ว่าจะเรียกว่าเป็นสัญชาตญาณได้หรือไม่ .. สัญชาตญาณการสืบสานเผ่าพันธุ์ของต้นมะรุม

Post to Twitter Post to Plurk Post to Yahoo Buzz Post to Delicious Post to Digg Post to Facebook Post to MySpace Post to Ping.fm Post to Reddit Post to StumbleUpon

« « Prev : คนมากรัก

Next : เพราะสลัดพิธีกรรม เราจึงทำ(งาน)กันด้วยความผ่อนคลาย » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 ธันวาคม 2010 เวลา 7:21 (เย็น)

    อาจารย์เขียนน่าอ่าน น่าติดตาม แถมทำให้เกิดความอยากรู้ต่อว่า วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไงด้วย….มะรุมกำลังบันทึกประวัติศาสตร์ของชีวิตตัวเอง ขณะที่อาจารย์เอาบันทึกนั้นมาให้อ่านนะคะ …

  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 11 ธันวาคม 2010 เวลา 10:21 (เย็น)

    ที่ว่างข้างบ้านที่ผมไปปลูกต้นไม้ไว้ คราวฝนตกหนักเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ต้นไม้น้ำท่วมตายหมดเลยครับ

    คราวนี้จะเอาใหม่ ที่ราบๆ จะขุดหลุมหลบภัยหนาวไว้ให้หมา ดินที่ขุดขึ้นมา จะเอามาปั้นเนินปลูกต้นไม้ครับ

  • #3 handyman ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 ธันวาคม 2010 เวลา 4:11 (เช้า)

    #1 อุ๊ยสร้อย .. จริงด้วยครับ มะรุมเขาบันทึกเองไม่ได้ผมเลยได้ช่วยเขา และสัญญาว่าจะมีความคืบหน้ามาบันทึกให้เห็นชะตาชีวิตของมะรุม 3 ต้นนั้นครับ

    #2 Logos .. ดีจัง หมาได้อุ่น ต้นไม้ได้ที่อยู่สวยๆ .. มะรุมที่บ้านก็อยู่ในอาการน่าเป็นห่วงครับเพราะน้ำขังแช่รากเขานานไปหน่อย แต่ก็ได้เรียนรู้ว่าแค่เอากิ่งไปปักดินก็ขึ้นแล้ว จึงจัดการตัดต้นสูงที่สุด นำลำต้นและกิ่งมาฝังดิน ได้ต้นใหม่ที่เริ่มแตกตาผลิใบแล้ว 3-4 ต้นครับ

  • #4 planoi ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 ธันวาคม 2010 เวลา 3:24 (เย็น)

    อ่านแล้วประทับใจได้ความรู้ทั้งข้อเขียนของคุณลุง handyman และเห็นพ้องกับข้อคิดเห็นของทั้งสามท่านด้วยค่ะ
    ขอบพระคุณมากค่ะ :)


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.54225206375122 sec
Sidebar: 0.05704402923584 sec