มาเตรียมตัวตายกันเถอะ
อ่าน: 2119วันหนึ่งผมบอกชาวบ้าน และลูกหลานในที่ประชุมที่ศูนย์การเรียนรู้ฯใกล้บ้านว่า ผมกลับมาอยู่บ้านเกิดเพื่อ “เตรียมตัวตาย”
ทันใดนั้นก็มีเสียงคัดค้านบอกว่า “ไม่ได้ ไม่ได้ ยังไม่ให้รีบตาย”
ผมก็ตอบไปว่า …
“เตรียมตัวตายไม่ได้หมายถึงรีบตาย เพียงแต่รู้ว่ามันต้องตาย จึงเตรียมตัวว่า อะไรที่ดีๆ มีประโยชน์และพอทำได้ ก็จะได้รีบทำเสีย เท่านั้นเอง”
• ความตายเป็นของแน่นอนที่ทุกชีวิตต้องเจอ
• การคิดถึงความตายบ่อย หรือเจริญ มรณานุสติ จึงเป็นสิ่งควรทำ
• ทำเช่นนั้นได้ จะพบความเบาสบาย ทำประโยชน์ได้ โดยไม่ต้องแบกโลกครับ
6 ความคิดเห็น
คิดเหมือนกัน เตรียมพร้อมมาตั้งแต่อายุ 60 พร้อมไปได้ทันที ไม่มีห่วงอะไร นี่ก้ได้กำไรมาตั้ง 6 ปีแล้วค่ะ
ต้องเตรียมยังไงบ้างละครับ
- ไปคุยกับสัปเร่อ
-ไปคุยกับร้านขายโลง
-ไปคุยกับหลวงพ่อ
-ไปคุยกับกิ๊ก
-ไปคุยกับทนายเรื่องพินัยกรรม
-ไปคุยกับเครือญาติ
-ไปคุยกับมัคทายก
-ไปคุยกับช่างแต่งหน้าศพ
-ไปคุยคนขายหวย
-ไปคุยกับวงดนตรีแห่ศพ
-ไปคุยกับบริษัทประกัน
-ไปคุยกับโรงพิมพ์หนังสือที่ระลึก
-ไปคุยกับคนอ่านสุดดี
-ไปคุยกับช่างฟ้อนหน้าศพ
-ไปคุยกับร้านขายของชำร่อย
-ไปคุยกับช่างแต่งเมรุ
-ไปคุยกับแม่ครัว/ร้านอาหาร
-ไปคุยกับคนแจ้งข่าว
-ไปคุยกับสุวรรณให้ดูบัญชี
-ไปคุยกับฝ่ายดูแลยานพาหนะ
-ไปคุยกับพิธีกรของงาน
-ไปคุยกับเคียงกาย ในกรณีมีหลายคน
-ไปคุยปรึกษาหารือกับพระอาจารย์Handy..
แหม .. มาชุดใหญ่เลยนะครับ แสดงว่าเตรียมมานานมากแล้ว .. อิ อิ อิ
ถ้าจะตายอย่างหรูหรา ก็ต้องเตรียมหนักหน่อย มีเรื่องให้ต้องไปคุยกับหลายคน หลายฝ่ายมาก เพราะ “หรูรา” มันมาพร้อมกับ “รุงรัง” เสมอ แต่ถ้าจะสมัครตายอย่างธรรมดา ก็ไม่น่าจะต้องไปคุยกับใครมาก เตรียมพร้อมอยู่ในใจ ถึงคราจะไปก็ไปแบบเรียบง่าย ไปแบบสบายๆ ไม่ให้คนข้างหลังต้องวุ่นวาย และเดือดร้อนเกินจำเป็น .. อิ อิ อิ
น่าคิด
และที่น่าคิดมากขึ้นไปอีกคือ หากเราคือผู้ตัดสินว่า จะถอดสายอากาศหายใจของแม่ที่นอนพะงาบๆอยู่ หรือยังคงไว้เช่นนั้น มันยากยิ่งกว่าขีวิตเราเองนะครับ การคงอยู่ ก็เท่ากับให้แม่มีชีวิตอยู่ แต่สื่สารกันไม่ได้แล้ว การถอดคือการหยุดความช่วยเหลือ ปล่อยให้ร่างกายเป็นไปตามธรรมชาติของมัน เราก็ไม่อยากให้แม่จากไป
มันยากตรงที่ ทำใจยาก ตัดสินใจเลือกนั้นง่าย แต่ทำใจยาก แต่ก็ต้องตัดสินใจ
ไม่ทราบผมเตรียมตัวตายไหม เพราะผมฝึกซ้อมการตายเสมอ
เหมือนฝึกกีฬา
จำลองสถานการณ์ต่างๆ เช่น ถูกรถชน ถูกปืนยิง หัวใจวายเฉียบพลัน
วินาทีสุดท้ายก่อนตายจะทำอย่างไร
ส่วนตายแล้วใครจะมางานศพหรือไม่ จะฝัง เผาอย่างไร ผมไม่สนหรอกครับ เชื่อว่าคงดีกว่าหมาตายข้างถนนอยู่หรอก อิอิ
ถ้าตายแบบง่ายสะดวกๆพึ่งตนเอง
1 ขุดหลุมไว้ เลือกที่ชอบๆ
2 เอาเสื่อมาปู เอาหมอนมาหนุน
3 เอาวิทยุ/เทปมาเปิดเสียงพระสวด
4 พออาการหนักจะไปเหล่มิไปเหล่ก็นอนลงข้างๆหลุม
5 ช่วงจะขาดใจ ก็ดิ้นเฮือกสุดท้ายสะดุ้งให้ร่างพลิกลงหลุมเอง
6 สั่งให้คนที่อยู่ข้างหลังเอาดินกลบ
7 สั่งให้เอาต้นไม้มาปลูก รดน้ำ
8 อย่าลืมให้เอาวิทยุเทปกลับไปด้วย
9 แค่แหละ จบ ตายแบบพึ่งตนเอง แถมได้ประโยชน์