คุ้มค่าหรือไม่ ขาดทุนหรือกำไร .. อยู่ที่ใจจะมอง
อ่าน: 1519ตั้งแต่ย้ายมาอยู่บ้านเกิดที่ไชยาใหม่ๆ ต้นเมษาฯที่ผ่านมา มะพร้าว 4-5 ต้นที่บ้านสร้างปัญหาพอประมาณ นั่นคือเขาลูกดกมาก สุก แห้งและหล่นมาทุกวัน เก็บใส่ยุ้งข้าวเหนียวเก่าๆจนเต็มและล้นออกมาข้างนอก จึงต้องออกแรง เสียเหงื่อ เสียเวลาไปเยอะทีเดียว
ที่ว่าออกแรงและเสียเหงื่อนั้นก็ตรงที่ใช้ขวานผ่าทีละลูกให้แยกเป็นสองซีก ทำไปจนได้ราว 20 ลูก ก็ได้เหงื่อท่วมตัว จากนั้นก็ต้องนำไปหงายตากแดดบนลานปูน ของโรงเก็บข้าวเก่าที่รื้อกันไปแล้ว เหลือแต่พื้นปูนให้เราใช้ทำคอกเป็ดชั่วคราว และที่เหลือไว้ตากมะพร้าวดังกล่าวมาแล้ว
ที่ว่าเสียเวลาก็คือ ต้องทำอย่างนั้นหลายๆรอบ กว่าได้มะพร้าวแห้งเป็น 2-3 กระสอบปุ๋ย และต้องหมั่นตากแดด และเก็บทุกวัน ระยะหลังที่เริ่มมีฝนตกลงมาก็ต้องแก้ปัญหา เพราะหากลืมไว้ก็จะโดนน้ำฝนและขึ้นรา ทำท่าจะเน่าเสีย จะออกจากบ้านแต่ละทีถ้าเห็นท่าไม่ค่อยดี ฝนฟ้าอาจตก ก็ต้องไปหาผ้าพลาสติกมาคลุมและหาของหนักมาปิดทับกันลมพัดปลิว ฯลฯ
ผมวนเวียนอยู่กับกิจกรรมเหล่านี้และเสียเหงื่อ เสียเวลาไปไม่น้อยเลย บางครั้งก็เริ่มนึกท้อใจ ว่ามีอะไรอีกตั้งเยอะที่รอให้เราทำ และเลือกได้ดีกว่านี้ แต่ก็ยังไม่ล้มเลิกกิจกรรมดังกล่าว
อยู่มาวันหนึ่ง เห็นว่าปริมาณมะพร้าวแห้งที่ทำสะสมมามากพอประมาณแล้ว จึงจัดการเทบรรจุลงลังพลาสติก 3 ใบเต็มๆ ยกใส่ท้ายรถขับรถจากบ้านไปราว 12 กม. เพื่อนำไปขายที่ตลาดไชยา
ผลปรากฏว่าชั่งได้ 30 กิโล หักค่าน้ำหนักกล่องแล้ว ได้เงินสดมา 320 บาทครับ .. โอ้โฮ ! อะไรจะปานนั้น .. ผมคิดถึงหยาดเหงื่อ แรงงาน และเวลาที่เสียไปกับเงินที่ได้มา ก็เกิดความรู้สึกว่า รอบเดียวก็น่าจะเกินพอ มันช่างไม่คุ้มค่ากันเลยกับสิ่งที่สูญเสียไป
แต่แล้วในอึดใจเดียวความคิดใหม่ก็เข้ามาแทน เพียงแค่คิดต่างมุมไปอีกเล็กน้อยก็ได้คำตอบใหม่ที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง คือผมลองเทียบกับตอนที่ไปนั่งบรรยาย เป็นวิทยากรในห้องแอร์ บางทีว่าไปตั้งสองสามวันและเขาจ่ายค่าเหนื่อยชั่วโมงละเกินหนึ่งพัน ก็เคยรับมาแล้วแบบสบายๆ มันง่ายกว่า 320 บาทที่ว่ามากมายนัก แต่ฝ่ายค้านในใจก็แย้งว่า “แล้วเคยได้เหงื่อบ้างมั้ย” อีกฝ่ายหนึ่งในใจก็รีบตอบ “เออ ! จริงว่ะ นั่งๆ ยืนๆ บรรยายหรือสอนอยู่แต่ในห้องแอร์ น่าจะตายเร็วกว่า เพราะร่างกายไม่ได้ออกกำลังและได้เหงื่อเช่นที่เราได้รับจากกระบวนการผลิตมะพร้าวแห้ง 30 กิโล “
คำตอบใหม่ที่ว่าก็คือ กำไรมาก และคุ้มเกินคุ้ม .. สุขภาพดีที่ได้มาคงตีราคาไม่ได้ แถมได้ยังฝึกการมีสติ มีสมาธิ และการอดกลั้น อดทน ตลอดกระบวนการของการทำงานอีกด้วย
ยัง .. ยัง แค่นั้นยังไม่พอครับวันที่ไปขายเกือบเรียกได้ว่า “เจอคนบ้า” ที่ร้านรับซื้อมะพร้าวแห้งด้วย เธอเป็สาวใหญ่วัยน่าจะใกล้ 50 และคงเป็นลูกจ้างคอยจัดการอยู่หน้าร้าน เธอปฏิบัติ และกล่าววาจาหยาบกับผมหลายครั้ง ดุมากทุกขั้นตอน เช่นพอเริ่มถามว่า ที่นี่รับซื้อมะพร้าวแห้งใช่มั้ย คำตอบคือ “แล้วเติ้นจะขายหรือเปล่าล่ะ?“ ผมจอดรถห่างไปหลายสิบเมตร จึงบอกว่าเดี๋ยวจะไปเลื่อนรถมา เธอก็สำทับว่า “ก็ไปเอามาสิ” ทีนี้พอถามว่าจะให้ทำไงต่อ มีกระสอบใส่มั้ยเธอบอกห้วนๆว่า “ไม่มี” ผมทำท่าจะไปซื้อหากระสอบปุ๋ยมาใส่มะพร้าวแบบที่เห็นวางเรียงๆกันอยู่หน้าร้าน เธอก็ดุว่า “ทำไมไม่เอาลงมาล่ะ เขาทำถูกน่ะ ไม่ต้องกลัวหรอก ไม่มีใครเอาลังของเติ้นหรอก” ว่าเข้านั่น ชั่งน้ำหนักเสร็จ เธอบอกว่าหักน้ำหนักลัง 4 โล ผมชักงง เพราะลังพลาสติกนั้นเบามาก จึงถามว่าถึง 4 โลหรือ เธอกล่าวตอบเสียงแข็งว่า “จะให้บอกกี่ครั้งกัน พูดไม่รู้เรื่อง“ แล้วซัดต่อว่า “มัวยืนทำไมอยู่ล่ะ ทำไมไม่ไปรับเงิน” ผมก็มองเข้าไปในร้านจึงเห็นเถ้าแก่เนี้ยนั่งอยู่ในตู้กระจก ถือโพยที่คนรับซื้อเขียนให้ เดินไปรับเงิน 320 บาททางช่องกระจก จากโพยก็รู้ว่า น้ำหนักรวมของลังคือ 4 ขีด แต่เธอบอกผมว่า 4 โลครับ
งานนี้นอกจากได้ออกกำลังกาย ได้เหงื่อ ได้ฝึกสติ สมาธิ และความอดทนจากการทำงาน “ผลิตมะพร้าวแห้ง” 30 กิโลแล้ว .. ผมยังโชคดี ได้ฝึกการมีสติ และความอดกลั้นอดทนตอนนำมะพร้าวไปขายอีกด้วย เป็นกำไรอีกต่อหนึ่งที่ได้มาแบบไม่คาดฝัน .. ถ้าผมเกิดน้อตหลุด ไปด่าโต้ตอบกับเธอเข้า .. งานนี้ผมคงขาดทุนยับเยิน จริงมั้ยครับ ท่านผู้ชม
คิดดูแล้ว จะคุ้มค่าหรือไม่ ขาดทุนหรือกำไร .. อยู่ที่”ใจ“จะมอง งานนี้ ตาเนื้อ หรือตานอกช่วยอะไรไม่ได้จริงๆครับ
« « Prev : เดี๋ยวจะหาว่า “ยุ่งไม่จริง”
Next : เช้านี้สบายใจ ช่วยให้ญาติจากแดนไกล ได้รู้ข่าวคราวของกันและกัน » »
5 ความคิดเห็น
อ่านแล้วได้ “กำไร” แต่เช้าเลยค่ะ
ข้อที่เห็นชัดว่าได้กำไร ก็คือ การได้อดทน ต่อ ความกระด้างที่แสดงออกมา (เธออาจใจดี แต่เหนื่อยเพราะตรากตรำกับงานประจำที่ซ้ำซากทุกวัน)
ขอบคุณเรื่องดี ๆ ค่ะ
งานนี้กำไรเห็นๆค่ะ
ฝากหอมแก้มหลานWebsiteด้วยค่ะ
สาธุ ๆ อายุ วัณโน สุขัง พลัง….อิอิ
ท่าน freemind .. ขอบคุณมากครับ คิดแบบเห็นใจเขา เราก็เบาไปได้อีกเยอะ จริงๆเลยนะครับ
ป้าจุ๋ม .. ขอบคุณครับ เย็นนี้จะทำตามคำขอครับ .. อิ อิ อิ
ท่าน Panda.. ขอบพระคุณครับ .. ฝากพรย้อนกลับถึงท่าน และอาม่าด้วยครับ
อ่านบันทึกของท่านอาจารย์จบปุ๊บ ความคิดเกิดทันทีเลยค่ะ
คิดว่าถ้าเป็นเราล่ะก็ คงจะ…
จ๋วยไปแร่ะ
ฮ่าๆๆๆ
ถ้าเป็นหนูล่ะก็ คงจะขาดทุนแบบไม่ต้องสงสัยเลยอ่ะค่ะ
เอิ๊กซ์