วันนี้ผมไปขึ้นศาลอาญา !
อ่าน: 953วันนี้ไปศาลอาญามาครับ !
คุณศิวกร ที่เป็นทั้งลูกศิษย์เก่าและเสมือนลูกชายไปด้วยพร้อมๆกัน โทรมาบอกก็รีบแต่งตัวและเดินไป เพราะศาลอยู่ไม่ไกลบ้านสักเท่าไร
เรื่องที่ถ้าไม่เกรงใจผมอยากเรียกว่า “เรื่องบ้าๆ” มันยังไม่จบสิ้นครับ เห็นบอกว่ากำลังไกล่เกลี่ยกันอยู่ที่ชั้น 7 และทางฝ่ายโจทย์ขอเรียกค่าเสียหาย 5 หมื่น นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมต้องรีบเดินและกะว่าจะใช้การพูดเรื่องจริง สยบทุกอย่างให้ได้ และก็ทำสำเร็จด้วยครับ
มีอย่างที่ไหน ที่คนมาอยู่อาศัยในที่ของเรา ที่เรายอมให้ด้วยเมตตาเอื้ออารี กลับมาฟ้องร้องว่า เราบุกรุก และตำรวจบ้าบางคนที่สน.บางซื่อก็ดันรับฟ้อง จับกุมคุมขังผู้บริสุทธิ์คือลูกชายเพื่อนผมมาแล้วเมื่อ 6-7 ปีก่อน นอนห้องขังอยู่ 1 คืน จึงออกมาได้ กระทบกระเทือนใจ และงงมากเพราะแกเป็นเด็กญี่ปุ่น อาการประสาทหลอนกำเริบ จนสุดท้าย โดดตึกตายต่อหน้าผมมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ก่อนแกตายแกมักหวาดผวาและบอกว่ากลัวตำรวจ
ผมก็พยายามไปเคลียร์อย่างดีที่สุดตั้งแต่คราวโน้น และลงเอยด้วยดี คือเรายอมใช้คนของเรา ใช้รถของเราช่วยขนของที่เขาเอามาวางในที่ของเราไปให้ถึงบ้าน โดยมีตำรวจรู้เห็นเป็นพยาน เพื่อให้เรื่องมันจบๆ ทั้งๆที่ถ้าจะเล่นกลับมันคงร่วงไปทั้งคนที่ฟ้องเรา และตำรวจที่รับฟ้อง คิดดูเถิดมาอาศัยเราแล้วแจ้งจับคนของเราว่าบุกรุก มันบ้าหรือดี
ผ่านไปหลายปี คุณศิวกร ที่เคยขับรถไปส่งของให้ฟรีๆก็ถูกตำรวจจับอีกตามหมายศาลเมื่อ 2-3 เดือนก่อน และผมต้องหาเงิน 5 หมื่นไปประกันตัวเขาที่สน.บางซื่อมาแล้ว จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้เงินคืน เรื่องที่ว่าจบมันดันมีเอกสารส่งต่อมาถึงศาลครับ มาจากสน.บางซื่อนั่นแหละ ทำกันอีท่าไหนไม่ทราบได้ สุดท้ายนายศิวกร ต้องไปจ่ายเงินอีกร่วมสองหมื่น เพื่อให้บริษัทหนึ่งมาประกันตัว เพราะเขาไม่มีเงิน
วันนี้ทางฝ่ายโน้นมาเพื่อรับการไกล่เกลี่ยโดยเรียกค่าเสียหาย 5 หมื่น ผมก็ได้ไปบอกเรื่องราวให้ท่านผู้พิพากษา และตัวแทนฝ่ายโจทย์ได้รับรู้ความจริงแล้วก็อยากจะรู้ว่ายังจะเรียกร้องค่าเสียหายอีกหรือไม่ .. สุดท้ายทุกอย่างจบครับ ไม่มีฝ่ายใดติดใจ ผมก็ฝากข้อคิดไว้กลางวงว่า ชีวิตคนเราเหลือกันอยู่ไม่มาก น่าจะยังมีเรื่องอะไร ที่ดีๆ และมีสาระให้ทำอีกเยอะ .. และให้มั่นใจว่าผมจะไม่ไปฟ้องกลับให้วุ่นวาย ทั้งๆที่โดยรูปการณ์แล้ว มีช่องให้ทำได้มากมาย ทั้งกับฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าเป็นโจทย์ และบุคลากรที่เรียกตัวเองว่าผู้พิทักษ์สินติราษฎร์บางคน ..
เรื่องเหล่านี้นับว่าจิ๊บจ๊อยมาก ถ้าเทียบกับอีกสองสามเรื่องที่ผมโดน .. จากบุคคลที่เราให้ความรัก เมตตา ปรารถนาดี และทุ่มเททุกอย่างให้ไปจนเกินพอดี แบบว่า เมตตา กรุณา จนลืมอุเบกขานั่นแหละ .. แต่พูดไปจะกระทบบุคคลอื่น จึงขอผ่านไปไม่พูดถึงดีกว่า .. กรรม คือการกระทำของใคร ก็ย่อมนำไปสู่การรับผลที่คู่ควรอยู่โดยธรรมชาติแล้ว ..
ผมมีหน้าที่เป็นผู้ดูที่ฉลาดเท่านั้น .. และจะไม่โง่พอที่จะให้เรื่องไร้สาระทั้งหลายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต มาเบี่ยงเบนความมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่ควรทำ เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข ตามที่ได้ตั้งใจไว้
อิ อิ อิ .. อีกครั้งก็ยังได้
อิ อิ อิ
« « Prev : รำลึกเรื่องราวคราวเดินทางไปส่งแม่
Next : เบื้องหน้า เบื้องหลัง วันอาม่าไป ไทยมุง » »
6 ความคิดเห็น
น่าจะให้หมายเลขคดีหรือรหัสอ้างอิงใดๆ ของราชการไว้นะครับ
มา อิอิ หน่อย เป็นผมไม่ยอมแน่ครับ เรื่องแบบนี้ยอมไม่ได้ อิอิ
เข้าใจเลยค่ะพี่แฮนดี้ ^ ^…และเห็นด้วยกับพี่ๆทั้ง 2 ท่านข้างล่างมาก (ธีมนี้แปลกแฮะ โพสต์ก่อนอยู่ข้างล่าง อิอิอิ)
สิ่งที่ผ่านไปแล้วนะคะ อาจารย์
ทางการศาลจะอย่างไรก็ไม่รู้ แต่ถ้าเป็นแบบอุ๊ยก็จะเก็บเอกสารทุกอย่างไว้ กันเหนียวพวกจะมาหาทางเล่นอะไรอีก
สงสารเด็กที่กระโดดตึกตายนะคะ
ทำไมมันเป็นเช่นนี้ ธรรมชาติย่อมอคุ้มครองคนที่มีธรรมชาติในตัว ขอเรื่องไร้สาระเหล่านี้หมอสิ้นไป อย่าได้พาลพบอีกเบยนะ อาม่ารัก เอาใจช่วย และจะสนับสนุนให้แฮนดี็้ได้มุ่งมั่นในงานที่ อ.แฮนดี้รักต่อไป
ทำไมมันเป็นเช่นนี้ ธรรมชาติย่อมคุ้มครองคนที่มีธรรมชาติในตัว ขอให้เรื่องร้ายๆ ไร้สาระเหล่านี้หมดสิ้นไป อย่าได้พาลพบอีกเลยนะ อาม่ารัก เอาใจช่วย และจะสนับสนุนให้แฮนดี็้ได้มุ่งมั่นในงานที่ อ.แฮนดี้รักต่อไป