เมื่อผมกับ ดร.เม้ง คุยกันใหม่ๆ

โดย handyman เมื่อ 3 กรกฏาคม 2009 เวลา 10:19 (เช้า) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1210

    ดร.เม้ง เขาเรียกผม “พี่บ่าว” และผมก็เรียกเขา “น้องบ่าว” จนชินแล้ว  เรารู้สึกใกล้ชิดกันมากทั้งๆที่จนบัดนี้ ยังไม่เคยเจอตัวเป็นๆกันเลย  นัดกินข้าวต้มก็หลายครั้ง แต่แห้วทุกที  และที่อยากบันทึกไว้ตรงนี้อีกเรื่องคือ  เมื่อคุณแม่ผมเสีย และผมแจ้งข่าวขึ้น Blog ที่ Gotoknow  โทรศัพท์แสดงความเสียใจสายแรกที่ผมได้รับเป็นโทรทางไกลจากเยอรมันครับ ก็จากน้องบ่าวสุดที่รัก ดร.เม้งคนเดียวกันนี่แหละ

    วันนี้ย้อนรอยไปอ่านบันทึกเก่าๆ  ได้พบกับข้อเขียน ความคิด ความเห็นที่เราแลกเปลี่ยนกันในระยะแรกๆ  จึงอยากนำมาตัดต่อและบันทึกไว้ให้เห็นง่ายๆที่ตรงนี้ครับ จะมีคุณค่าอย่างไร หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการมองของแต่ละคน  สำหรับผม มันมีค่ามากครับ .. ตอนนั้น ดร.เม้ง ยังเรียกผม “คุณ Handy” อยู่เลย

    เชิญติดตามครับ …

    จากบันทึกของผมเรื่อง “ เพิ่มความเร็วอย่างเหลือเชื่อ ในการคูณเลขสองหลักด้วย 11” ดร.เม้งมาเริ่มคุยด้วยการบอกว่า ..

  …

กราบสวัสดี คุณแฮนดี้ครับ

      ผมก็คนหนึ่งที่ชอบคณิตศาสตร์ครับ และรู้สึกดีครับ ที่มีการหยิบยกตัวอย่างทางคณิตศาสตร์ ซึ่งนำมาใช้ในประจำวันได้ ซึ่งจริงๆ แล้วคณิตศาสตร์หรือภาษามันก็เป็นเรื่องเดียวกันทั้งสิ้น ล้วนมาจากสาขาปรัชญาทั้งสิ้น แต่พอเราเรียนลงลึกแล้วแยกสาขาลงไปจนเห็นความแตกต่างระหว่างสาขาที่แยกลงไปเลยกลับกลายไปว่ามีหลายๆ อย่างจนต้องชอบหรือไม่ชอบวิชาต่างๆตามมา จริงๆแล้วหากเรารู้ว่าในโลกนี้มีความรู้มากมาย แล้วที่เรียนมานำไปประยุกต์ใช้อย่างไร เรียนเรื่องนี้นำไปใช้ในส่วนใด แต่ละเรื่องเกี่ยวกับรอบตัวอย่างไร ก็จะเห็นความสำคัญขึ้นมาทำให้ตอนเรียนน่าสนใจ น่าติดตามและศึกษาก่อนที่อาจารย์สอนเพราะสนใจเป็นพิเศษ ดังนั้นหากเรามีคนแนะนำ โดยนำเข้าสู่บทเรียนโดยการสอนหรือหยิบยกอะไรบางอย่างให้เด็กเห็น เด็กๆ ก็จะจำเป็นภาพ เป็นการประยุกต์ การจำสิ่งรอบข้างทำให้เชื่อมโยงกับความคิดในบทเรียน นั่นคือเรื่องเดียวกัน

อย่างคณิตศาสตร์ แต่ละเรื่องแต่ละบทก็เกี่ยวกับสิ่งรอบตัวเราทั้งสิ้น อยู่ที่ว่าเราจะเชื่อมต่อมันเข้ากันได้อย่าง เพราะตอนนี้มันแปลงมาอยู่ในรูปสัญลักษณ์และสมการแล้ว ซึ่งหากเราอ่านสมการและสัญลักษณ์นั้นได้เข้าใจ ก็ไม่ต่างไรกับการอ่านบทความทางภาษาศาสตร์หรือสังคมศาสตร์นั่นเอง และในทางกลับกันบทความทางภาษาศาสตร์หรือทางสัมคมศาสตร์ก็แปลงให้อยู่ในรูปคณิตศาสตร์ได้เช่นกันครับ

ผมอยากให้เด็กไทยอยากเรียนคณิตศาสตร์และก็ชอบภาษาและสังคมด้วย เพราะมันคือเรื่องเดียวกัน

ขอบคุณครับผม

สมพร

         จากนั้นผมก็ไปตอบแกว่า …

  • นาย สมพร ช่วยอารีย์ .. เป็นครั้งแรกที่ชื่อท่านมาปรากฏใน Blog นี้ หลังจากตามสะกดรอยไป บ้านของท่าน บอกได้ว่าประทับใจ โดนใจกับสิ่งที่นำเสนอครับ ข้อคิด ความเห็นข้างบนของท่านก็เห็นด้วยทุกประการ ส่วนที่ท่านว่า ..    นำเข้าสู่บทเรียนโดยการสอนหรือหยิบยกอะไรบางอย่างให้เด็กเห็น เด็กๆ ก็จะจำเป็นภาพ เป็นการประยุกต์ การจำสิ่งรอบข้างทำให้เชื่อมโยงกับความคิดในบทเรียน .. นั้น ผมถือเป็นเรื่องสำคัญมากเสมอ .. เพราะเชื่อว่าการเรียนรู้โดยปราศจากเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะนำความรู้นั้นไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหาได้อย่างไร .. ไม่น่าจะเป็นการเรียนรู้ที่ดี และไม่มีชีวิตชีวาครับ
  •        แล้ว ดร.เม้งก็มาต่ออีกครั้งว่า …

    สวัสดีครับ

           ผมก็เป็นนักคณิตศาสตร์ผสมกับคอมพิวเตอร์ รวมๆกัน เหมือนจะเป็นคณิตศาสตร์ประยุกต์ และทำวิจัยเกี่ยวกับการเกษตร ต้นไม้อะไรพวกนี้ครับ มันจะเป็นการงงของคนที่ถามคำถามอยู่เสมอว่า คณิตศาสตร์กับเกษตรมันเกี่ยวกันได้อย่างไร ไว้ผมจะค่อยเขียนไว้นะครับ ให้ลองหาความสัมพันธ์กันเล่นๆ ดูครับ ในบล็อก มิสเตอร์ช่วย นาย สมพร ช่วยอารีย์ ครับ ซึ่งจริงๆ แล้วคณิตศาสตร์เอาไปใช้ได้ทุกๆสาขาเลยครับ

         ขอบคุณครับ

            สมพร

             เรื่องต่างๆก็คืบหน้าไปจนเราได้คุยกันทั้งทาง Blog ทางโทรศัพท์ และทาง Skype ในบางครั้ง  และจนกระทั่งวันหนึ่งขณะผมกำลังขับรถอยู่แถววงศ์สว่าง  น้องบ่าวคนนี้ก็โทรทางไกลจากเยอรมันมาขออนุญาตใช้ชื่อ Blog “ลานปัญญา” ของผม ไปเปิด Web ที่ชื่อ lanpanya.com และผมได้ตอบ OK ไปด้วยความยินดียิ่ง .. ก็ ลานปัญญา ของพวกเรานี่แหละครับ

             ขอบคุณน้องบ่าว ดร.เม้ง มากครับ

      ….  อิ อิ อิ

    Post to Twitter Post to Plurk Post to Yahoo Buzz Post to Delicious Post to Digg Post to Facebook Post to MySpace Post to Ping.fm Post to Reddit Post to StumbleUpon

    « « Prev : การบันทึกข้อมูลการทำงานเชิงช่างลงสมุดบันทึก

    Next : รำลึกเรื่องราวคราวเดินทางไปส่งแม่ » »


    ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

    3 ความคิดเห็น

    • #1 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 กรกฏาคม 2009 เวลา 4:04 (เย็น)

      อมยิ้มกับที่มาของชื่อลานปัญญาจากเจ้าของชื่อที่โดนใจทุกคน ซึ่งตอนนั้นทราบว่าเป็นมติเอกฉันท์แบบไม่มีเสียงค้านเลยล่ะค่ะ (ผู้นำเสนอญัตติคือพี่อึ่งอ๊อบ อิอิอิ) และชื่อนี้ถือเป็นนามมงคลเสียด้วยสิคะพี่แฮนดี้ …ขอลงท้ายแบบอาม่าว่า ของเขาดีจริงๆ ^ ^

    • #2 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 กรกฏาคม 2009 เวลา 4:49 (เย็น)

      เมื่อไหร่จะได้พบกันหนอ อีตาเม้ง น้องเม้ง เม้งเทอร์โบ เม้งเยอรมัน  เสียงเม้ง เม้ง เหมือนระฆังในภาคเหนือ เวลาพระตี ชาวบ้านจะออกเสียง เม้ง เม้ง… ชื่อนี้ใกล้ธรรมเข้าไปอีกหน่อย อิอิ

    • #3 มิสเตอร์สะตอฯ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 กรกฏาคม 2009 เวลา 9:04 (เย็น)

      สวัสดีครับพี่บ่าว
      ขอบคุณมากๆ นะครับ สำหรับการย้อนกลับไปมองที่มาของความสัมพันธ์ที่ดีครับ หลายๆ อย่างที่ดีๆ เกิดขึ้นเพราะความตั้งใจดีต่อกันครับ สานต่อสิ่งดีๆ ร่วมกันจนออกดอกออกผลตามบริบทครับ  ผมดีใจที่ได้เจอพี่ ได้พูดคุย การเจอกันเป็นเรื่องดีครับ วันหนึ่งก็คงได้พูดคุยกันมากขึ้นครับ ช่องทางการสื่อสารมีมากมายเลยนะครับ เพียงแต่หากเราใช้แต่ละช่องทางในการสื่อสารกันอย่างจริงใจและสานต่อร่วมกันก็จะเป็นเรื่องที่ดีต่อเนื่องก็จะนำมาสู่อะไรๆ อีกหลายๆ อย่างครับ

      ผมได้เรียนรู้หลายๆ อย่างจากพี่และสมาชิกหลายๆ ท่าน ตั้งแต่โกฯ มาถึงลานฯ ครับ

      ขอบพระคุณมากๆ เลยนะครับ


    แสดงความคิดเห็น

    ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


    *
    To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
    Click to hear an audio file of the anti-spam word


    Main: 0.059426069259644 sec
    Sidebar: 0.015494823455811 sec