จัดแจงแต่งหน้า

6 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 10 มิถุนายน 2010 เวลา 10:23 (เช้า) ในหมวดหมู่ สังคม ความคิด #
อ่าน: 2477

 

ขำ ๆ เจ้าหลานสาว สาวน้อยที่เพิ่งเข้าสู่วัยรุ่น…

 

        เมื่อวันก่อน สาวน้อยวัยย่าง 13 ปี เดินหน้ามุ่ยเข้ามาหา… บอกว่าเสาร์นี้นัดกับเพื่อนเก่า  จะไปเที่ยวสยามกัน  เพื่อน ๆ นัดกันว่าให้แต่งชุดออกสีเขียวกับชมพู (ดี ๆ หวานแหวว) รองเท้าดำ ซึ่งก็ไม่มีปัญหา คุณแม่อนุญาต แต่ที่มีปัญหาคือ เพื่อนบอกให้ “แต่งหน้า” ด้วย เอาล่ะสิคุณแม่ไม่อนุญาตบอกว่าแก่แดด อายุแค่นี้แต่หน้าทำไม ไม่ได้… เป็นที่ขัดอกขัดใจกับแม่ เลยมาหาหวังจะให้ช่วยสอนแต่งหน้าให้ (ตายละวา…เอาไงดี) ไม่งั้นจะไปกับเพื่อน ๆ ไม่ได้ (ดาแดง ๆ) ก็เลยลดความตึงเครียด เอาใจหน่อย บอกว่าจะแต่งยังไงดีล่ะ สาวน้อยบอกว่า เพื่อนบอกว่าให้แต่งแบบนี้…

 

        หน้าซีด กรีดตา ปากแห้ง คิ้วเข้ม

 

        อ้อ… มีเทรนด์มาให้เสร็จ เลยซักต่อว่า

ถาม  แต่งให้ หน้าซีด แล้วมันจะสวยเหรอ เดี๋ยวคนนึกว่าไม่สบายไปโน่น

ตอบ  มันเป็นเทรนด์เกาหลีค่ะ ต้องหน้าซีด ๆ ขาว ๆ

ถาม  แล้ว “กรีดตา นี่ ทำยังไงเหรอ

ตอบ  ตาใช้อายไลน์เนอร์ (ที่วาดขอบตา) หนูไม่มีค่ะ

ถาม  ตายล่ะ ไม่มีเหมือนกัน ทำไงดีล่ะ ใช้อย่างอื่นกรีดตาแทนได้ไหม กรีดยังไง…

ตอบ  วาดให้มันเป็นเส้นเดียวกับขอบตาบนไปทางหางตาแล้วก็ตวัดขึ้น

         นิดหน่อยตรงหางตา (5555…เหมือนแต่งหน้าของพวกงิ้วเลยนะ)

ถาม  เดี๋ยวจัดให้ได้จ้ะ แต่มันจะสวยรึ น่ากลัวมากกว่า

ตอบ  สวย ๆ ค่ะ ใครไม่กรีดตาไม่อินเทรนด์ กรีดแล้วตาจะโตเข้มขึ้นด้วย

ถาม  “คิ้วเข้ม” นี่ก็เทรนด์เกาหลีน่ะสินะ  เออ…แล้ว ปากแห้ง เป็นไงล่ะ

ตอบ  เหมือนปากร้อนในอ่ะ  อ้อ…พอเข้าใจ ทาลิปสีเฉพาะริมฝีปากด้านใน

        ด้านนอกริมฝีปากไม่ต้องทา (ดูตัวอย่างได้จากพี่อั้ม พัชราภา)

ถาม  เอา ๆ ร้อนในก็ร้อนใน… (สวยไงนะ)

       

      ตกลงนัดหมายกันว่าลองแต่งหน้าก่อนวันเสาร์ที่จะถึงนี้  เพื่อให้สาวน้อยได้เห็น “ภาพ” ของตัวเองก่อน…

     เมื่อวานเย็นก็เลยลองช่วยแต่งตัวตามเทรนด์ เล่นเอาเหนื่อยไปทั้งเจ้าตัวและคนช่วยแต่งให้ ไหนจะต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่ให้สมาชิกในบ้านคนอื่นได้เห็นอีก กว่าชั่วโมงผ่านไป …

ถาม   เอ้ามองกระจก สวยพอหรือยัง (คนช่วยแต่งถอนใจ)

ตอบ  อืม…หนูว่าคิ้วเข้มไปหน่อย (อ้าวก็จะเอาคิ้วเข้ม ๆ ไง)

ถาม   ลบหน่อยก็ได้ ใช้สำลีเช็ด ๆ

ตอบ  หน้าซีดมากเลยนะ เพื่อนบอกว่าหน้าไม่เรียบต้องรองเบส

ถาม   รองเบส อ้อ…รองพื้นน่ะนะ

ตอบ  พยักหน้า หลังหมุนซ้าย หมุนขวา หน้าหลังหลายรอบ หนูว่ามันแปลก ๆ อ่ะ

ถาม   ใครแปลก… ก็ตามเทรนด์เลยนะ หน้าก็ซีดแล้ว ตาก็กรีดแล้ว

        (เลอะนิดหน่อย) ปากแห้งเหมือนคนร้อนใน(ขาดน้ำ) คิ้วเข้มได้ใจแล้วไง

ตอบ  หนูว่ามันไม่เหมือนตัวหนูอ่ะ ใครไม่รู้ … น่าเกลียดด้วย… เสียงเริ่ม

        อ่อยลงอย่างขาดความมั่นใจในตัวเอง

ถาม   5555555…. หัวเราะ ๆ ๆ ยิ้ม ๆ ๆ นั่นสิ…เห็นด้วย น่าเกลียดจริง ๆ

ตอบ  หนูไม่แต่งหน้าดีกว่า…ไม่เอาละ

 

        ในที่สุดก็รีบช่วยกันล้างหน้าล้างตา และในระหว่างเราสองคนก็ให้รู้สึกว่า “โล่งใจ” ลึก ๆ อย่างบอกไม่ถูก เพราะในที่สุดแล้ว สาวน้อยก็ได้เรียนรู้ว่า… หน้าตาของเธอน่ารักและสวยได้อยู่แล้ว โดยไม่ต้องแต่งหน้าทาปากตามเทรนด์ของใคร

       

คิดในใจยิ้ม ๆ  ……

อย่าเลย อย่าเพิ่งรีบบานสยายกลีบเลยเจ้าเอย  ถึงเวลาดอกไม้…จะบานงดงามเอง

 

Rose1 

ยินดีด้วยจ้ะที่ค้นพบตัวเอง…

 


แบ่งปัน

8 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 5 มิถุนายน 2010 เวลา 7:49 (เย็น) ในหมวดหมู่ สังคม ความคิด #
อ่าน: 1896

 

 แอบได้ยินพี่สาวคุยกับหลาน ๆ (ในฐานะคุณยาย) …

         พี่สอนหลาน ๆ เรื่อง “การว่ายน้ำ” เปรียบเทียบกับ “การแบ่งปัน” ได้ยินแล้วมาคิดต่อไปอีกยาว

 

       “…ตอนเราว่ายน้ำ ต้องทรงตัวอยู่ในน้ำนะ เราก็ต้องตะกาย ต้องวักน้ำออกจากตัวไปใช่ไหม แล้วยิ่งเราวักน้ำ ผลักน้ำออกไปจากตัวมากเท่าไร ตัวเราก็จะลอยอยู่ได้ เพราะยิ่งผลักไสน้ำออกไป น้ำมันก็จะยิ่งกรูเข้ามาหาตัวเรา ช่วยพยุงให้ตัวเราลอยอยู่ได้สบาย ๆ…”

 

       มนุษย์เราหากมุ่งแต่จะเป็น “ผู้รับ” ถ่ายเดียว ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง สิ่งของ ความรู้ ความคิด ก็เปรียบเหมือนคอยแต่วักน้ำเข้ามาหาตัว น้ำก็ยิ่งแทรกทะลุหนีออกไปไกลตัวเท่านั้น

       ในทางกลับกันหากเรามีใจเกื้อกูลที่จะแบ่งปันให้คนอื่นและสังคม ก็คล้ายวักน้ำออกไปจากตัวให้คนอื่น ๆ น้ำก็จะยิ่งวิ่งเข้ามาหาเรามากขึ้นโดยปริยาย

 

       งั้น…เรามาเป็น “ผู้ให้” กันดีกว่า ไม่ใช่เพราะการให้ ทำให้ยิ่งได้รับ แต่เพราะว่าการมีผู้ให้เพิ่มขึ้น จะทำให้โลกนี้รื่นรมย์ อบอุ่น น่าอยู่ และทุกคนมีความสุขเพิ่มขึ้นโดยรวมต่างหาก

 

      เพราะในที่สุดแล้ว เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา ต่างปรารถนา “ความสุข” ด้วยกันทุกคน

 

แปงปัน ให้ความสุขกันเถิด โลกจะได้น่าอยู่ยิ่งขึ้น….

 


เรื่องเล่าจากรถเมล์เล็ก

4 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 1 มิถุนายน 2010 เวลา 12:22 (เย็น) ในหมวดหมู่ สังคม ความคิด #
อ่าน: 1981

 

         ส่วนตัวแล้วเดินทางและชื่นชอบการเดินทางด้วย “รถเมล์” เพราะสะดวก ประหยัด ตื่นเต้น เร้าใจ และที่ชื่นชอบที่สุดเป็นส่วนตัวก็คือ การได้เห็น “ชีวิต” เหมือนดู ซีรี่ส์หนังเกาหลี (ซึ่งจริงๆ ก็ไม่มีโอกาสดูหนังเกาหลีหรอก)

 

       เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้ฟังมานานมากแล้ว แต่ยังติดใจและจำได้ดี…

เริ่มเรื่องจาก รถร่วม ขสมก. หรือ รถเมล์เล็กสีเขียว (ปัจจุบันบางคนเรียกว่า “สางเขียว”) ที่ขึ้นชื่อว่าขับรถได้รวดเร็ว ทันใจ เป็น “ขาใหญ่” ประจำท้องถนนที่คนขับรถทั่ว ๆ ไปไม่อยากยุ่งด้วย ด้วยเหตุนี้ หากรีบจริง ๆ ต้องขึ้นรถร่วมหรือเจ้าสางเขียว นี่แหละ จึงจะถึงที่หมายได้เร็วอย่างแน่นอน จะลงตรงไหน หากรถติดอยู่ก็ลงได้ตามใจ ไม่ต้องรอถึงป้าย ทันใจทุกระดับประทับใจ

        มีลุงคนหนึ่งเป็นขาประจำรถเมล์เล็ก ทุกเช้าลุงจะมารอรถเมล์และก็มักจะได้ขึ้นรถเมล์เล็กคันนี้เกือบทุกวัน ลุงชอบห้อยโหนอยู่ตรงประตูหลังเสมอ แม้คนไม่แน่น ลุงก็ไม่ยอมขึ้นมายืนหรือนั่งในรถเลยสักครั้ง

        วันหนึ่งกระเป๋ารถเมล์ ซึ่งเห็นพฤติกรรมของลุงมานานแล้ว อดรนทนไม่ได้จึงพูดว่า…

 กระเป๋า    ลุง ไปโหนอยู่ทำไม เข้ามายืนข้างในดีกว่า

ลุง          ข้าชอบ ตรงนี้เย็นดี

กระเป๋า    เอ๊ะ ลุงนี่ อันตรายนา เข้ามา ๆ

ลุง          ไม่ตอบ เฉย โหนต่อไป

กระเป๋า    พูดไม่รู้เรื่องหรือไง ตกลงไปเดี๋ยวผมกับคนขับจะ

              เดือดร้อนอีก

ลุง          เดือดร้อนก็เรื่องของเอ็งสิ…ไม่เกี่ยวกับข้า

กระเป๋า    อ้าว พูดงี้ก็สวยดิ เดี๋ยวลุงตกลงไปตายห่…ว่าไง

ลุง          ก็เรื่องของข้า...โว้ย ไม่เกี่ยวกับเอ็ง

คนในรถ   ลุงเข้ามานั่งเหอะ ลุงเป็นอะไรไป มันเดือดร้อน

               กันไปหมดนะ คนขับก็แย่ ผู้โดยสารก็เสียเวลา

ลุง          ยอมเดินเข้ามาในรถอย่างว่าง่าย ท่ามกลางสายตา

             โล่งอกโล่งใจของทุกคนในรถ

กระเป๋า    เออ พูดกันเข้าใจง่าย ๆ หน่อย ค่อยยังชั่ว

ลุง          ข้ามานั่งเพราะเห็นว่าเป็น “เรื่องของเรา” โว้ย

 

       ตอนได้ฟังเรื่องเล่านี้ หลายคนฟังแล้วบ่นว่า ลุงนี่กวนจริง ๆ บางคนบอกว่า มีคนอย่างนี้จริง ๆ เหรอ บ้างก็ว่า เฮ้อ น่าเห็นใจคนขับกับกระเป๋า บ้างก็ว่าลุงนี่น่ารักนะ เห็นแก่ส่วนรวม …..ฯลฯ

 

       ส่วนตัว ฟังแล้วอารมณ์ดี  ได้คิดขึ้นมาว่า เรื่องของใคร คนคนนั้นก็ควรที่จะรับผิดชอบเอง อย่าเที่ยวไปเรียกร้องให้คนอื่นต้องมารับผิดชอบในเรื่องของตัว  แต่ในเรื่องของ “ส่วนรวม” หรือ เรื่อง “ของเรา” ต้องระลึกตระหนักไว้ว่า เรามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน แม้จะไม่ชอบไม่อยากทำก็ตามทีเถอะ

ลุง…จ๊าบส์มากสุดยอดเลย!!!

 


ยอมรับ

2 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 25 พฤษภาคม 2010 เวลา 10:36 (เช้า) ในหมวดหมู่ สังคม ความคิด #
อ่าน: 2051

 

 

       ”การที่คนเราจะรู้จักเปิดใจกว้าง ลดการยึดมั่นในอัตตาของตนเองและเอาใจใส่ผู้อื่นอย่างแท้จริงได้ ต้องการพลังอย่างมาก ซึ่งมีแต่… “ความรัก” เท่านั้นที่จะสามารถทำสิ่งนี้ให้สำเร็จได้… เพราะ “ความรัก” คือความตั้งใจที่จะแผ่ขยายตัวเราเอง เพื่อการเจริญเติบโตทางจิตใจร่วมกัน…”

                                                                                                        วิทยากร เชียงกูล.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

       เรื่องการมอบความรักความปรารถนาดีนี่ ส่วนตัวคิดว่าไม่ยากนัก เพราะทุกคนก็ต้องมีความน่ารัก ความดี ความงามอยู่ในตัวบ้างไม่มากก็น้อย

       แต่… ให้รักให้ปรารถนาดีคนที่เราไม่เห็นความดีงามในตัวเลย (อาจต้องลองตะลุยค้นหาใหม่) …

ให้ตายสิ…ไม่อยากหลอกตัวเอง…

 

      พอรักและเมตตาคนบางคนไม่ได้ คราวนี้ก็รู้สึกผิดล่ะสิ เอ้า…เรานี่ไม่ดีเลย ทำไมไม่ให้อภัย ไม่เข้าใจแง่มุมของความเป็นมนุษย์ว่าก็ต้องทำผิด ทำถูก ดีบ้างเลวบ้าง (ต้วเราก็เช่นกัน) 

 

คราวนี้ก็รู้สึกแย่เป็นสองเท่า ทั้งไม่รักไม่ชอบคนอื่นแล้วยังไม่รักไม่ชอบตัวเองอีก … โอย…โลกจะแตกหรือไงกัน

 

         เล่าให้พี่ชายฟัง พี่ชายหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอยู่นาน ลูบหัวตบหูน้องแล้ว ก็บอกเสียงนุ่ม ๆ ขณะที่ยังสำลักน้ำหูน้ำตาจากการหัวเราะ (ขำอะไรนักหนาไม่รู้) ว่า…

“…การยอมรับว่าเรารู้สึกอย่างไรนั่นแหละ เป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตทางจิตวิญญาณ แล้วเราก็จะรักตัวเอง แผ่ขยายไปรักคนอื่น … ไปจนรักคนที่เราไม่ชอบได้ด้วยไงล่ะ…”

 

ไม่แน่ใจว่าเริ่มรู้สึกรักตัวเองหรือยัง?

ที่แน่ ๆ ตอนนี้รู้สึกรักพี่ชายจัง!!!

      


เจ็บปวด

ไม่มีความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 20 พฤษภาคม 2010 เวลา 7:45 (เย็น) ในหมวดหมู่ สังคม ความคิด #
อ่าน: 1935

 

เจ็บปวด สูญเสีย ล้มตาย     สะใจ ดีใจ ใช่ไหม

ทำร้าย กันเอง ทำไม         ป่วยการ หาใคร เยียวยา

สิ่งของ บ้านเรือน พินาศ     สามารถ สร้างใหม่ ได้แน่

จิตใจ วิญญาณ  ผันแปร      ย่ำแย่ ใครแก้ บอกที

 

Municipal workers clear the fortification of anti-government protesters as smoke billows out from a building set on fire by protesters in downtown Bangkok, Thailand, Wednesday, May 19, 2010. Seven leaders of Thailand's Red Shirt protesters have surrendered to authorities after a deadly army assault on their fortified encampment.

 ภาพจากอินเทอร์เน็ต

   

ว่ากันว่า การเขียน การเล่า การบอก การบ่น เป็นวิธีในการเยียวยาความรู้สึกที่แย่ ๆ

 

อืม… ดีขึ้นจริง ๆ       

 


เลือกปฏิบัติ

6 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 19 พฤษภาคม 2010 เวลา 12:02 (เย็น) ในหมวดหมู่ สังคม ความคิด #
อ่าน: 2066

 

       เพิ่งได้คุยกับพี่สาว ซึ่งพักอาศัยอยู่ใกล้สีลม พี่สาวคนนี้เป็นคนที่ต่อต้านและเกลียดการชุมนุมประท้วงทุกประเภท ตั้งแต่สมัยที่น้องสาวตัวแสบเคยไปร่วมชุมนุมกับ “เสื้อเหลือง” พี่จะโทร.ตามอย่างไม่หยุดหย่อน และหากเจอหน้าเป็นต้องมีการเทศนา เคาะหัวให้หายโง่ (ไปยุ่งกับเขาทำไม…ห๊า!!!)

 

       พี่เล่าว่าก่อนวันที่ 13 พค.53 ซึ่งเป็นวันประกาศแตกหักของรัฐและกลุ่มนปช. พี่แวะผ่านไปทางสีลม เห็นทหาร ตำรวจยืนประจำการตลอดถนน (โธ่…พี่เราไปอยู่ไหนมา ข่าวสารการเมืองไม่ดู ไม่ติดตามบ้างเลย) เห็นทหารตำรวจมองไม่วางตา เนื่องจากเธอแต่งกายค่อนข้างออกแนวไปทางคุณนาย และมองเพ่งที่ของที่เธอถืออยู่ 2-3 ถุงใหญ่ ซึ่งเธอตั้งใจซื้ออาหารและขนมไปฝากลูกน้อง เธอจึงตัดใจยกทั้งหมดให้ทหารที่อยู่แถวนั้น เธอบอกว่า หน้าตาเขาดีใจมาก ๆ เลย วันต่อมาเธอสั่งลูกน้องไปซื้อผ้าขนหนูเนื้อดีจากสำเพ็ง (เน้นเอาเนื้อดีที่สุดที่มี) กว่า 500 ผืน มาซักและแช่น้ำแข็ง หยอดโอดิโคโลจญ์ 4711 ขวดโปรดจนหอมฟุ้ง ใส่กล่องโฟมไประดมแจกโดยพาลูกน้องผู้ชายไป 2-3 คนช่วยแจก (โอย…ไม่ยอมบอกเราบ้าง)

 

น้อง : โห ดีจัง เล่าหน่อย ๆ  อย่างนี้ไม่ยักชวนหนูหรอก

พี่    :  ก็แบกกันไป รีบแจก กลัวระเบิดน่ะ เพราะมีข่าวระเบิดทุกวันเลย เจ้ก็รีบ ๆ ส่ง ๆ ให้ อ้อ…แต่สั่งลูกน้องนะว่าให้แจกแต่ทหาร ชุดเขียว ๆ เท่านั้น ตำรวจสีแบบนี้ ๆ ไม่แจกนะ…

น้อง :  อ้าว…ทำไมล่ะ  เลือกปฏิบัติอย่างนี้ได้ไง เขาก็ยืนรักษาความปลอดภัยอยู่ด้วยกันนะเจ้…

พี่    :  ใครบอก ไม่ได้ดูข่าวเหรอไง ตำรวจตีคนเสื้อหลากสีจนทหารต้องเข้ามาช่วยห้าม เชยจัง…

น้อง :  อ้อ…เหรอ อมยิ้ม พี่สาวเราชักเปลี่ยนไปแฮะ เริ่มสนใจข่าวสารบ้านเมืองขึ้นมาบ้างแล้ว ถามต่อ…แล้วไม่น่าเกลียดหรือเขาก็ยืนอยู่ด้วยกันน่ะ เจ้ใจร้ายนะ

พี่    :  ไม่รู้ … ไม่สนใจร๊อก อ้อ…อย่ามาว่าเจ้ใจร้าย แล้วเจ้ก็แจกแหละ เพราะตำรวจที่ยืนติดกันเอื้อมมือมาบอกว่า ขอด้วย…

น้อง :  เหรอ … แล้วเจ้ให้หรือเปล่า ลุ้นระทึกน่าดูเลย

พี่    :  ให้สิ เสียงตอบสูง  แต่ก่อนให้ก็บอกว่า… ให้เพราะเป็นคนไทยเหมือนกันนะคะ ไม่ใช่ให้ตำรวจ…เสียงเล่าสะอกสะใจ แล้วเธอว่าไง อย่าน่า รู้นะ เธอต้องว่าเจ้ทำไม่ถูกใช่ไหมล่ะ เธอพวกนิยมการชุมนุมประท้วงนี่…

น้อง :  ฮ่า ๆ ๆ ๆ … เจ้แน่มาก…

 

หนูรักเจ้และภูมิใจในตัวเจ้จัง 

 


เยียวยาด้วยรัก

2 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 17 พฤษภาคม 2010 เวลา 8:52 (เย็น) ในหมวดหมู่ สังคม ความคิด #
อ่าน: 2591

 

(บันทึกนี้ตั้งใจเพียงจะเก็บสาระที่ได้จากการพูดคุย ไม่เกี่ยวข้องหรือต้องการพาดพิงถึงผู้ใดทางการเมือง)

 

ได้คุยกับพี่ชาย จึงตั้งคำถามกวนอารมณ์ในวันหยุดที่ได้มาโดยไม่ได้คาดคิดจากการประกาศของรัฐบาลให้วันที่ 17-18 พฤษภาคม 2553 เป็นวันหยุดราชการ

 

ถามว่า… ทำไมคนบางคนจึงทำร้ายคนอื่น ทำร้ายประเทศชาติได้อย่างมากมายและโหดเหี้ยมดังที่เราเห็น ๆ อยู่เช่นนี้

 

พี่บอกว่า ความรัก ความเมตตาเท่านั้นที่จะเยียวยาคน สังคมและโลก … (เคยได้ยินมาแล้ว ซาบซึ้ง ๆ) แต่คนจะให้ความรัก ความเมตตาต่อคนอื่นได้ ต้องรักและเมตตาตัวเองให้เป็นเสียก่อน (ตามสูตร คือต้องรักตัวเองก่อน จึงจะรักคนอื่นได้)

 

อ้าว แล้วใครกันจะไม่รักไม่เมตตาตัวเอง เราทุกคนก็รักตัวเองก่อนคนอื่นทั้งนั้นนี่นา ตอบไปแล้วสะดุดกึก…

 

เอ…แน่ใจแล้วหรือว่ารักและเมตตาตัวเอง ก็ต้องยอมรับนะว่าบางทีเราเองก็ยังอยากเขกหัวตัวเองเลย ตอนทำอะไรที่ไม่ได้เรื่องได้ราว ไม่ได้ดังใจ … ชักจะลังเล หรือว่าบางทีเราก็ไม่รักตัวเอง ทำร้ายตัวเองอย่างไม่รู้ตัวก็มีนะ

 

หันกลับไปถามต่อ แล้วทำยังไงจะรัก จะเมตตาตัวเองได้ล่ะ…

 

พี่ชายหัวเราะดัง ก็เรารักคนแบบไหนล่ะ ก็ทำตัวแบบนั้นแหละ จะได้รักตัวเองไง… (คำถามกวนอารมณ์แบบนี้เรียกว่า คำถามเฮงซวยหรือเปล่านะ?)

 

ตอบตัวเองอีกทีก็แล้วกันจะได้หลับสบายคลายคำถามคาใจ …

เราจะรัก เมตตา ปรารถนาดีกับตัวเองได้ ก็ต้องคิดดี พูดดี ทำดี ให้แม้แต่ตัวเราเองก็รู้สึกว่า … เรานี่น่ารักเหมือนกันนา…ฮิ้วฮา ๆ

 


เผื่อจะได้คำตอบ

9 ความคิดเห็น โดย freemind เมื่อ 14 พฤษภาคม 2010 เวลา 9:46 (เย็น) ในหมวดหมู่ สังคม ความคิด #
อ่าน: 2701

 

       นั่งดูข่าวทางทีวี ดูไปก็เศร้าไป ไม่รู้จะดูทำไม จะไปอยากรู้อยากเห็นเรื่องที่ชวนให้สลดใจ สังเวชใจด้วยเหตุอะไรนะ

 

       สังเกตเห็นความเกลียดชัง เคียดแค้น ขึ้งโกรธ ถึงขั้นเข่นฆ่ากันได้ทั้งที่ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าค่าตา หรือบางทีนะ บางทีอาจเป็นญาติพี่น้อง คนรู้จักกันก็ได้ แต่ไม่เคยรู้และไม่อยากจะรับรู้

 

       เกิดคำถามว่า อะไรทำให้คนเราทำร้ายกันได้ถึงเพียงนี้

 

       ถามตัวเอง แล้วก็ตอบไม่ได้อยู่ดี…  ตอบไปก็อาจไม่ถูกหรอก อย่าตอบนั่นแหละดี

 

       แต่คำถามก็ยังคาใจอยู่นี่ วางไม่ได้ หยุดคิดไม่ได้ ยุ่ง ๆ เหมือนยุงตีกันในหัว เลยต้องหาคำตอบให้คำถามที่แสนจะไม่ได้เรื่องได้ราวนี้เอง (ถามคนอื่นก็คงได้คำตอบแบบที่เคยตอบคนอื่นนั่นแหละ…อย่าคิดมากน่า!)

 

       คนทำร้ายคนอื่นเพราะเกรงว่าจะถูกทำร้าย เลยลงมือทำเสียก่อน … เอ ใช่ไหมนะ ถ้าใช่แล้ว…

 

          ยังมีวิธีอื่นอีกไหม ที่จะทำให้ไม่ต้องกลัวว่าคนอื่นจะทำร้ายเรา?

 

บอกตัวเองว่า หลับสักตื่น ถอยไปเป็นผู้ดู … เผื่อจะเกิดรู้คำตอบขึ้นดีกว่า…

 

ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีทุกท่านค่ะ

 



Main: 0.043751001358032 sec
Sidebar: 0.041081190109253 sec