คลี่-คลาย
คิดอย่างเด็ก ทำอย่างผู้ใหญ่
โชค บุลกุล
@@@@
เรื่องราวที่พบเจอในระยะนี้ ทำให้คิดถึงประสบการณ์บางอย่างในวัยเด็ก ด้วยว่าเป็นลูกที่ไม่เคยถูกพ่อแม่ตี มากที่สุดคือการคาดโทษ พี่ ๆ ชอบล้อว่าก็เป็น “ลูกหลง” มาในขณะที่พี่ ๆ โตกันหมดแล้ว พ่อแม่เลยรักมากเป็นพิเศษ เป็นเด็กเส้นของพ่อแม่มาตั้งแต่เกิด(จนแก่ป่านนี้) ว่างั้นเถอะ
@@@การเป็นลูกคนเล็กที่หลงมาของครอบครัวนั้น ส่งผลให้นอกจากเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองต้องคอยดูว่าพี่ ๆ เขาทำอย่างไร พูดอย่างไร และต้องทำอย่างไรจึงจะทำให้อยู่ได้ในกลุ่มพี่ ๆ ที่โตกว่าและมีความสนใจต่างจากเรา บางทีโลกของ “ลูกหลง” ก็ว้าเหว่เหมือนกัน เกิดความไม่มั่นใจและต้องการสร้างโลกส่วนตัว จึงกลายไปเป็นหัวหน้าแก็งค์ในเด็กรุ่นเดียวกันในครอบครัว (หลาน ๆ ซึ่งเป็นลูกของพี่คนโต ๆ ที่แต่งงานแล้ว) บทบาทหัวหน้าแก็งค์ต้องเป็นผู้ที่เข้มแข็งและสามารถปกป้อง สรุปรวมเลยทำให้เกิดความรู้สึกแปลกแยกปนสับสน บางทีก็ไม่มั่นใจไปเสียทุกอย่าง แต่บางครั้งก็ห้าวหาญเด็ดขาดอย่างไม่ค่อยมีเหตุมีผล (เลยชอบทะเลาะกับตัวเองเป็นประจำ)
@@@ที่เล่าเช่นนี้เพราะคิด/รู้สึกเองว่าหากเรา “ยอมรับ” ตัวเอง (อาจไม่ถูกต้องเพราะเป็นความคิด-ความรู้สึกส่วนตัว) เราจะพัฒนาต่อไปยังเส้นทางที่ควรเป็นได้ ไม่ติดแหง็กอยู่กับ “ปม” ในชีวิต การคลายปมในชีวิตสำคัญมาก และจะว่าไปแล้วก็ไม่ยากจนเกินกำลัง แต่ก็ไม่ง่ายนัก…
@@@เรื่องที่ว่าไม่ยากเพราะ มนุษย์เป็นสัตว์โลกที่มีศักยภาพอันมหัศจรรย์ รู้คิด รู้แก้ รู้กัน ไตร่ตรองใคร่ครวญเป็น หาเหตุผลได้ มีอัตภาพที่เหมาะกับการเรียนรู้และพัฒนาได้ (ต่างจากสัตว์โลกบางชนิดที่ไม่มีอัตภาพในส่วนนี้) นั่นก็คือหากมุ่งมั่นตั้งใจอยากเปลี่ยน อยากพัฒนาก็จะทำได้
@@@ส่วนที่ว่าไม่ง่ายนักเพราะขึ้นชื่อว่ามนุษย์ล้วนวนเวียนอยู่ในโลกธรรม กิเลส ตัณหา อุปทาน อวิชชาที่ครอบคลุมจิตอยู่ ทำให้แม้รู้ แม้เห็น แต่ก็ยังยากที่ “ตระหนัก” ได้ว่าควรจัดการอย่างไรกับชีวิต
@@@ส่วนตัวเรียนรู้การแก้ “ปมชีวิต”เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เพราะมีเพื่อนบอกว่าเป็น “คนแปลก” เดาใจยาก เข้าถึงยาก ดูเหมือนเข้ากับเพื่อน ๆ ได้ง่าย แต่หลายครั้งก็ปิดตัวเองจนเข้าไม่ถึง การถูกประเมินจากเพื่อน ๆ ทำให้เกิด “คำถาม” กับตัวเอง หากเลือกตอบง่าย ๆ แค่ว่า “ก็เราเป็นแบบนี้” ชีวิตก็คงเป็นรูปแบบหนึ่ง หากถามต่อว่า “ที่เพื่อนพูดนั้นจริงหรือ เพราะอะไร” ชีวิตก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง
“…การตั้งคำถามกับตัวอย่างอย่างมีคุณภาพจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งกับการเป็นไปของชีวิต…”
@@@ เคยรังเกียจและไม่ชอบใจกับการเป็น “ลูกหลง/ลูกคนเล็ก” แต่ความจริงเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว กลับได้เห็นข้อดีอีกมากมาย … อย่างน้อยเราก็ยังคงความเป็นเด็กอยู่ได้แม้ในวัยที่คนอื่นเป็นน้า เป็นป้า เป็นคุณยายคุณย่า (ฮา) และที่ไม่เคยถูกทำโทษใด ๆ จากพ่อแม่เลย ก็ด้วยการเรียนรู้ที่จะ “เฉย นิ่ง เงียบ” พี่ชายให้นิยามว่าเป็นพวก “น้ำเซาะหิน” นั่นคือ ไม่เถียงเสียงดัง ไม่เอาชนะคะคานกับใคร แต่ไม่เคยลดละในสิ่งที่ตัวเองคิดและเชื่อ แล้วที่ตลก ๆ ก็คือ ก็มักจะได้ตามที่คิดที่เชื่อนั้นเสียด้วย (พ่อแม่และพี่ ๆ คงเอือมเลยปล่อยมันไป…)
บางทีนะ บางที…หากเราต้องการชนะหรือได้ในสิ่งที่ต้องการ อาจไม่ต้องใช้กำลังใด ๆ มากไปกว่าความมุ่งมั่น (ในสิ่งที่คิดแล้วว่าใช่ว่าถูก) อย่างอ่อนน้อมถ่อมตนให้มากพอ…ก็ได้
๑๑๑
๑๑๑๑ “การคลี่/การคลายปมในชีวิต” เป็นกระบวนการที่ส่วนตัวใช้เป็นประจำเมื่อมีสิ่งที่รู้สึกไม่สบายใจ ไม่พึงพอใจ หรือมีปัญหา และพบว่าเป็นวิธีการที่ใช้ได้ดีสำหรับตัวเอง เราทุกคนจึงน่าจะมี “วิธีการ” ส่วนตัวในการจัดการกับ “ปมชีวิต” ของตัวเอง (แม้ปัญหาเหมือนกัน แต่วิธีการแก้ปัญหาของคนหนึ่งอาจใช้ไม่ได้กับอีกคนหนึ่ง-ไม่มีคำตอบสำเร็จรูปสำหรับใคร ต้องค้นหาที่เหมาะกับเราเอง) การตระหนักเพื่อคลี่และคลายปมชีวิตของตัวเองนี้ ยังส่งผลให้เราได้เข้าใจด้วยว่า คนอื่น ๆ รายรอบตัวเรา ที่บางครั้งเราไม่เข้าใจในความคิด คำพูด และการกระทำของเขาเลยนี่… เขาก็มีปมชีวิตเช่นเดียวกันกับเรา และอาจจะกำลังทำการคลี่และคลายปมชีวิตอยู่เหมือนกัน…ก็เป็นได้
๑๑๑ งั้น…เรามาคิดแบบเด็ก สนุก ๆ ไม่ยากไม่เครียด สร้างสรรค์แบบไม่ติดกรอบ แต่ทำงานและใช้ชีวิตแบบผู้ใหญ่ ที่รู้เหตุ เข้าใจผล รับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมคนรอบข้างกันดังที่ คุณโชค บุลกุล กล่าวไว้กันดีกว่านะคะ
๑๑๑
อืม…พอคลี่และคลายปมออกบ้างแล้ว (แม้ยังเหลืออยู่บ้าง)
ชีวิตก็มีความสงบสุข ผ่อนคลายมากขึ้นจริง ๆ
ความคิดเห็นสำหรับ "คลี่-คลาย"