โครงการฟื้นฟูสุขภาพของศีรษะอโศก

โดย freemind เมื่อ 31 กรกฏาคม 2010 เวลา 12:00 (เช้า) ในหมวดหมู่ วิจัยเชิงคุณภาพ งานวิจัยที่ทำ #
อ่าน: 10776

:-P

สืบเนื่องจากบันทึก สัมผัส “อโศก” ได้เล่าไว้ถึง โครงการฟื้นฟูสุขภาพ ที่จัดโดยครูขวัญดิน สิงห์คำและครูแก่นฟ้า แสนเมือง หลังจากรวบรวมและค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม (จนมั่นใจ)แล้ว พิจารณาเห็นว่ามีหลักการอ้างอิงทางวิชาการจริง จึงนำมาบันทึกไว้ เพื่อเผยแพร่ให้กับผู้สนใจและอาจเป็นประโยชน์ในวงกว้างต่อไป

P20500644

โครงการฟื้นฟูสุขภาพ

ความเป็นมาของโครงการนี้ เนื่องจากมีชาวอโศกที่ป่วยและมีสุขภาพไม่ดี ได้ไปเข้าคอร์สการดูแลสุขภาพที่ประเทศมาเลเซีย จึงนำความรู้ดังกล่าวมาปรับประยุกต์และค้นคว้าเพิ่มเติม จนกลายเป็นโครงการดูแลสุขภาพด้วยวิถีธรรมชาติ (ไม่ใช่ยาซึ่งเป็นสารเคมีทุกชนิด) โดยก่อนที่จะเผยแพร่วิธีการนี้ ได้ทดลองกับชาวอโศกด้วยกันเอง ลองผิดลองถูก พัฒนา ปรับปรุงกระบวนการ ผลิตภัณฑ์ สมุนไพรที่ใช้ถึง 3 ปี ก่อนจะเปิดให้บริการกับบุคคลที่สนใจทั่วไป เมื่อปี 2552 เป็นครั้งแรก

หลักการสำคัญของกิจกรรมในโครงการนี้คือ การส่งเสริมและช่วยฟื้นฟูให้กลับคืนสภาพเดิม (Promotion/Rehabilitation) ซึ่งไม่ใช่การรักษา(Cure) บนพื้นฐานของการดูแลสุขภาพด้วยวิถีธรรมชาติแบบองค์รวม (Holistic Health Care) ซึ่งมีความเชื่อมั่นว่า ร่างกายมีกลไกในการดูแล ปรับสภาพต่าง ๆ ให้อยู่ในภาวะสมดุลได้ด้วยตัวเอง การที่เกิดความเจ็บป่วย เนื่องมาจากการเสียสมดุลของร่างกาย ดังนั้นวิธีการคือ ต้องดูแล ช่วยเหลือให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะสมดุลอีกครั้ง เพื่อที่จะได้ทำหน้าที่ เยียวยารักษาความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น

P20701488

ครูขวัญดิน สิงห์คำ

คราวนี้ลองมาดูตารางกิจกรรมกัน

ก่อนเริ่มโครงการ

- แนะนำสถานที่,วิทยากร/ทีมผู้ช่วยเหลือดูแล/กิจกรรมที่ต้องทำ

- ลงทะเบียน กรอกข้อมูลด้านสุขภาพ

- ตรวจสุขภาพ วัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ตรวจธาตุ

เจ้าเรือน วัดความเป็นกรด-ด่างน้ำลาย ฯลฯ

วันที่ 1-2-3

ในระหว่างวันควรดื่มน้ำข้าวกล้องงอก น้ำสมุนไพร น้ำด่างบ่อย ๆ เมื่อรู้สึกหิว อ่อนเพลีย หรือผิดปกติใด ๆ ควรแจ้งทีมวิทยากร/ผู้ดูแล

รายละเอียดในระหว่างวัน

04.30-05.30

ตื่นนอน,ภารกิจส่วนตัว

05.30-06.00

ออกกำลังกายเดินอย่างน้อย 20 รอบพร้อม

อมน้ำมันมะพร้าวกลั้วในปาก

06.00-06.30

ดื่มน้ำข้าวกล้องงอก/น้ำสมุนไพร 5 แก้ว ดื่มไปเรื่อย ๆ

06.30-09.00

แช่เท้า 30 นาที,พอกหน้าด้วยสมุนไพร

ทำดีท็อกซ์ สวนล้างลำไส้

09.00-09.15

ดื่มน้ำขับพิษ 1 แก้ว

09.15-12.00

เช็คสุขภาพ นวด จัดกระดูก ฝังเม็ดผักกาด

(ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมและสภาพของแต่ละคน)

12.00-12.15

ดื่มน้ำสมุนไพรขับพิษ 1 แก้ว

12.15-15.00

ชมวีดีทัศน์/ภาพยนตร์/ฟังบรรยายเกี่ยวกับสุขภาพ

15.00-15.15

ดื่มน้ำสมุนไพรขับพิษ 1 แก้ว

15.15-17.00

ชมวีดีทัศน์/ภาพยนตร์/ฟังบรรยายเกี่ยวกับสุขภาพ

17.00-18.00

พักผ่อนตามอัธยาศัย (ชมสวนสมุนไพร,สวนครัว)

ทำดีท็อกซ์ สวนล้างลำไส้

18.00-20.00

สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ/ฟังธรรม/นั่งสมาธิ

20.00-21.00

พักผ่อนตามอัธยาศัย

21.00-

เข้านอน

วันที่ 4

ช่วงเช้าจนเที่ยง เหมือนวันที่ 1-3

12.00-12.15

ดื่มน้ำมะละกอดิบ 1 แก้ว ช่วยให้ขับนิ่วในไตและถุงน้ำดี

13.00-13.15

ดื่มน้ำมะพร้าว ช่วยลดความปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

16.40-18.00

ทำดีท็อกซ์จนลำไส้สะอาด(อาจมากกว่า1ครั้ง)

18.00-18.15

รับประทานดีเกลือครั้งที่ 1

18.15-20.00

พักผ่อนตามอัธยาศัย

20.00-20.15

รับประทานดีเกลือครั้งที่ 2

20.15-22.00

ชมวีดีทัศน์/ฟังบรรยายเกี่ยวกับสุขภาพ/พักผ่อน

22.00-22.15

ดื่มน้ำมันมะกอกผสมน้ำมะนาว 300 cc

22.15-

พักผ่อนตามอัธยาศัย หากมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ควรนอนตะแคงขวาหรือนอนหงายยกศีรษะสูง

หลัง 02.00

หากมีการขับถ่ายให้เริ่มเก็บสิ่งขับถ่ายไว้ในถังที่เตรียมไว้ เพื่อให้ทีมวิทยากร/ผู้ดูแลได้วินิจฉัยต่อไป

วันที่ 5

ช่วงเช้าจนถึง 10.30 น. ภารกิจเหมือนวันอื่น ๆ

10.30-11.00

ทำดีท็อกซ์ สวนล้างลำไส้ และเก็บสิ่งขับถ่ายไว้เพื่อการวินิจฉัยดูแล

11.00-

รับประทานอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย ผักลวก ผลไม้ อาหาร ทานครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยๆ

12.00-13.00

สรุปการเข้าร่วมโครงการ ฯ แนะแนวทางการปฏิบัติตัวเพื่อปรับสมดุล การใช้ชีวิตให้มีสุขภาพที่ดี

13.00

ปิดโครงการ ฯ

P20801822

สวนสมุนไพร และสวนสำหรับเดินออกกำลังกาย

รายละเอียดในแต่ละวัน มีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม ตารางประจำของโครงการ ฯ คือ เริ่มโครงการในทุกวันที่ 5, 15 และ 25 ของเดือน (ยกเว้นมีงานเร่งด่วนของชุมชนและทีมวิทยากร)

///

หากพิจารณากิจกรรมต่าง ๆ จะเห็นว่าเน้นการสวนล้างลำไส้หรือที่เรียกกันว่า การดีท็อกซ์ เช้า-เย็น การอดอาหารเพื่อสุขภาพ (Fasting) การใช้สมุนไพร (13 ชนิด) ในการทำความสะอาดและกระตุ้นการทำงานของตับและถุงน้ำดีให้ทำงานได้เต็มที่ การแช่เท้าล้างพิษ การออกกำลังกาย การดูแลด้านจิตใจด้วยการฟังธรรม/นั่งสมาธิ

ลองมาดูกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้

การทำดีท็อกซ์ (Detoxification) หรือการสวนล้างลำไส้ มีผลให้ทางเดินอาหารและลำไส้สะอาด ผลก็คือเมื่อทางเดินอาหารและลำไส้สะอาด ก็จะดูดซึมสารอาหาร วิตะมิน เกลือแร่ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สารพิษที่เกิดจากกระบวนการย่อยสลายไม่สมบูรณ์และคั่งค้างในระบบทางเดินอาหารถูกขับออกไป

///

การอดอาหารเพื่อสุขภาพ (Fasting) ศาสตร์ของFasting นี้ เน้นหลักการที่ว่าให้ร่างกายได้หยุดการรับสารพิษต่าง ๆ จากอาหารและจากกระบวนการสันดาปอาหาร (Metabolism) เป็นที่รู้กันดีว่า พลังงานร้อยละ 80 ที่เราใช้ในแต่ละวันนั้น เราใช้ไปกับกระบวนการย่อยอาหาร การกำจัดของเสียต่าง ๆ ที่เกิดจากกระบวนการย่อยอาหาร ดังนั้นเมื่อไม่ได้กินอาหาร ไม่มีกระบวนการสันดาปอาหาร ร่างกายก็มีเวลาและใช้พลังงานไปในการดูแล ฟื้นฟู เยียวยาร่างกายตัวเอง

เปรียบเทียบง่าย ๆ ให้เห็นชัดคือการอดอาหารนั้น เหมือนคนที่ทำงานประจำได้หยุดงานอยู่บ้าน เมื่อไม่ต้องทำงานประจำที่ทำทุกวัน (การกิน,กระบวนการย่อยสลาย,กำจัดของเสีย) จึงมีเวลาในการมาเก็บกวาดบ้าน นั่นคือ ร่างกายจะเยียวยาความสึกหรอ/ป่วยไข้ที่แฝงเร้นอยู่ได้

///

การทำความสะอาดและกระตุ้นการทำงานของตับและถุงน้ำดีด้วยน้ำยาสมุนไพร(13 ชนิด)ที่ดื่มวันละ 3 ครั้ง และน้ำมันมะกอกผสมน้ำมะนาว ซึ่งถูกดูดซึมตรงเข้าไปยังตับและถุงน้ำดี ทำการเก็บกวาดไขมันและสารพิษ รวมทั้งนิ่วในถุงน้ำดีที่ถูกสมุนไพรกัดเซาะไว้ตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา ให้ออกมาสู่ลำไส้ใหญ่และขับถ่ายออกมาในวันรุ่งขึ้น

หลักการนี้ใช้แนวคิดเรื่อง นาฬิกาชีวิตซึ่งเผยแพร่โดยอาจารย์สุทธิวัสส์ คำภา ที่กล่าวไว้ว่าถุงน้ำดีจะเปิดตอนห้าทุ่ม-ตีหนึ่ง การดื่มน้ำมันมะกอกผสมน้ำมะนาวจะถูกดูดซึมเข้าสู่ตับและถุงน้ำดีโดยตรง ส่งผลให้เก็บกวาดและทำความสะอาดตับและถุงน้ำดี ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

////

จากประสบการณ์ส่วนตัว ซึ่งเป็นคนติดกาแฟ ดื่มกาแฟวันละ 2-3 แก้ว(เป็นอย่างน้อย)ทุกวัน หากไม่ดื่มจะปวดศีรษะ คิดอะไรไม่ออก หงุดหงิดโดยไม่มีเหตุอันสมควร แถมจากที่เคยทานอาหารวันละหลายมื้อ กลับไม่ได้ทานอะไรเลย ดื่มได้แต่น้ำสมุนไพรผสมน้ำผึ้งและน้ำด่างที่เตรียมให้เท่านั้น จึงเกิดอาการหิวมากจนตาลาย ปวดศีรษะ (เพราะไม่ได้ดื่มกาแฟ) ที่ตั้งใจจะไปเก็บข้อมูลงานวิจัยของตัวเองนั้น เป็นอันว่าพับไปอย่างสิ้นเชิง ยังดีที่ในวันต่อมาอาการหิวและอาการขาดกาแฟลดน้อยหายไป เริ่มคิดออก ทำงานได้ และจนวันที่ 3 จนถึงจบโครงการก็ไม่รู้สึกหิวหรือปวดศีรษะอีกเลย

ต้องบันทึกเพิ่มเติมไว้อีกประเด็นหนึ่งคือ รู้ได้อย่างไรว่าตับและถุงน้ำดีได้รับการกระตุ้นและทำความสะอาด นั่นคือ หลังจากการอดอาหารติดต่อกัน 4 วัน และได้มีการสวนล้างลำไส้เช้า-เย็น กากอาหารต่าง ๆ ที่คั่งค้างมาตลอดชีวิต (ที่ไม่เคยปัดกวาดล้างออกเลย) ย่อมมีน้อยหรือเหลือน้อยที่สุด ดังนั้นเมื่อวันที่ 4 ซึ่งทานดีเกลือ (มีคุณสมบัติเป็นยาถ่าย) และน้ำมันมะกอกผสมน้ำมะนาวเข้าไป จึงตรงไปเก็บกวาดไขมันที่พอกตามเซลล์ตับ (อาการ “ไขมันพอกตับ”) รวมทั้งไปจัดการกวาดล้างนิ่วเม็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในถุงน้ำดีออกมาด้วย  ประจักษ์พยานคือ สิ่งขับถ่ายที่เก็บไว้จากการสวนล้างลำไส้ในตอนเช้าของวันสุดท้าย…

หากไม่ได้เห็นด้วยตาตนเองก็คงยากที่จะเชื่อแน่นอนก็คือ ไขมันย่อมลอยตัว สิ่งที่ออกมาเป็นหลักฐานของแต่ละคนจะบอกถึงพยาธิสภาพที่เป็นอยู่ ไขมันที่ออกมาจากตับจะมีเป็นก้อน ๆ เล็ก-ใหญ่ต่างขนาดกันไปลอยฟ่องอยู่ในถังที่เก็บสิ่งขับถ่าย มีไขมันเม็ดเล็ก ๆ ลอยเป็นแพอยู่ด้านบน ส่วนนิ่วในถุงน้ำดีนั้นมีลักษณะเป็นเม็ดขนาดเท่าปลายนิ้วก้อยจนถึงเท่านิ้วหัวแม่มือ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งชนิดต่าง ๆ จะมีเซลล์สีขาวคล้าย ๆ แมงกะพรุนลอยอยู่ระหว่างน้ำและไขมันด้วย

สำหรับ ตัวเองนั้นสิ่งที่ออกมาจากลำไส้ทำให้ตกใจตัวเอง…เพราะเต็มไปด้วยก้อนไขมันจากตับก้่อนเล็กก้อนน้อยหลายขนาด มีเม็ดนิ่วสีเขียวเข้มเล็ก ๆ ติดมาด้วย (ซึ่งจากการตรวจร่างกายประจำปี ผลเลือดต่าง ๆ ไม่มีอาการผิดปกติหรือปัญหาใด ๆ เลย) และที่มีค่อนข้างมากก็คือ ไขมันเม็ดเล็ก ๆ ละเอียด ๆ ที่ลอยฟ่องอยู่จำนวนมาก ซึ่งไขมันเม็ดเล็ก ๆ นี้ครูขวัญดินบอกว่าบ่งบอกว่า หูมีปัญหา” อาจจะหูอื้อ หูตึง หรือการได้ยินไม่สมบูรณ์…ทึ่งเลย เพราะส่วนตัวมีปัญหาเรื่อง “การได้ยิน” จริงดังที่ครูว่า…

พี่ป้าน้าอาและวิทยากรหลายท่านบ่นว่า … อะไรกัน ดูสุขภาพก็ดีออก ตัวเล็กแค่นี้ ชอบกินแต่ผักผลไม้ แล้วทำไมไขมันมากมายขนาดนี้ล่ะนี่!!! ... ฮา ๆ ขำ ๆ บอกไปว่า…อย่าเชื่อสิ่งที่เห็นเชียวนะ… ^_^

////

หลังจากจบโครงการและเดินทางกลับบ้าน สิ่งที่ทำให้แปลกใจก็คือ ไม่นึกอยากดื่มกาแฟอีก ดื่มก็ได้ ไม่ดื่มก็ไม่เป็นไร ช่วงบ่าย ๆ จากที่มักจะง่วง ๆ ซึม ๆ หลังอาหารกลางวัน จนต้องดื่มกาแฟให้สดชื่น ก็ไม่ต้องดื่มอีกต่อไป ทำงานได้จนเย็นอย่างสบาย ปัญหาเรื่องหูอื้อ ปวดหูก็ทุเลาไปมาก และรู้สึกว่าร่างกายสดชื่นขึ้นกว่าเดิมจริง ๆ

///

สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง…

ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ค่ะ

;)

///

หากสนใจเข้าร่วมโครงการ ต้องโทรไปแจ้งกับคุณเล็ก เบอร์โทร 085 0240 582 ก่อนเนื่องจากรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนจำกัดในแต่ละรุ่น โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ค่ะ (ยกเว้นค่าใช้จ่ายส่วนตัว ของใช้อุปกรณ์ส่วนตัวบางรายการ ซึ่งต้องจัดหาซื้อเอง)

« « Prev : ตัวสับไก

Next : ความหมาย » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

9 ความคิดเห็น

  • #1 ป้าจุ๋ม ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 กรกฏาคม 2010 เวลา 2:11 (เย็น)

    ขอบคุณน้องFreemindมากค่ะที่นำข้อมูลดีๆต่างมาเสนอให้ได้รับทราบกันเป็นความรู้ค่ะ

    เห็นด้วยค่ะ “สุขภาพดีไม่มีซื้อขาย ใครอยากได้ต้องทำเอง”
    ทุกวันนี้ผู้คนเอาแต่ทำงานๆหาเงินกันจนลืมนึกถึงสุขภาพไป…
    ที่ป้าจุ๋มไปนั้นก็เน้นสมดุลยของร่างกายเหมือนกัน แต่ไม่มีเป็นคอร์สอย่างนี้  เราจะต้องจัดการและสังเกตตัวเองพอสมควรทีเดียว แต่ขอบอกว่าดีมากเช่นกันค่ะ
    ที่นั่นบุคลากรไม่พอค่ะ คนที่เก่งต้องทำงานอื่นด้วย ตอนป้าจุ๋มไปก็ประมาณว่าสว.เส้น(จะพูดว่าเด็กเส้นก็ไม่ถูก เพราะเป็นสว.ค่ะ…อิอิ) เลยได้รับการเอาใจใส่รายละเอียดหน่อย แต่กลับบ้านด้วยความสดชื่นและตัวเบาสบายค่ะ
    ป้าจุ๋มได้เรียนผอ.โรงพยาบาลไว้แล้วว่าต้นเดือนตุลาคมป้าจุ๋มจะพาหวานใจไปด้วยค่ะ ท่านบอกว่ายินดีและany time
    ท่านผอ.รพ.นี้ท่านจบแพทย์ศิริราชค่ะ เป็นคนที่นั่นเมื่อจบแล้วก็กลับมาทำประโยชน์ให้บ้านเกิด(อันนี้ต้องขอชื่นชมค่ะ) แต่มีความสนใจการรักษาแพทย์แผนใหม่ผนวกกับแพทย์แผนไทย
    เรื่องเดียวกันที่พูดถึงคือสมดุลยของร่างกาย หากร่างกายขาดสมดุลย ก็จะเจ็บป่วย
    ที่นั่นเนื่องจากเป็นโรงพยาบาล คนที่ไปก็จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ1. คนไข้ที่ป่วยแล้วมาเยียวยา และ2.คนที่ยังไม่แสดงอาการป่วย แต่เริ่มมีสัญญาณบ่งบอกบางอย่าง คุณหมอเข้าใจเปรียบเทียบว่าเหมือนรถยนต์ที่ยังวิ่งได้แต่เริ่มเร่งเครื่องไม่ขึ้น…
    ป้าจุ๋มตั้งใจจะเขียนรายงานแต่ยังเริ่มต้นไม่ค่อยถูก เพราะความที่ไม่มีโปรแกรมตายตัวค่ะ…แบบว่ายังงงๆอยู่
  • #2 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 กรกฏาคม 2010 เวลา 2:57 (เย็น)

    ดูจากโปรแกรมแล้วเห็นว่ามีการสวนล้างทวารหลายครั้งนะคะ
    เข้าใจว่าลำไส้ทั้งเล็กและใหญ่คงสะอาดจริงๆ

    ส่วนที่ดูสิ่งที่ขับถ่ายออก…และบอกว่าเป็นก้อนไขมัน ดูวันสุดท้ายหรือว่าดูทุกวันคะ??

  • #3 ป้าจุ๋ม ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 กรกฏาคม 2010 เวลา 5:51 (เย็น)

    อ้อป้าจุ๋มสงสัยอีก 2 อย่างค่ะ คือ1.ในโปรแกรมไม่มีรายการกินอาหารเลย…อดตลอดหรือคะ…แล้วเพลียไหมคะ คนที่เป็นเบาหวานจะไหวหรือคะ(ห่วงแทนคนอื่นค่ะ) และข้อ2สงสัยเหมือนน้องสร้อยค่ะ

  • #4 freemind ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 กรกฏาคม 2010 เวลา 7:25 (เย็น)

    ป้าจุ๋ม/พี่สร้อยคะ

    ในรายการทั้ง 5-6 วันนี้ ไม่ได้ทานอาหารที่มีกากใยใด ๆ เลยค่ะ  แต่ได้ดื่มน้ำสมุนไพรสลับผลัดเปลี่ยนกันไปทุกวัน เช่น น้ำมะขามเปียก น้ำต้มถั่วเขียว(ไม่มีถั่วสักเม็ดเดียว) น้ำคั้นใบย่านางผสมมะนาว น้ำว่านรางจืด น้ำข้าวกล้องงอก น้ำรากบัว โดยส่วนใหญ่จะผสมน้ำผึ้ง ไม่ใช้น้ำตาล และหากหิวจริง ๆ ก็มีผงข้าวกล้องงอกบดละเอียดให้ชงน้ำดื่มค่ะ

    วิทยากรบอกว่างดอาหารมีกาก เพราะต้องการให้ลำไส้สะอาดปราศจากกากใยอาหารจริง ๆ จะได้เห็นสิ่งที่ขับออกมาจากตับและถุงน้ำดีได้ชัดเจน ซึ่งดูในวันสุดท้ายค่ะ

    ผู้่ที่มาร่วมกิจกรรมนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และมักจะมีโรคประจำตัว เช่นความดันโลหิตสูง เบาหวาน เก๊าท์ โคเลสเตอรอลสูง และมีคนป่วยด้วยมะเร็งตับ 2 คน มะเร็งปอด 1 คน และจำนวนมากเลยค่ะที่มีประวัติิเป็นนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งหากใครที่ต้องการจะทานยาประจำตัว วิทยากรก็อนุญาต แต่ที่พบก็คือ…ใน 46 คนที่เข้ากิจกรรมนี้ไม่มีใครทานยาประจำเลย และไม่ปรากฏว่าใครมีอาการไม่สบายหนัก ๆ นอกจากมึนศีรษะ และมีผื่นขึ้นตามตัวค่ะ

    ส่วนเรื่องเพลียนั้นมีอาการมากน้อยต่างกันไปค่ะ วิทยากรจะเน้นให้ทุกคนนั่งและนอนพักให้มากที่สุด ตอนฟังบรรยายก็ปูเสื่อนอนนั่งตามอัธยาศัย และหากเมื่อยก็มีบริการหมอนวด (จ่ายเงินเอง) ซึ่งเป็นคนนอกชุมชน แต่มีจิตอาสามานวดในราคามิตรภาพค่ะ

    มีคุณยายทวดมาจากฝั่งประเทศลาว อายุ 82 ปี มาเข้าคอร์สนี้ครั้งที่ 2 แล้ว ทางวิทยากรก็ให้ท่านทานอาหารได้ค่ะ แต่ท่านก็ทานเพียงมื้อเดียว จำนวนข้าวไม่เกิน 10 คำด้วยค่ะ

    ;)

  • #5 freemind ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 กรกฏาคม 2010 เวลา 7:42 (เย็น)

    อ้อ…ต่ออีกนิดค่ะ

    เนื่องจากน้องสนใจเรื่องธรรมชาติบำบัดและได้มีโอกาสสอนวิชานี้ให้กับนักเรียนผู้ช่วยพยาบาลของวิทยาลัยพยาบาลเซนหลุยส์ จึงยิ่งสนใจและค้นหาความรู้ด้าน “การดูแลสุขภาพด้วยวิถีธรรมชาติ” พร้อมทดลองปฏิบัติกับต้วเองมาเกือบ 2 ปีแล้ว ได้ผลดีมากค่ะ

    โดยหลักการแล้ว ความเจ็บป่วยเกิดจากการเสียสมดุลของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นการช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลต่าง ๆ ได้ และจากนั้นจึงจะ “เยียวยา” ตัวเอง การที่เราหายป่วย ทุเลาจากอาการไม่สบายต่าง ๆ เกิดจากร่างกายเราจัดการปรับสมดุล ยาต่าง ๆ เพียงช่วยสนับสนุนให้ร่างกายได้ใช้กลไกวิเศษในการเยียวยาเท่านั้น

    (แต่โรคและอาการบางอย่างก็เหมาะสมที่จะใช้วิธีการทางการแพทย์แผนปัจจุบัน เช่น ไส้ติ่งอักเสบ กระดูกหักรุนแรง หากรอให้ร่างกายเยียวยาเอง ก็อาจไม่ทันกาลและอวัยวะผิดรูปผิดร่างไปได้

    ดังนั้น…หน้าที่เราควรสนใจ ใส่ใจ และเืลือกใช้วิธีการดูแลสุขภาพของเราให้ถูกต้องกับกาลเทศะ

    อยากอ่านรายละเอียดคอร์สสุขภาพของป้าจุ๋มค่ะ ป้าจุ่มเล่าเก่ง อ่านได้ง่าย ๆ สบาย ๆ อยู่แล้วนี่คะ เขียนเถอะค่ะ น้องคิดว่าจะเป็นประโยชน์กับบางกรณีและบางท่านที่ได้มาอ่าน และยังเป็นการบันทึกข้อมูลสำคัญไว้สำหรับเวลาในช่วงต่อไปด้วยค่ะ

    ตอนนี้น้องกำลังทำคอร์สย่นย่อ 2 วันครึ่งให้หลานสาวค่ะ (ปรึกษากับครูขวัญดินแล้ว) วันนี้เริ่มดื่มดีเกลือและคืนนี้จะต้องดื่มน้ำมันมะกอกผสมมะนาว พรุ่งนี้คงได้เห็นผลงานค่ะ

  • #6 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 สิงหาคม 2010 เวลา 3:47 (เย็น)

    โครงการนี้เฉียดฉิวจะได้เข้าร่วมอยู่ครั้งสองครั้งแล้วค่ะ จนป่านนี้ก็ยังไม่มีวาสนาจะได้สัมผัสอโศกซักกะทีนุง เมื่อวานเปิดบันทึกนี้ให้เพื่อนดูมีแต่คนถามว่า พวกเราจะไหวไม๊น๊อ น่าลองค่ะ น่าลอง  พ่อครูบาฯ ชวนหลายครั้งแล้วด้วยค่ะ ขอบคุณที่นำประสบการณ์มาแบ่งปันนะคะ

    ครูปูก็มีของฝากเหมือนกันค่ะ ตอนแรกว่าจะชวนไปดูเฉพาะ การแสดงบันทึกเฉพาะส่วนแรกในบล็อก  อย่ากระนั้นเลย เอาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสำหรับการจัดการ Theme syrup นี้ มาฝากเลยแล้วกัน ลองดูนะคะ

    http://lanpanya.com/jogger1/

    คิดถึงม๊าก…มาก  ถึงมากที่จู๊ดดดดด :P

  • #7 freemind ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 สิงหาคม 2010 เวลา 7:29 (เย็น)

    ครูปูคะ

    ไม่ต้องอยู่จนครบ 5 วันก็ได้นะคะ บ่ายนี้ได้ดูผลที่ทดลองย่นย่อคอร์สเหลือ 2 วันครึ่ง จำนวนไขมันและนิ่วในถุงน้ำดีก็เยอะเหมือนกันค่ะ  แสดงว่าสามารถที่จะย่อกิจกรรมลงได้ และได้ผลดีเหมือนกัน

    การได้ไปอยู่ที่ศีรษะอโศกจะช่วยให้สามารถอดอาหาร ซึ่งตามปกติเราทานกันได้ เพราะทุกคนก็อดเหมือน ๆ กัน แต่ต้องดื่มน้ำมาก ๆ ไม่ต่ำกว่าวันละ 3 ลิตรเลยค่ะ  มีโอกาสไปให้ได้นะคะ เชียร์ ๆ ค่ะ

    ขอบคุณที่นำความรู้มาฝากค่ะ จะหาโอกาสไปดูตามคำแนะนำ แต่ขี้เกียจแต่งบ้าน ปล่อยโล่ง ๆ ธรรมชาติ ๆ อย่างนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะ เรื่องใส่รูปภาพก็ยังไม่ได้ไปศึกษาเลย… ก็ดีอีก ไม่เสียเวลาต้องไปโหลดภาพ จัดภาพ ใส่ภาพ อาศัยความสามารถในการบรรยายอย่างเดียว…ฮา ๆ (คนเลยไม่อ่าน อ่านไม่รู้เรื่องเนอะ)
    ;)

  • #8 wanna1234 ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 มิถุนายน 2011 เวลา 11:27 (เช้า)

    เพื่อนเคยมาใช้บริการแล้วบอกว่าดีมาก
    ร่างกายมีการพัฒนาขึ้น
    ใช้ชีวิตได้มีความสุขขึ้น
    เพื่อนได้สมัครไว้ให้แล้ววันที่ 2 สิงหา
    ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ตั้งใจจะไปแน่นอนพร้อมภรรยา

    วรรณะ แสงกุลโชติ

  • #9 freemind ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 มิถุนายน 2011 เวลา 12:36 (เย็น)

    ขอบคุณคุณวรรณะที่กรุณาแจ้งให้ทราบค่ะ
    ขอให้ประสบความสำเร็จในการเข้าโครงการฟื้นฟูนะคะ :)


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.12544012069702 sec
Sidebar: 0.066286087036133 sec