จะไหวไหมเนี่ย ?

6 ความคิดเห็น โดย aphsara เมื่อ 22 เมษายน 2011 เวลา 9:09 (เย็น) ในหมวดหมู่ อยากเล่า #
อ่าน: 3621

เนื่องจากนิสัยส่วนตัวแล้ว เป็นคนขี้อายมาก ๆ ถึงจะมีอาชีพเป็นครูก็ตาม  เรื่องพูดต่อหน้าชุมชน  ทำตัวเป็นผู้นำในสังคม  ดิฉันยังถือว่าเด็กมาก ๆ  และนี่คือข้อบกพร่องที่เคยคิดอยากจะแก้ไข  ไม่กี่วันที่ผ่านมา  ได้รับโทรศัพท์จากพระอาจารย์ให้ช่วยไปเป็นวิทยากร  ในโครงการบำบัดผู้เสพสารเสพติดที่วัด   ดิฉันอึ้งเงียบไปนานแต่ในใจปฏิเสธเรียบร้อย  แอบคิดในใจ  ไอ้อย่างเรารึจะมีปัญญา   สอนเด็กนักเรียนได้ก็ถือว่าบุญละ    แถมยังสาวและโสดอยู่ด้วย เข้าวัดเมื่อไหร่เป็นชาวบ้านนินทาว่าติดใจพระอีก  งานนี้ตั้ง 2 เดือน คงมีแต่เสียกับเสียทั้งนั้นหล่ะ  แต่เพื่อรักษาน้ำใจคนชวน  ดิฉันจึงแบ่งรับแบ่งสู้ตอบไปว่า  แล้วจะแวะไปช่วยล้างจานที่วัดให้ 

    ดอกสะเลเต_กิจกรรมบำบัดผู้ติดสารเสพติด

เมื่อแวะเข้ามาที่วัด   ได้รับทราบปัญหาจากสถานที่จริง  คือไม่มีวิทยากรที่ชำนาญสักคน  แม่ชี 3 คนที่มาร่วมเป็นวิทยากร อายุยังน้อย  บุคลิกยังคิกขุอาโนเนะ  ทุกคนขาดประสบการณ์ทั้งนั้น   พี่เณรที่ช่วยเป็นวิทยากรก็เป็นวัยรุ่นซะจนไม่รู้ผู้บำบัดจะเคารพหรือไม่   หัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ก็คงจะเป็นพระอาจารย์ที่่วัดน่าจะเหนื่อยที่สุดอีกตามเคย   แต่ก็ถือเป็นเรื่องโชคดีที่งานครั้งนี้มีอาจารย์แม่ จากศูนย์ธัญญารักษ์มาช่วยอบรมวิทยากร 3 วัน ดิฉันเองได้ร่วมอบรมแค่ 2 วัน  แต่ถือว่าเป็นความรู้ที่ดิฉันเองยังไม่เคยได้รับที่ไหนมาก่อน   อาจารย์แม่ท่่านชมว่า  ดิฉัน  สามารถทำให้ผู้บำบัดเปิดใจ  คุยแบบสบาย ๆ ได้ตั้งแต่วันแรกที่พบ   ใจเย็น  และมีบุคลิกของผู้ให้คำปรึกษาได้  ท่านให้กำลังใจว่าดิฉันทำได้  และจะทำได้ดีด้วย  

ดอกสะเลเต_กิจกรรมบำบัดผู้ติดสารเสพติด

วัดป่าแห่งนี้ร่วมโครงการรับผู้บำบัดสารเสพติดมาถึง 3 รุ่นแล้ว รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 4 ทุกครั้งที่จัดงานพระอาจารย์ท่านมักจะขอร้องดิฉันทุกครั้งให้มาช่วยเป็นวิทยากร  ท่านให้เหตุผลที่ชวนดิฉันร่วมงานคือ  ดิฉันมีวิญญาณของคนเป็นครูอยู่ในตัว  ฟังคำนี้แล้วปลื้มทุกที  แต่ดิฉันก็ปฏิเสธท่านทุกรอบ  แรก ๆ คิดหาเหตุผลปลีกตัวเรียบร้อย  แต่ครั้นได้พูดคุยสนทนากับผู้รับการบำบัด  ได้เห็นสภาพจริง  ความขัดสนหลาย ๆ อย่างในการจัดงาน  ดิฉันต้องกลับมานอนก่ายหน้าผากคิด    ถ้าเราไม่ช่วยแล้วใครจะช่วย ถ้าเกิดวันหนึ่งคนที่ทำงานแบบนี้  ท้อขึ้นมาสักคนแล้วใครจะทำ  แล้วอีกเหตุผล  คืออยากจะฝึกสร้างนิสัยการเป็นผู้นำ  ฝึกความเชื่อมั่น  ฝึกการพูด  เมื่อโอกาสดี ๆมาให้ฝึกแบบนี้  ถ้าทิ้งเสียมันคงไม่ผ่านมาอีก   ใครจะนินทาก็ช่างหัวมัน ฟะ

พรุ่งนี้ลุย   โดยที่ไม่ต้องมีพี่เลี้ยง  เอ่อแต่ว่า…..มันจะไหวไหมเนี่ย ?

 

ดอกสะเลเต_กิจกรรมบำบัดผู้ติดสารเสพติด

Post to Twitter Tweet This Post


พิธีสวดภาณยักษ์

6 ความคิดเห็น โดย aphsara เมื่อ 19 เมษายน 2011 เวลา 10:36 (เย็น) ในหมวดหมู่ อยากเล่า #
อ่าน: 4392

อาทิตย์ที่แล้วได้มีโอกาสไปเป็นเจ้าภาพถวายน้ำปานะในโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนที่วัดในตัวอำเภอ   เหลือบไปเห็นป้ายประชาสัมพันธ์  เชิญชวนเข้าร่วมพิธีสวดภาณยักษ์   เป็นการไล่เคราะห์  เสนียดจัญไร  คุณไสย สารพัดสรรพคุณ โห ดีขนาดนี้ต้องเดินไปอ่านซ้ำใกล้ ๆ   แอบคิดในใจพระท่านทำอย่างนี้เป็นอาบัติหรือเปล่านะ     เมื่อถึงวันทำพิธีดิฉันก็คว้าจิ๊บดำคู่ใจ  เข้าร่วมพิธีด้วย  ไม่ใช่อยากสะเดาะห์เคราะห์อะไรหรอกค่ะ  แต่เพราะแม่ มารดาบังเกิดเกล้า อยากเข้าร่วม ดิฉันก็ต้องเข้าร่วมด้วย  แม่มีเหตุผลมากมายที่คนเป็นลูกห้ามมีเหตุผลโต้เถียง  และอีกเหตุผลอีกอย่างที่คนหัวแข็งอย่างดิฉันเข้าร่วมพิธีกรรมนี้ เนื่องจากอยากรู้ อยากเห็นค่ะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นสักที     ทันทีที่เข้ามาในวัด  โอ้โห คนแน่นขนัด ศาลาที่ว่าใหญ่ ยังดูคับแคบไปถนัดตา  ในบริเวณพิธีมีด้ายสายสินญ์ห้อยลงมาเพื่อเอาคล้องที่หัวคนเข้าร่วม  คน

พิธีสวดภาณยักษ์

ที่เข้าร่วมพิธีต้องนั่งให้ตรงกับด้าย  คนในศาลาวัดเต็ม   ล้นทะลักออกมาข้างนอกเต๊นท์เต็มไปหมด  ก่อนเข้าในศาลา ทางวัดจะให้บูชาผ้าขาว ดอกไม้  ธูปเทียน ในราคาทีี่แตกต่างกัน ตามกำลังวันเกิด สะเดาะห์เคราะห์ให้รถก็อีกราคาหนึ่ง วันนั้นคนเกือบสองพันคน รถยนต์เต็มวัด  คิดว่าน่าจะได้เงินจากพิธีนี้มากพอสมควร  กว่าจะได้เริ่มพิธีสวดก็เกือบ 2 ทุ่ม  ขั้นแรกในการสวด พระท่านจะสวดมนต์บทชัยมงคลคาถา  ดิฉันนั่งฟังบทสวดแล้วดูจิตตนเองไปเรื่อย ๆ รู้สึกว่าสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน  เป็นสุขได้ท่ามกลางฝูงชนห้อมล้อมมากมาย  แต่พอขึ้นบทสวดภาณยักษ์ ปรากฏว่าเสียงที่สวดเป็นเสียงดังสูง ๆ ต่ำ ๆ คล้าย ๆ ปลุกเร้า ในใจรู้สึกหงุดหงิดขึ้นโดยฉับพลัน  ใจเต้นตึก ๆ ชักเริ่มกลัว  ในขณะที่สวดบทภาณยักษ์ไป จะมีพระสงฆ์นั่งอยู่มุมศาลา 4 มุมเพื่อพรมน้ำมนต์ ไปเป็นระยะ สวดไปสักพัก  เด็กผู้ชายที่นั่งด้านหลังศาลาเกิดอาการทำท่าแปลก ๆ วิ่งกระทืบเท้า วิ่งฝ่าฝูงชนที่นั่งออกมา  เหยียบคนนั่งร่วมพิธีไปหลายราย  เพราะคนแออัดกันมาก  ดิฉันรีบจับกล้องขึ้นมาถ่ายภาพทันที 

สวดภาณยักษ์

กลุ่มผู้ชายที่ช่วยในงานพิธีหลายคนรีบเข้ามาช่วยจับ  แล้วพระท่านก็เดินมาพรมน้ำมนต์  ประพรมจนเกือบอาบก็ว่าได้  แล้วเจ้าตัวคนนั้นก็ลุกขึ้นท่าทางเหมือนคนพึ่งฟื้น   แล้วก็ไปนั่งที่เดิม ทำพิธีต่อ   ไม่นานนักก็มีรายอื่น ๆ ทำท่าทางเพี้ยน ๆ ขึ้นอีกหลายราย

สวดภาณยักษ์

บางรายส่งเสียงกรี๊ด ๆ บางรายสั่นเทิ้มเหมือนเจ้าหรือผีเข้า   ดิฉันได้รับคำอธิบายว่า คนที่มีอาการแปลก ๆ เพราะว่าเค้าอาจจะถูกคุณไสย  หรือบางรายไปเรียนคุณไสย หรือสักยันต์ คนสุรินทร์เรียกว่า พวกเล่นของ  พวกเรียนวิชา  ก็เลยทำให้มีอาการต่าง ๆ

สวดภาณยักษ์ 

ในขณะที่วิ่งถ่ายรูปหลายราย  ดิฉันได้กลิ่นเหล้า  แต่บอกแหล่งไม่ได้  กลับจากงานพิธี  ก็เลยได้ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม  วิทยาศาสตร์อธิบายว่า  เหตุที่เกิดอาการแปลก ๆ เพราะเป็นอุปาทานหมู่  งานนี้ใครต้มใครไม่รู้แน่   แต่ที่รู้ ๆ วัดได้เงินเข้าเยอะมาก สามเณรน้อยจะมีค่าภัตตาหาร  ค่าน้ำปานะ หรือวัดอาจจะสร้างห้องน้ำ หรือสร้างศาลาได้อีกสักหลัง

ดิฉันเคยชวนญาติ เพื่อนร่วมงาน  มาช่วยถวายภัตตาหาร น้ำปานะ  ปฏิบัติธรรม  ชวนยากเหลือเกิน  จนหลายครั้งท้อใจ ขึ้นสวรรค์คนเดียวก็ได้(วะ)   แต่ครั้นวัดจัดงานแบบนี้ขึ้น  แทบไม่ต้องชวนคนเข้าวัด คนและเงินไหลเข้าวัดง่ายเหลือเกิน  ดิฉันเริ่มเข้าใจพระมากขึ้น   วิธีการชวนคนเข้าวัดมีหลายวิธี นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง  ที่เหมาะกับคนอีกกลุ่มหนึ่งในพุทธศาสนา 

สาธุ ร่วมอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ 

Post to Twitter Tweet This Post


สงกรานต์สุขสันต์

5 ความคิดเห็น โดย aphsara เมื่อ 16 เมษายน 2011 เวลา 9:04 (เย็น) ในหมวดหมู่ อยากเล่า #
อ่าน: 4874

วันสงกรานต์   เป็นเทศกาลที่ไม่ชอบเอาเสียเลย  เนื่องจากมีประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำนักในช่วงวัยสาวที่ผ่านมา  ต้องบอกว่าวัยสาวที่ผ่านมา เพราะมันนาน….มาแล้ว  แต่สาว ๆ วัยรุ่นสมัยนี้กลับเห็นเป็นเรื่องชอบใจ    ใส่กางเกงสั้น ๆ เสื้อสีขาวบาง ๆ ขับมอเตอร์ไซต์ร่อนผ่านไปผ่านมาให้เหล่าวัยรุ่นชายประแป้งแบบถึงลูกถึงคน   บางส่วนยึดถนนที่รถกำลังวิ่งผ่านไปมาเป็นลานดิสโก้เธค  เปิดเพลงเสียงดัง เต้นด้วยท่าเปรตขอส่วนบุญ  เหมือนจะประกาศศักดาบอกว่าข้าพึ่งถูกยมทูตปล่อยมาขอส่วนบุญ เห็นแล้วเพลิงโทสะในตัวพุ่งปรี๊ดแข่งกับอุณหภูมิของโลก    ต้องตั้งสติอยู่นานเพื่อไม่ให้เท้าเหยียบคันเร่งพุ่งชนเหล่าเปรตเหล่านี้เพื่อช่่วยงานยมทูตเก็บกวาดวิญญาณคืนสู่ขุมนรก  ตามประสาคนมีน้ำใจ  

แต่เหรียญมีสองด้าน   โลกก็มีหลายมุม  ดิฉันจึงได้เก็บอีกมุมของความประทับใจในวันสงกรานต์มาเก็บไว้ที่ลานปัญญา  เป็นสงกรานต์สุขสันต์ค่ะ

สงกรานต์สุขสันต์

เช้าตรู่ของวันที่ 14 เม.ย.ดิฉันได้ตื่นแต่เช้าตรู่  เตรียมไปทำบุญตักบาตรที่วัด  หยิบผ้าถุงไหมมาใส่ ให้รู้สึกว่าเป็นหญิงไทยโบราณ  เข้ากับเทศกาลแบบไทย ๆ แต่งหน้าอย่างพิถีพิถันเป็นพิเศษ  เพราะถ้าหากวันไหนรู้สึกว่าตัวเองสวย วันนั้นมีความสุขทั้งวันค่ะ  พระท่านบอกว่า ราคะจริต  รู้ และก็ยอมรับ แต่ยังเปลี่ยนไม่ได้เจ้าค่ะ  

ไปถึงวัดได้ทำบุญตักบาตร  และถวายผ้าป่าร่วมสร้างห้องน้ำที่วัด  อิ่มบุญกันถ้วนหน้า  นอกจากนี้ยังมีความสุขจากการได้ทักทายเพื่อนพ้องพี่น้อง  ที่ได้ไปทำงานที่ไกล ๆ แล้วกลับมาในเทศกาลวันสงกรานต์ ได้เจอกิ๊กสมัยเรียนก็งานนี้หล่ะค่ะ

 DSC05955

จำได้ตอนเด็ก ๆ เคยไปแอบนั่งดูคู่หนุ่มสาวที่เค้าช่วยกันก่อกองทราย  เห็นเค้ากระหนุงกระหนิง ดูแล้วน่ารัก  เป็นความทรงจำที่ดิฉันเก็บไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ  มาปีนี้ได้มีโอกาสก่อกองทรายเองบ้าง   ถึงแม้จะไม่มีคู่เหมือนคนอื่น ๆ แต่ก็รู้สึกสุขใจนัก

สงกรานต์สุขสันต์

กิจกรรมสุดท้ายคือการรดน้ำดำหัว  ก่อนหน้าที่จะรดน้ำดำหัวทั้งพระประธาน  พระสงฆ์ และผู้หลักผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน

สงกรานต์สุขสันต์ 

พระท่านได้กล่าวนำขออโหสิกรรมพระพุทธ  พระธรรมและพระสงฆ์   ดิฉันสุขใจเป็นอย่างยิ่ง  เพราะตนเองเคยคิดไม่ดีกับพระสงฆ์  เนื่องจากเคยเห็นท่านทำอะไรที่มันน่าจะไม่เหมาะกับสถานะสงฆ์   แต่ดิฉันสำนึกได้ว่าตนเองไม่ควรจะคิดแบบนั้น  คิดอยากขอขมาท่านเรื่อยมา  แต่ไม่กล้า  มาวันนี้ได้ขอขมาท่านเรียบร้อยแล้ว  รู้สึกปลอดโปร่งใจชะมัด

สงกรานต์สุขสันต์

อยากให้เทศกาลวันสงกรานต์มีภาพกิจกรรมดี ๆ แบบนี้หลงเหลือไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน  ให้เป็นเทศกาลแห่งความสุขในแบบไทย ๆ อย่างแท้จริงจังเลย

Post to Twitter Tweet This Post



Main: 0.058787822723389 sec
Sidebar: 0.02862811088562 sec