เศษผมในแก้วน้ำ
หากแม้นมีเพียงเส้นผมเส้นเดียว หย่อนลงไปปนอยู่ในน้ำในแก้วนั้น
น้ำที่ว่าใส เย็นฉ่ำ น่าดื่มกิน ก็หมดซึ่งคุณค่าไป
เป็นที่น่ารังเกียจ ไม่อาจดื่มกินลงไปได้
น้ำใสนี้ กลายเป็นน้ำที่ไม่น่าดูไม่น่าดื่ม
ก็ด้วยความน่ารังเกียจ ของสิ่งที่ปนเปื้อน ที่ใส่เข้าไป”
“ความดี” ก็เป็นดั่งนี้ ทำความดีทำไว้มากเพียงใดก็เหมือนดังเติมน้ำลงไปใส่น้ำลงไปในแก้ว ความดีเปรียบดังน้ำที่ใสสะอาด ฉ่ำเย็น น่าดื่ม น่ากิน แต่เมื่อใดที่ผิดพลาดพลั้งเผลอนำความชั่ว แม้เพียงครั้งเดียว ด้วยความไม่รู้ด้วยความไม่ตั้งใจหรือด้วยเหตุใดๆ ก็เปรียบเหมือนดั่งหย่อนเส้นผมลงไปในน้ำในแก้วนั้น ความดีที่สร้างที่ประจักษ์อยู่ก็จะทำให้ผู้ที่เป็นเจ้าของความดีนั้นมัวหมอง ลงไปด้วยความไม่ดี ด้วยความชั่วที่ตนกระทำ
นี้เป็นการมอง…นี่เป็นการมองของคนในโลกมนุษย์ทั้งหลาย ชอบที่จะมอง “ความเลว” ของผู้อื่น แทนที่จะมองซึ่ง “ความใสสะอาด” อันเป็นเหมือนดั่ง “ความดี”ของผู้นั้น “น้ำ ในแก้วใสสะอาดแต่ไม่มีใครมอง กลับมัวแต่มองเส้นผมเส้นเดียวที่อยู่ในแก้วนั้น”นี่เป็นการมอง…นี่เป็นการ มองที่เป็นของคนทั้งหลาย เป็นการมองของปุถุชนผู้ยังมีกิเลสอยู่…………
เรียนรู้เรื่องดีดีเพื่อให้มองเข้าไปในใจตน
คิดเช่นไร เมื่อเห็นด้วยตา
วางอย่างไร เมื่อฟังด้วยหู
รู้อย่างไร เมื่อได้ปฏิบัติ “ทำ” และ “ธรรม”
ธรรมะสวัสดี
ไปสวดมนต์กันนะคะ
« « Prev : เสียงสะท้อนของชีวิต
2 ความคิดเห็น
พี่จ้ะ
ไม่ได้ตามไปสวดมนต์ด้วย แต่สวดทุกคือก่อนนอนอยู่แล้ว…จะได้หลับสบายไม่ฝันร้ายค่ะ
ความดีที่เพียรทำ ต้องรักษายิ่งชีวิต หากพลาดพลั้งทำชั่วแม้เพียงครั้ง…
เราก็คงต้องยอมรับในเหตุและผลนั้น
แต่…ใครเล่าจะไม่เคยคิด พูด ทำผิดเลย แค่อยู่เฉย ๆ ย้ังคิดผิดได้ไปไกลโขแล้ว
ท่านจึงว่าทำดียาก รักษาความดีไว้ยิ่งยากกว่า…
น้องว่านะ… คิดผิด พูดผิด ทำผิด รู้แล้ว ก็อย่าทำอีก ใครที่ชอบแต่จ้องความผิดของใครก็…ปล่อยไปเถิด มรรคผลจากการคิด พูด ทำย่อมได้แก่ผู้ทำนั้นเอง
แค่หยิบเส้นผมนั้นออกไป แล้วระวังอย่าให้ตกลงไปใหม่…แค่นั้นเอง…เน๊าะ
พี่จ๋า โดนใจจังเลยค่ะ น้องพึ่งมีประสบการณ์แบบนี้เมื่อไม่นาน ทำดีมาตลอด แต่พลาดพลั้งเผลอเพราะคำพูด แสดงออกโดยไม่ได้เจตนา ผลลัพธ์ก็คือ การไม่เข้าใจ เคยขอโทษ ขอโอกาส แต่น้องไม่เคยได้รับการให้อภัย การทำดีนั้นมันยากนะค่ะ แต่ทำอะไรที่มันแย่ ๆ แค่เพียงครั้ง แต่คนมักจดจำแต่สิ่งที่มันแย่ ๆ ของเรา แต่ไม่เคยเอาความดีที่เราทำมาลบล้าง แต่น้องก็คิดอยู่เสมอนะค่ะ ว่า “ช่างมันเถอะ” จะให้เรามาอธิบายทุกการกระทำก็คงไม่ได้ บางครั้งเราอธิบายไป ก็เหมือนว่าเราแก้ตัวซะงั้น แต่เรารู้ด้วยตัวเราเองนะค่ะ ว่าเป็นยังไง ขอบคุณที่มอบสิ่งดีดีมาให้อ่านนะค่ะ