วันนี้ใจฉันเต้นเป็นปกติ?

อ่าน: 1303

เช้านี้เกิดอาการ “อืม….” อีกครั้ง

ด้วยได้รับการสกิดใจจากน้อง freemind ทักทายจากบันทึกของเธอว่า วันนี้ใจคงเต้นเป็นปกติดีนะคะ”

ทำให้ไดมีโอกาสคิดว่า การเจริญสติของเรานั้นเป็นอย่างไร

อ่านหนังสือครูบาอาจารย์ก็ได้เรียนรู้ว่าการเจริญสตินั้นแล้วแต่อารมณ์ที่เราถนัด

สำหรับตัวเองนั้น ในแต่ละวันได้ใช้กายใจทำงานอย่างไม่ทะนุถนอม ปล่อยให้สภาวะอารมณ์เกิดขึ้นตามสิ่งเร้ารอบกาย ปล่อยให้ทุกอย่างกระทบอย่างไม่ปลง ไม่วาง และปล่อยกาย ปล่อยจิต ให้ไปสัมผัสอย่างประมาณว่า ถ้าเกิดอะไรก็ตายกันไปข้างหนึ่ง  แต่ในความเป็นจริงสิ  ถ้าเจอแล้วตาย ก็ดีไป แต่ประเภทต้อง แขนหัก ขาหัก ซี่โครงเดี้ยง ม้ามแตก ปอดฉีก ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เราจะเยียวยามันได้อย่างไร

จึงได้มีโอกาสได้กลับมาเรียนรู้สภาวะตัวเองว่า สิ่งใดที่เหมาะที่จะทำให้เราได้เจริญสติในทางที่ถนัดนั้น

วิธีใช้มองกาย อาจจะไม่ถนัด เพราะวิเคราะห์ตัวเองว่าไฮเปอร์ แล้วการดำเนินชีวิตในทุกวัน มันโลดแล่นไปกับร่องอารมณ์เสนอ จึงใช้วิธีดูที่จิต จิตมันจะเจอสภาวะอารมณ์ใด ก็ปล่อยมันไป เรียนรู้่ไปทีละก้าว ทีละขั้น ทีละตอน และหลอมให้มันเป็นเรา  จิตมันจะสุข ทุกข์ คุ้มดี คุ้มร้าย หดหู่ ฟุ้งซ่าน กังวล ชื่นชม ยินดี ปรีดา จิ๊ด ๆ มันเป็นอย่างนี้ได้ในทุก ๆ วัน  เราก็ตามดูมันไป  เมื่อเรียนรู้ในอารมณ์ขณะนั้น ก็มีโอกาสได้กลับมาดูกายตัวเอง  ขณะที่จิ๊ด ๆ ใจเป็นอย่างไร เต้นแรงไหม มือสั่นหรือเปล่า  หรือว่าเท้ามันอยากจะนำไปประจันบานแล้ว หรือแฟ้มบินซะแล้ว(55555) ฯลฯ เราก็เรียนรู้สภาวะที่เกิดขึ้น ก็ปฏิบัติมา ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็เรียนรู้กันไป เพราะสิ่งที่เราได้ มันรู้อยู่ในใจ เราไม่ต้องไปบอกใครก็ได้ ใครเขาคิดอย่างไร ก็เป็นเรื่องของคนอื่น ไม่ใช่เรา  “สัญญา” เก่าที่เขามีกับเรา ก็เป็นเรื่องของเขา เพียงแต่เรารู้ว่าเราเป็นอย่างไร ก็ดีใจ เรียนรู้ที่จะไม่เอาจิตออกจากกายไปตัดสินคนอื่นเขา “มันก็เบา ที่ตัวเราเอง”

 

ย้อนกลับมาที่ประโยคของน้อง freemind ที่ทำให้คิดต่ออีกว่า  ในวันหยุด เราใจเต้นเป็นปกติ  แล้วทำไมในวันทำงาน เราไม่ทำให้เต้นเป็นปกติอย่างวันหยุดบ้าง (เหมือนที่หมอป่วนบอกเสมอ “ต้องรอให้ถึงวันนั้นหรือ” “หัวใจดวงเดียวกันหรือเปล่า” )

คำตอบคือ : ก็พยายามและถือปฏิบัติอยู่ค่ะ อิอิอิอิ

 

ซึมซับ และได้เรียนรู้ตัวเองจากประโยคสะกิดน้อง freemind แต่เช้า

ขอบคุณมิตรที่ดีอีกคน นะคะ 

Post to Facebook


น้ำดับไฟ

อ่าน: 1612

การเอาธัมมะมาเป็นน้ำดับไฟไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง

เพราะต้นทุนบุญกุศล ในตัวแท้ของเรา

เป็นน้ำเปี่ยมชุ่มเต็มในใจอยู่แล้ว

เพียงแค่รักษาสติไว้ให้อยู่กับใจ

โลภะ โทสะ โมหะ กิเลสทั้งปวง

ก็ไม่สามารถเกาะใจเราได้ ไฟกิเลสก็สิ้นฤทธิ์

ทำให้ใจสงบ ร่วมเย็น เป็นธรรม

………

                  ขอบคุณครูอาจารย์

                  พญ.อมรา  มลิลา

ถวายเทียนเข้าพรรษา สถานธรรม ห้วยผาพลู ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

22 กรกฎาคม 2553

Post to Facebook


คุณอ่านได้ไหม….

อ่าน: 1184

เรื่องดีดีมีมาจากเพื่อนเสมอ

ได้รับเมลฉบับ หนึ่ง หัวข้อก็คือ “คุณอ่านได้มั้ย”

พออ่านแล้วรู้สึกสนุกดี ว่า….เอ้ !! แปลกจังเลย นี่เราก็ยังอ่านมันได้นี่หน่า แม้เหมือนจะงง ไม่เข้าใจ

แล้วทำให้เกิดข้อคิดบางอย่างขึ้นมา ท่ามการดำเนินชีวิตในสถานการณ์ที่ดูสับสนอลหม่านวุ่นวายในยุคปัจจุบันนี้

ไม่ รู้ว่าคุณเคยอ่านหรือยัง แต่เอาล่ะ เราไปอ่านกันดู ดูสิว่าคุณอ่านมันได้มั้ย แล้วค่อยมาคุยกันต่อ

คณุ อาน่ได้มยั้

ถ้า คณุอาน่บทคาวมนี้ได้
คณุมีความคดิที่แขง็แรงพอสวคมรเลยนะ
คณุอาน่ได้ หรอืเลป่าล่ะ
มีแค่ 55 คนจาก 100 เท่านนั้แล่หะที่อาน่ได้

ฉนั ไม่อายกจะเชอื่เลยว่า
ฉนัเข้าใจสงิ่ที่ฉนักำลงัอาน่อู่ยนี้
มนัเป น็ปฎกราากรณ์ของคาวมคดิของม์ษุยน
ผลการศกึาษวจิยัจาก มวหายิทัาลย แบมคิร์จด ก่าลวว่า

มนัไม่ สคำญเลยว่าตวัอรัษกเยีรงถตอ้กูงหรอืไม่ในคำคำหนงึ่
มนัสคำญแค่ว่า ตวัอษักรแรกและตวัอษกัรตวัสดุทาย้ของคำ
นนั้อู่ยในตนำแห่งที่ถกูตอ้ง ที่เลืหอนนั้มนัจะมวั่ซวั่อ่ายงไร
คณุก็อาน่มนัได้อู่ยดี ไม่มีปหญัา

ที่ เปน็อาย่งนี้เราพะคาวมคดิของมษุน์ยนนั้
ไม่ได้อาน่ตวัอษกัรทกุตวัซกัห อน่ย
แต่อาน่เปน็คำเตม็ ๆ คำ
สดุยอดเลยใช่มยั้ล่ะ…ใช่เลย
แต่ ยงัไงฉนัก็คดิว่าการสกะดมนัสคำญันะ
ถ้าคณุอาน่บควาบมนี้ได้ ชว่ยสง่ตอ่หอน่ยนะ


ฉะนั้น ความสับสันวุ่นวายไม่ได้เป็นเหตุทำให้เราไปต่อไม่ได้ และเราไม่ควรจะวิตกจริตกับสิ่งต่างๆที่ประดังประดาถ่าโถมเข้ามาในชีวิตจน เกินเหตุ

จงเผชิญกับมันเถิด แล้วคุณจะรู้ว่า

คุณสามารถอ่าน ปัญหาที่ดูงงงวยได้ไม่ยาก และสามารถเผชิญหน้ามันต่อไปได้ และไปจนถึงความสำเร็จ

ใช่….. คุณยังไหว…..และคุณอ่านมันได้

 

โอว…แม่เจ้า ทุกอย่างมีทางออกของมันเสมอจริง ๆ

Post to Facebook


อย่าเปิดโอกาสแก่มาร…

9 ความคิดเห็น โดย sompornp เมื่อ กรกฏาคม 21, 2010 เวลา 7:41 ในหมวดหมู่ การจัดการความรู้, การจัดการความไม่รู้, ตามจริต #
อ่าน: 1706

เช้าวันจันทร์

อ่าน”ฉลาด…ได้อีก” ของพระอาจารย์ เตือนสติตัวเอง ก่อนตัดสินใครก็ให้เคารพในความแตกต่าง ห้วยแขวนคำพิพากษา เข้าในคนอื่น เข้าใจปมเขาและเรา

ดังนั้น อย่าคิดว่า เราเก่งแล้วคนอื่นทำไม่ได้ ให้ยอมรับและให้โอกาส การให้โอกาสผู้อื่น คือการให้โอกาสตัวเราเอง เช้านี้เจอเรื่องกระทบจากกงาน(อย่างแรง) จากเพื่อนร่วมงาน (ไม่ว่าจะตำแหน่งใด ทุกคนคือเพื่อนร่วมงาน) การยอมรับและให้โอกาสเขาทำในสิ่งที่ควรทำ เท่ากับเปิดโอกาสให้ตัวเองเห็นธรรม
…..
สังเกตตัวเอง ใจเต้นแรงไหม ผ่อนได้ไหม ไม่มีผิด ไม่มีถูก ขึ้นอยู่กับสมมุติสัจจะของแต่ละคน
…..
“ใจดี ใจสบาย”
…..
กราบขอบคุณพระอาจารย์ค่ะ

หมายเหตุ :  วันนี้ใจเต้นแรง 4 ครั้ง

แทบระเบิดออกจากอก  แต่ห้อยแขวนไว้ แล้วก็ผ่านไป

…………………………………………………

เช้าวันอังคาร

ก็เบิกบานด้วยการเตือนใจจำถ้าใจเราไม่มีความสุข ทุกข์ที่มีมันจะตามเราไปทุกหนแห่ง และทำให้การงานอันเบิกบานของเรา ขุ่นเหมือนกับใจด้วย
การดูแลตัวเอง เป็นสิ่งที่ควรเริ่มก่อน อย่าแบกความขุ่นมัวไว้ และให้มองผู้อื่นดังที่เช่นมองตัวเอง เขาทำงานอย่างไม่มีความสุขเพราะเขามีสิ่งที่ไม่มีความสุขในใจ
…..
สอนตัวเองเช้านี้ก่อนการทำงาน
และให้มองผู้อื่นด้วยความเมตตา… เช่นเราเมตตาตัวเอง
…..
วันนี้จะเป็นอีก 1 บทเรียน
…..
กราบขอบคุณพ่อแม่ครูพระอาจารย์

หมายเหตุ : วันนี้ใจเต้นแรง 1 ครั้ง

ได้วาง และ “ระบาย” เป็นการ ปลด และ แลกเปลี่ยนความรู้สึก

(ถึงแม้ไม่สุนทรีย์ แต่ก็ใช้ได้)

………….

วันพุธ

ก็เป็นอีกโอกาสที่เปิดให้ใจตนเอง

อะไรก็ไม่สำคัญ ถ้าทำทุกวันให้เป็นสุข
สุขกับเรื่องราวในชีวิต
“มีสติ” นะคะ บอกตัวเองทุกเช้าค่ะ
เป็น 3 วันที่ดีขึ้น

 เตือนตัวเองค่ะ

Post to Facebook



Main: 0.042057037353516 sec
Sidebar: 0.038892984390259 sec