ตามจริต : ความสุขอยู่ตรงไหน
ช่วงนี้ฉันมีคำถามที่ต้องตอบตัวเองเสมอถึง “เป้าหมายชีวิต” ของตัวเอง
การดำเนินมากว่าครึ่งหนึ่งของชีวิต ทำให้ฉันต้องทบทวนในแต่ละวันเสมอว่าฉันต้องการอะไร
ในขณะที่ปัจจุบันฉันเป็นข้าราชการบำนาญ การตัดสินใจครั้งนี้อยู่บนพื้นฐานความเห็นแก่ตัวเกือบทั้งสิ้น ฉันคิดว่าถ้าฉันเป็นข้าราชการบำนาญ เมื่อถึงยามแก่เฒ่า อย่างน้อยฉันก็มีหลวงเลี้ยงดูแลค่ารักษาพยาบาล และมีเงินเดือนอีกเล็กน้อยเป็นค่าครองชีพ ซึ่งจะพอหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้จ่าย
……
ในขณะที่การทำงานในปัจจุบัน ฉันทุ่มเททำงานอย่างมุ่งมั่น และมีความสุขใจฐานะพนักงานที่ได้เงินเดือนเพิ่มมากขึ้น (แต่ยังไม่ทราบว่าจะเพิ่มเท่าไร) แต่ฉันก็พอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ปัจจุบัน
……
เวลาผ่านไป
ในขณะที่เรามีสิ่งที่มากระทบ กระแทกใจ
สิ่งที่กวนในใจตลอดเวลา คือคำถามว่า
“ฉันทำอะไรอยู่”
”ความสุขฉันอยู่ตรงไหน”
“ทำไมฉันต้อง(ทน)อยู่”
……..
เมื่อมีเวลาทวนความคิดตัวเอง
ทำให้ฉันคิดว่า “ฉันเห็นแก่ตัว”หรือไม่
เห็นแก่ตัวกับงานที่ฉันทำ เห็นแก่ตัวกับภาษีราษฎรที่เป็นค่าเงินเดือนจ้างฉันทุกวัน แต่ฉันยังคิดว่า “ทำไมฉันต้องทน ต้องทำ” (ในขณะที่ฉันก็ได้ใช้เงินภาษีฯ อยู่)
……..
ฉันถึงต้องอยู่ตรงนี้ ทำหน้าที่ในฐานะคนกินเงินเดือนจากภาษีราษฎร
ทำหน้าที่ในหน้าที่หลัก และหน้าที่ในการตอบแทนสังคม(เท่าที่ทำได้)
และเมื่อสมควรแก่เวลา ฉันก็ควรจะไป ไปหาความสุข ตามที่ฉันตั้งเป้าหมายไว้
ไปหาสิ่งที่เหมาะแก่ตัวเอง ไปตอบแทนสังคมส่วนรวม ที่เราได้มีส่วนร่วมกันอยู่บนโลกแห่งนี้ และ “ตามหาความสุข” ที่ฉันคิดว่าจะทำให้สุข
…….
ถ้าหาพบแล้ว “ฉันจะมาเล่าให้ฟัง”
ฉันบอกกับตัวเอง
ตามจริต บทเรียนจากการทำงาน
….ถ้าไม่ล้ม ก็ไม่รู้ว่า อาการเจ็บ รู้สึกอย่างไร
เช่นใดก็เช่นนั้น การทำงาน ถ้าไม่ผิดพลาด ก็ไม่จะรู้ว่างานนั้นทำให้ได้เรียนรู้อะไร
การยอมรับในความผิดพลาดในครั้งนี้
ทำให้ได้เรียนรู้ใจตัวเอง
…….
เรียนรู้ที่จะยอมรับและหยุดการพิพากษาผู้อื่น
เรียนรู้ว่า “น้ำตา” ไม่ได้แก้ปัญหาใจ
เรียนรู้ว่า “มิตรภาพ” บนความห่วงใยยังมีอยู่ใกล้ ๆ เสมอ
เรียนรู้ว่า “การหน่วง” ให้เวลาผ่านสักนิด เราจะมีสติ และมองเห็นทางแก้ของปัญหานั้น
……
ขอบคุณ “คุณสติ” ที่กรุณามาเยี่ยมและทำให้เกิด “คุณปัญญา” ตามมาเสมอ
……
ขอบคุณกัลยาณมิตรที่ทำให้ได้ “คิดถึง” ก็สุขใจ