ตอบจดหมายรัก(ชาติ)ฤดูร้อน

2 ความคิดเห็น โดย ป้าหวาน เมื่อ 24 มีนาคม 2010 เวลา 8:31 (เย็น) ในหมวดหมู่ ข้อคิด ชีวิต #
อ่าน: 1502

พระ ไพศาล : อาตมาถือเป็นหน้าที่ เมื่อสังคมขัดแย้งแตกแยกกันขนาดนี้
หลักธรรมพุทธศาสนาเท่านั้นที่จะมาหยุดตรงนี้ได้
เพราะจริงๆ แล้วปัญหามันเริ่มที่ความไม่สงบสุขในใจ
คือใจที่วุ่นวาย เป็นทุกข์ ทั้งหลายนั้นเกิดมาแต่เหตุ 3 อย่าง คือ ตัณหา มานะ ทิฐิ

ตัณหา ก็คือในเรื่องของผลประโยชน์ ซึ่งพอมีมากเข้าทำให้สำนึกต่อส่วนรวมเลือนหายไป
มานะ คือความสำคัญตัวว่าดี ว่าเหนือกว่า และ
ทิฐิ ที่เป็นความใจแคบ เพราะยึดติดถือมั่นในความคิดของตน

อ่านต่อ »


This Too Shall Pass…

1 ความคิดเห็น โดย ป้าหวาน เมื่อ 21 มีนาคม 2010 เวลา 5:21 (เย็น) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2010

India Arie - This Too Shall Pass

อ่านต่อ »


ว.วชิรเมธี : แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป (This too shall pass)

2 ความคิดเห็น โดย ป้าหวาน เมื่อ 21 มีนาคม 2010 เวลา 4:54 (เย็น) ในหมวดหมู่ ข้อคิด ชีวิต #
อ่าน: 5347

A sunset in Hora Sfakion

ในอดีตมีพระราชาผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักร ฮีบรูพระนามว่าโซโลมอน
พระราชาได้สั่งให้เจ้าเมืองทุกเมืองทำของวิเศษให้อย่างหนึ่งโดยของสิ่งนั้นต้องมีคุณสมบัติพิเศษคือ…
ของสิ่งนี้ จะสามารถเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกของพระราชาได้

อ่านต่อ »


ออกนอกลู่ นอกทาง

2 ความคิดเห็น โดย ป้าหวาน เมื่อ 19 มีนาคม 2010 เวลา 9:06 (เช้า) ในหมวดหมู่ ข้อคิด ชีวิต #
อ่าน: 2168

ออกนอกลู่ นอกทาง

สำนวนไทย..ช่างคิดแล้วได้ความหมาย
จะตีให้สั้น ให้ยาว ให้ตื้น ให้ลึก ก็ได้
สงสัยจะแก่แล้ว…ก็เลยคิดต่างจากตอนเป็นเด็ก.(ฮา.)..
ตอนเด็กๆคิดว่า แปลว่าทำอะไรไม่ถูก ไม่ควร
เตลิดเปิดเปิง ทำผิดแผกจากที่ควรทำ

ตอนนี้คิดเพิ่มว่า ลู่ กับ ทาง ก็บอกอะไรบางอย่างไหม..

อ่านต่อ »


รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี….

2 ความคิดเห็น โดย ป้าหวาน เมื่อ 7 มีนาคม 2010 เวลา 12:04 (เย็น) ในหมวดหมู่ ข้อคิด ชีวิต #
อ่าน: 3059

เดี๋ยวนี้อะไรๆก็ต้องตีความ แม้แต่คำว่าตีความ….
เดิมทีการเข้าใจอะไรๆ ก็เข้าใจตามตัวอักษร
นั่นอาจเป็นเพราะเวลานั้น..คือ เวลานั้น..
และ.เวลานี้ คือ..เวลานี้…

เมื่อผ่านเวลา ก็รับยาขมหม้อเล็ก หม้อใหญ่
ไปตามสถานการณ์ แบบฝึกหัดก็ผ่านไปหลายบท
ละครชีวิตก็ดูมาหลายเรื่อง

อย่าไปโทษอะไรเลย…มันเป็นธรรมดา ธรรมชาติ เช่นนั้นเอง
ถ้าเราเกิดมารู้หมดทุกอย่าง ทำได้หมดทุกอย่าง
เราคงไม่ใช่คนปกติ…แม้ร่างกาย แม้สรรพสิ่ง ก็ยังมี
วันเวลาเป็นตัวกำหนดความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
เราจะคิดหวังว่า น่าจะ..อย่างนั้น อย่างนี้ นั้นก็คือ ความอยากแล้ว..

แม้ในศีลข้อที่ 1ที่ท่องมาแต่เด็กๆ เด็กๆท่องว่าห้ามฆ่าสัตว์
ถ้าตีความตามตัวอักษร  ห้ามฆ่าให้ตาย ทำให้ตาย
ตามตัวอักษรน่าจะหมายถึงการทำให้ตายโดยเจตนา
แต่ถ้าจะคิดให้ลึกซึ้ง ถึงเจตนาของคำสอนแล้ว มีเจตนาลึกซึ้ง
กว่าการฆ่ามาก ดังจากคำสอนของสมเด็จพระสังฆราช
ใน แสงส่องใจ พระองค์สอนถึงเจตนาของศีลข้อ 1 ที่ลึกซึ้ง
ว่า อย่าว่าแต่ทำให้ถึงตายเลย แม้แต่การกระทบต่อกาย หรือ ใจ
ก็ไม่ควรทำ
คำเทศนานี้ชี้ให้เห็นลึกลงไปในคำสอน
คำห้ามของพระพุทธองค์ ซึ่งเราจะเรียนกันตามตัวอักษรไม่พอ

แต่นั่นก็ขึ้นกับคนเรียนด้วยเหมือนกันว่าจะคิด พิจารณาเพียงใด
สาเหตุหนึ่งที่เกิดเรื่องต่างๆระหว่างคนก็คือ การกระทบที่ใจ
การกระทบที่กาย นั้นเอง
กระทำอย่างไร กระทบอย่างไร
ด้วยวาจา ด้วยสื่อ ด้วยเจตนา ด้วยไม่เจตนา กระทำโดยตรง
กระทำโดยอ้อม ก็ล้วนแต่มีผลทั้งสิ้น จะผลในระดับใดก็สุดแต่
จะพิจารณาได้โดยสติ โดยสมาธิ นั้นคือก่อกรรมแล้ว อาจดี หรือ ไม่
ก็พิจารณาโดยละเอียดได้อีก การไม่ทำชั่ว เท่ากับอย่าติดลบ การทำดี
คือทำเพิ่มจากเดิม ลดการติดลบ จนถึงทำให้เป็นบวก และการทำให้จิตใจ
บริสุทธิ์ คือ ลดละล้าง กืเลส ความเศร้าหมองที่นำไปสู่การติดลบ
และการลดความดี จากที่เคยมีลงไป

การรู้รักษาตัวรอดนั้น ถ้าตีความในทางลบ อาจหมายถึง
การเอาตัวรอดโดยทิ้งความรับผิดชอบ และ หรือ เห็นแก่ตัว
แต่ถ้าตีความในทางบวก อาจหมายถึง
กระทำการโดยรอบคอบ และไม่ทิ้งความรับผิดชอบ ไม่เห็นแก่ตัว
แต่รู้จักคิดเลือก ทำการใดๆในทางที่ชอบที่ควร และไม่เป็นภัยแก่ใคร

ในสังคมทุกวันนี้ ฉลาด แต่ ไม่เฉลียว ก็พัง…
ดังนั้นการกระทำใดๆพึงกระทำโดยไม่ประมาท
แมัการทำดี ก็มีการทำดีโดยประมาทได้ด้วย…..
ก็อยู่ในสังคมมนุษย์ จึงต้อง รู้รักษาตัวรอด เป็นยอดดี
ดูที่เจตนา ทำดีโดยไม่ประมาท



Main: 0.036838054656982 sec
Sidebar: 0.017413854598999 sec