ไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ ไข้หวัดใหญ่ 2009

โดย ป้าหวาน เมื่อ 12 กันยายน 2009 เวลา 22:55 ในหมวดหมู่ ความรู้เพื่อประชาชน, ด้านสุขภาพ #
อ่าน: 2495

บทความนี้ได้มาจากการรวบรวม เรียบเรียง จากบล็อกและข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับไข้หวัดใหญ่ 2009 เพื่อสะดวกแก่การทำความเข้าใจ สำหรับประชาชนทั่วไป  ท่านที่สนใจข้อมูลวิชาการ และรายละเอียดติดตามอ่านได้ในเอกสารอ้างอิง  และขอขอบคุณแหล่งที่มา ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ เริ่มทำความรู้จักกับ ไข้หวัดใหญ่ 2009 กันก่อนค่ะ

ไข้หวัดใหญ่ 2009

เป็นเชื้อไวรัส สายพันธุ์เดียวกันกับไข้หวัดใหญ่ แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมไป (กลายพันธุ์) เนื่องจาก ผสมกับไข้หวัดหมู และไข้หวัดนก จึงเป็นไข้หวัดที่น่ากลัวมาก แพร่ไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความสูญเสียมากมาย ผู้คนล้มตายไปจำนวนมาก จุดที่เกิดการกลายพันธุ์ อยู่ที่ฟาร์มหมูในประเทศแมกซิโก เป็นกลุ่มของไข้หวัดใหญ่ ชนิดเดียวกัน

อาการของโรค

ไข้หวัดใหญ่ 2009  มี อาการไอ จาม มี น้ำมูก นอกนั้นมีอาการคล้ายคลึงกัน คือ ปวดหัว ตัวร้อน เหนื่อย

ทำไมถึงอันตรายกว่า

อันตรายกว่าเพราะ  เป็นเชื้อกลายพันธ์ เป็นเชื้อที่ร่างกายมนุษย์ไม่เคยพบมาก่อน
จึงยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อชนิดนี้
เพิ่งจะมาพบไม่นานและ ขณะนี้มีการรีบเร่งผลิตวัคซีน
แต่ยังไม่ทันต่อความต้องการของชาวโลก
เพราะเชื้อนี้ระบาดไปอย่างรวดเร็วในหลายๆประเทศ
และเพราะร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกันจึงเกิดติดได้ง่ายและออกอาการไว

อันตรายของเชื้อไวรัสใหม่นี้คือ

มีตัวรับ(receptor)ของเชื้อนี้อยู่ในถุงลมที่ปอด
เมื่อได้รับเชื้อจะมีโอกาสทำให้ถุงลมคั่งน้ำ จนทำงานแลกเปลี่ยนก๊าซไม่ได้

เกิดปอดบวมรุนแรงขึ้น

การป้องกัน เป็นสิ่งจำเป็น

ขณะนี้เชื้อไวรัสนี้มีการระบาดในหลายประเทศ
รวมทั้ง ในประเทศไทยด้วย  ในช่วงเวลาปลายฝนต้นหนาว
เป็น ช่วงเวลาที่พบการเกิดของไข้หวัดใหญ่ชุก
ประชาชนจึงควรตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
รู้จักการป้องกันตนเอง  รวมถึงการสังเกตอาการ
และการรักษาอาการเบื้องต้นด้วย  เพราะถ้ารู้และปฎิบัติิได้แล้วจะปลอดภัย

การป้องกันในบุคคลธรรมดา

การมีสุขภาพดี แข็งแรง ทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง เป็นประจำ
เป็นปราการสำคัญที่ช่วยป้องกันโรคโดย ร่างกายที่แข็งแรงจะไม่ติดโรคง่าย

ในภาวะเสี่ยงเนื่องจากการระบาดของโรค

เสี่ยงจากปัจจัยภายใน

ได้แก่  อายุ โรคประจำตัว  และบางสภาวะเช่น
กลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ คนท้อง คนภูมิคุ้มกันผิดปกติหรือต่ำ
คนอ้วน   คนมีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่นความดันสูง หัวใจ
ไทรอยด์เป็นพิษ เบาหวาน มะเร็ง หัวใจ หอบหืด ถุงลมโป่งพองเป็นต้น

เสี่ยงจากปัจจัยภายนอก

เช่น  ในโรงพยาบาล ในการทำงาน ในการเดินทาง มีกิจกรรมทางสังคม  หรือไปอยู่ในกลุ่มคนคับคั่ง

การปฏิบัติตัวในระดับป้องกัน

ผู้ป่วย ต้องใส่หน้ากากอนามัย แยกตัว ดูแล รักษาแต่เริ่มแรก
ตัดกิจกรรมทางสังคมหรือการออกไปปรากฎตัวในที่สาธารณะ
ส่วนบุคคลทั่วไป ยังไม่ป่วยก็ปฏิบัติตัวตามหลักการง่ายๆ
“กินของร้อน ใช้ช้อนกลาง แยกของใช้ส่วนตัว ล้างมือบ่อยๆ
ลดกิจกรรมทางสังคม

การสังเกตอาการและการรักษาเบื้องต้น

ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่  มีไข้สูง ทรมาน หายใจเหนื่อย ปวดหัว ตัวร้อน
ไม่สบาย  ควรให้พักผ่อนอยู่กับบ้านให้ทานยาลดไข้
หรือ อาจเป็น ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรไทย รักษาไข้หวัด 2009 ซึ่งพบว่า
สมุนไพรมีประโยชน์ ให้ผลดีมาก
โดยเฉพาะ สมุนไพรที่มีฤทธิ์ดับพิษร้อน  การอักเสบโรคติดเชื้อ
จะช่วยปรับสมดุล หรือ บรรเทาอาการที่แปรปรวน
จะช่วยให้ผู้ป่วย ทุเลา ฟื้นตัว ได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตามการใช้สมุนไพรควรศักษาก่อนใช้ เพราะอาจมีข้อเสียได้

เมื่อไรจึงควรไปพบแพทย์

จากเริ่มมีอาการควรเริ่มรักษา ดูแล สังกตอาการโดยตลอด
ในระยะะเวลา 2 วันถ้าได้รับการดูแลเบื้องต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้น
ควรปรึกษาแพทย์ เนื่องจากหากเป็น ไข้หวัดใหญ่ 2009
อาการสามรถลุกลามได้อย่างรวดเร็ว อาจเป็นอันตรายได้

อ้างอิง

การใช้หลักยาจีน ช่วยทุบ เชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009    http://gotoknow.org/blog/9thai/281531
เตรียมความรู้ และ ยา ไว้รับมือ กับ ไข้หวัดใหญ่ 2009  http://gotoknow.org/blog/9thai/282000
เชื่อมั่นสมุนไพร ร่วมต้านไข้หวัดใหญ่ 2009 เมื่อลูกหมอป่วย  http://gotoknow.org/blog/9thai/286122
สังเกตุ พิษร้อน จากไข้หวัดใหญ่   http://gotoknow.org/blog/9thai/283227
ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรไทย รักษาไข้หวัด 2009   http://thaihealth.allblogthai.com/10#levalRe2_1027
เกาะติดสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009  http://thaihealth.allblogthai.com/subcatagories/555
รายงานพิเศษ http://www.oknation.net/blog/bypunnee/category/FLU2009
ตาย - ดื้อยา ทาง 2 แพร่ง “ยาหวัดใหญ่ 2009”  http://www.oknation.net/blog/bypunnee/2009/08/03/entry-1
ไข้หวัดหมู(2009H1N1) เกิดขึ้นได้อย่างไร???  http://gotoknow.org/blog/socialwithoutborders/261990
ไข้หวัดใหญ่ 2009 . . ความจริงที่ต้องรู้  http://gotoknow.org/blog/auttamon/282358
ตลาดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 เดือด  http://www.oknation.net/blog/bypunnee/category/FLU2009

< -->

« « Prev : ความเข้าใจเกียวกับหวัดสายพันธุ์ใหม่

Next : บวก…ใครคิดว่าไม่สำคัญ…. » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

8 ความคิดเห็น

  • #1 ป้าหวาน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 กันยายน 2009 เวลา 23:02
    ส่วนรวมของเราจะได้รับประโยชน์เท่าใดก็ขึ้นอยุ่กับ ความสามัคคี ร่วมกันคิด ร่วมกันสร้างสรร  ขอเรียนเชิญทุกๆท่านร่วมแบ่งปัน ร่วมแนะนำ ติชม เพิ่มเติม ออกความเห็น จะเป็นพระคุณยิ่งค่ะ  ท่านใด มีข้อมูลจะให้เพิ่มเติมที่ส่วนใด ก็ยินดีนะคะ  ท่านใดมีประสบการณ์จะกรุณานำมาเล่าไว้ ก็ขอขอบพระคุณค่ะ
  • #2 สุวรรณา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 กันยายน 2009 เวลา 9:37

    สวัสดีค่ะ ป้าหวาน เราต้องระวังช่วงปลายฝนต้นหนาวกันอีกรอบหนึ่งนะคะ แต่ในทางโรงเรียนของลูก ก็ยังมีหวัด 2009 เป็นกันอยู่เรื่อยๆ เดี๋ยวคนโน้นเป็นคนนี้เป็น ลูกสาวเล่าให้ฟังเสมอ เด็กข้างบ้านลูกชายจัดว่าอ้วนมากเค้าเป็นหวัด 2009 แม่เค้าต้มน้ำตะไคร้ให้ลูกทานอีกแรงหนึ่ง ก็ช่วยฟื้นตัวเร็ว ส่วนเจลล้างมือที่ทำงานน้อง ยังมีบริการนิสิตอย่างสม่ำเสมอค่ะ ยิ่งช่วงนี้เปิด 24 ชั่วโมง นิสิตเดินเข้าออกพลุกพล่าน พอสมควรค่ะ ช่วยกันดูแลเด็กๆๆกันต่อไปนะคะ ป้าหวานคะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพียบเลยค่ะ สมุนไพรในครัวเรือนช่วยได้มากนะคะ พริก หอม ขิง ข่า ตะไคร้กระเทียม ลูกๆโดนแม่ยัดเหยียด แบบไม่รู้สึกเลยเป็นความชินในรสชาติ  เป็นคาวเป็นหวานอยู่ที่เราดัดแปลงนะคะ  ต้มมันน้ำขิงนี่ก็ชอบกันทั้งครอบครัวเลยค่ะ

  • #3 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 กันยายน 2009 เวลา 11:35

    สุดยอด ความรู้ที่สรุปมาให้อย่างมีคุณค่าครับป้าหวาน  จะเอาไปให้น้องๆเอาไปขยายต่อไปครับ
    ขอบคุณครับ

  • #4 ป้าหวาน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 กันยายน 2009 เวลา 15:48
    ขอบคุณน้องนิดและพี่บางทรายนะคะ  บันทึกนี้เกิดจากความรู้และปรารถนาดีของอาม่าค่ะ  อาม่าท่านเป็นห่วงอยากทำเรื่องความรู้เผยแพร่ให้ประชาชน  และอาม่าก็ลงมือทำไปแล้วหลายผลงาน บังเอิญได้พบปะกับอาม่าและสานต่อความคิด ความปรารถนาดีของอาม่าค่ะ  เราหลายๆคนช่วยกันนะคะ  คนละไม้คนละมือ  อาม่าอยากให้ความรู้ ความเข้าใจง่ายๆนี้เข้าถึงประชาชน  ป้าหวานก็รับงานมาเรียบเรียงให้อ่านง่าย เข้าใจง่าย เพื่อที่อาม่าจะเอาไปเผยแพร่ต่อในชุมชน ในกลุ่มต่างๆต่อไปค่ะ  ขอบพระคุณพี่บางทรายด้วยค่ะที่จะนำไปให้น้องๆขยายต่อ ขอบคุณน้องนิดที่เข้ามาช่วยเพิ่มข้อมูล ประสบการณ์ค่ะ  อย่างไรก็ตาม เราเพียงเริ่มต้น เพาะพันธ์  ปลูกต้นกล้า แต่ยังต้องมารดน้ำ ใส่ปุ๋ยเน้อ  ทำครั้งเดียวก็ได้นิดเดียวเป็นธรรมดา  ถ้าจะหวังทำทีเดียวเสร็จ คงคิด คงเตรียม กันจนไม่ได้ทำเนาะ  อิอิอิอิ
    ข้อมูลเหล่านี้ยังคงไม่สมบูรณ์นะคะ  เราสามารถเพิ่มเติม ปรับปรุงได้อีกค่ะ ขอบคุณค่ะ
  • #5 Lin Hui ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กันยายน 2009 เวลา 5:04

    อาม่าขอขอบคุณป้าหวานมากค่ะ ที่ช่วยแบ่งปันความรู้ความสามารถมาช่วยกันสร้างความรู้ความเข้าใจ เรื่องหวัด 2009 อาม่าคนเดียว ทำอะไรได้ไม่มากนักค่ะ หากพวกเรามาร่วมแรงร่วมใจกัน มาช่วยกันย่อยความรู้ความเข้าใจเรื่องนี้ ให้เป็นภาษาที่เข้าใจง่ายๆ ก็จะช่วยสังคมได้ไม่น้อยทีเดียวค่ะ แน่นอนค่ะว่าประชาชนทั่วไปคงไม่มีโอกาสอ่านบันทึกนี้ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ที่มี และใช้เทคโนโลยี ไอที อยู่ในภาคส่วนต่างๆ ของสังคมไทย มีโอกาสเห็นบันทึกนี้ จะสามารถนำข้อมูลนี้ไปเผยแพร่สู่ประชาชนทั่วไปได้ ลำพังอาม่าคนเดียวที่ได้พยายามทำอยู่ในหลายรูปบบนั้นไม่พอค่ะ จึงอยากเชิญชวนพวกเรา ชาวลานปัญญาร่วมกันแบ่งปันปัญญา เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม ทุกคนช่วยได้ค่ะ แค่ช่วยเผยแพร่ สิ่งที่ได้รับรู้ให้แก่คนรอบข้าง ก็ถือว่าได้ทำหน้าที่ผลเมืองแล้วค่ะ  ยิ่งผู้ที่มีประสบการณ์มาร่วมแบ่งปันความรู้จะเป็นพระคุณยิ่ง เป็นกุศลโดยแท้ค่ะ ขอบพระคุณในความกรุณาล่วงหน้าค่ะ

  • #6 ป้าหวาน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กันยายน 2009 เวลา 10:46
    ขอบคุณอาม่าค่ะ   อาม่าคะ  บางที..

    เพราะจอบไม่ใช่เสียม และเพราะเสียมไม่ใช่จอบ
    จอบใช้แทนเสียมไม่ได้ เสียมใช้แทนจอบไม่ดี
    แต่ถ้าใช้ทั้งจอบทั้งเสียมบางทีก็เยี่ยม
    บางทีก็ใช้ไม่ได้ทั้ง 2อย่างเลย…

    ความรู้นั้นมีดีอยู่แล้วแต่ขึ้นกับโอกาสใช้  คนที่ใช้  คนที่รับ  จะเกิดประโยชน์สูงสุดในคราวเดียวไหม
    อาจไม่ได้ดังใจเรา ดังนั้น การแสดงออก การแบ่งปัน จึงต้องทำบ่อยๆ ในหลายๆแบบ
    และ อาจไม่เกิดผลเลิศ ก็ไม่ท้อแท้ค่ะ

    รักอาม่ามากๆ  อิอิ อิอิ

  • #7 Lin Hui ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กันยายน 2009 เวลา 11:36

    ป้าหวานค่ะอาม่านำ บล็อกที่ป้าหวานเขียนไปลิงค์ในบันทึกของอาม่า ในโกทูโนแล้วค่ะ

  • #8 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 ตุลาคม 2009 เวลา 22:37

    Most H1N1 Patients With Respiratory Failure Treated With Oxygenating System Survive Illness

    ScienceDaily (Oct. 13, 2009) — Despite the severity of disease and the intensity of treatment, most patients in Australia and New Zealand who experienced respiratory failure as a result of 2009 influenza A(H1N1) and were treated with a system that adds oxygen to the patient’s blood survived the disease, according to a new study…


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.10022306442261 sec
Sidebar: 0.066154956817627 sec