บวก…ใครคิดว่าไม่สำคัญ….

โดย ป้าหวาน เมื่อ 13 กันยายน 2009 เวลา 14:44 ในหมวดหมู่ ความรู้เพื่อประชาชน, ด้านสุขภาพ #
อ่าน: 1874

ท่านมีความรู้เบื้องต้นอย่างไรกับคำว่าเลือดบวก

บวก บวก บวก บวกนั้น..ประการใด…ไฉนหนอ…….

คำว่าเลือดบวกนั้น น่าจะมาจากภาษาพูดที่ย่อและพูดในวาระหนึ่งๆเฉพาะเจาะจงเท่านั้น

แต่มีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจคลาดเคลื่อน
โดยเข้าใจว่า เลือดบวกคือโรคชนิดหนึ่งทางเพศสัมพันธ์
ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าหมอเขาเรียกว่าอะไร
ต่อมาเมื่อมีเรื่องเอดส์ เข้ามาแพร่หลาย ประชาชนบางส่วนก็สับสน
และไม่ได้หาคำตอบเพราะไม่มีเวลา
ขอให้ไม่บวกเป็นใช้ได้ แต่มากกว่านั้นไม่ทราบ

จริงๆแล้ว เลือดบวก เป็นคำพูดลอยๆที่จะต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมจะคิดเองว่าเป็นอย่างนั้น  อย่างนี้ ไม่ได้ค่ะ

ในภาษาของหมอ  การตรวจมีมากมายหลายเรื่อง หลายโรค
หลายวิธี ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการตรวจ
แต่สรุปว่า สิ่งที่หมอตรวจไม่ได้มีแต่เชื้อโรคอย่างเดียว
หมอยังตรวจหาสารบางขนิดที่บ่งบอกถึงบางสภาวะของร่างกาย
บางทีก็ตรวจหาปริมาณของสารอื่นๆที่ไม่ใช่เชื้อโรค

ดังนั้น การรายงานผลว่ามีอะไรบางอย่างบวกนั้นไม่ได้แปลว่ามีเชื้อโรคเสมอไป
และ ไม่ได้แปลว่า ไม่ดี เสมอไป

ขอให้สนใจในรายละเอียด ก่อนที่จะสรุปว่าอะไร เป็นอะไร ไม่เช่นนั้น
เมื่อทราบว่ามีผลเลือดบวก เท่านั้น  คนไข้ก็สั่นไปถึงหัวใจ เท่านั้นไม่พอ
อาจกระเทือนไปถึงครอบครัว การงานอีกด้วย

การฟังการสิ่อสารจึงสำคัญมาก ควรปรึกษาแพทย์โดยตรง
ซักถามให้เข้าใจจริงๆ ว่าเป็นอะไรหรือไม่ อย่างไร นะคะ

สามารถตั้งคำถามที่ต้องการทราบไว้ที่ ความคิดเห็น นะคะ

« « Prev : ไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ ไข้หวัดใหญ่ 2009

Next : ไข้หวัดใหญ่ 2009 อันตรายใกล้ต้ว…. » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 Lin Hui ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กันยายน 2009 เวลา 5:22

    สำคัญค่ะป้าหวาน และจะสำคัญยิ่งขึ้น หากผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจ หมอสามารถอรรถาอธิบายให้ผู้มี…..บวกในเลือดได้เข้าใจ อย่างถูกต้อง เพื่อวางแผนร่วมกันดูแลแลรักษาเยียวยาให้เข้าสู่ภาวะปกติ บวกนั้นดีแน่ๆ ค่ะ โดยเฉพาะการคิดบวกที่มีเหตุผลรองรับค่ะ ฝันในสิ่งสวยงามก็เป็นบวก ร้องเพลงสร้างความสุขให้ตัวเอง ขอบคุณสิ่งแวดล้อมธรรมชาติที่งดงามก็สร้างความสุข ก็เพราะคิดบวกค่ะ

  • #2 ป้าหวาน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กันยายน 2009 เวลา 10:37
    ขอบคุณอาม่าค่ะ  ถ้าหมอและคนไข้ได้คุยกันจนเข้าใจซึ่งกันและกัน  จะช่วยเพิ่มประสิทธิผลในการรักษามากๆนะคะ  แต่หมอและคนไข้ในยุคนี้มีเวลาจำกัดคล้ายๆก้น  การสื่อสารจึงถูกย่อ หรือ ขาดหายไป คนไข้หลายรายมาพบหมอครั้งเดียว ไม่มาอีกนานหลายเดือน  ไม่มาฟังการวินิจฉัยด้วยตนเอง  การส่งผลไปที่บ้าน สิ่งเหล่านี้เป็นช่องว่าง ให้เกิดการคิดเอาเอง เข้าใจคลาดเคลื่อน  มึคนไข้หลายราย บอกไม่เป็น เล่าไม่ได้ ถ้าหมอไม่มีเวลาซักถาม เลิอกคำถาม ก็อาจไม่ได้ข้อสรุปใน 1 ครั้ง  การรักษายืดออกไป คนไข้บางคนเข้าใจผิดไปว่า หมอนี้รักษาไม่หาย  ไม่ศรัทธาก็มีค่ะ

    ป้าหวานหวังอยากให้ ข้อความนี้ไปถึงชุมชนไกลๆที่นานๆจะมาหาหมอสักครั้งค่ะ เพราะฐานะ เพราะระยะทาง เพราะการศึกษา ล้วนเป็นอุปสรรค


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.34794497489929 sec
Sidebar: 0.083323955535889 sec