เปลี่ยนแปลง
“คนแม้เพียงหยิบมือ ถ้ามุ่งมั่น มีความคิด
และรับผิดชอบ…ก็จะเปลี่ยนแปลงโลกได้”
Margaret Mead
นักมานุษยวิทยาชาวอเมริกัน
1234
งานวิจัยเชิงคุณภาพ/เชิงคุณลักษณะ (Qualitative research)นั้น มักถูกวิพากษ์ว่า เป็นงานวิจัยที่ไม่มีหลักการที่น่าเชื่อถือ วัดและประเมินผลไม่ได้ด้วยข้อมูลทางสถิติ เมื่อเปรียบเทียบกับงานวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative research) และมีโอกาสสูงที่จะเจือด้วย “อคติ” ตามลักษณะของงานวิจัยที่มุ่งศึกษาปรากฏการณ์ ตามบริบทและสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่ จากลักษณะของงานวิจัยที่มีความเฉพาะเจาะจงเช่นนี้ จึงไม่สามารถที่จะนำไปสู่การเป็นตัวแทนหรืออธิบายเรื่องเดียวกันในบริบทหรือพื้นที่อื่น ๆ ได้
Margaret Mead เป็นนักมานุษยวิทยา (ทำการวิจัยเชิงชาติพันธุ์วรรณา ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของการวิจัยเชิงคุณภาพ) กลุ่มแรก ๆ ที่ได้พยายามยืนหยัดและสร้างความชัดเจน เป็นปึกแผ่นให้กับงานวิจัยเชิงคุณภาพ และการต่อสู้กันทางด้านความคิดของค่ายการวิจัยทั้งสอง(การวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ) ดำเนินมาเกินกว่าสามทศวรรษ และยังคงดำเนินต่อไปในบางประเด็น …
บันทึกนี้คงไม่เล่ารายละเอียดที่เกี่ยวกับการต่อสู้ทางความคิดของทั้งสองค่าย แต่มีสิ่งที่น่าสนใจคือ การต่อสู้ทางความคิดของทั้งค่ายการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพนี้ ยิ่งทำให้เกิดประโยชน์และความกว้างขวางยิ่งขึ้นของการวิจัยโดยรวม ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อทำลายล้างหรือสร้างความโกรธเกลียดกัน จนอาจกล่าวได้ว่าในปัจจุบันนิยมที่จะใช้การวิจัยทั้งสองประเภทนี้ร่วมกันในงานวิจัยหนึ่ง ๆ ซึ่งทำให้ได้เห็นและอธิบายถึงภาพของงานวิจัยได้ชัดเจนและเกิดประโยชน์กว่าการใช้ระเบียบวิธีวิจัยเพียงอย่างเดียว
อ่านไปก็สนุกไป และได้ข้อคิดเล่น ๆ ขึ้นมา…
ข้อแรกคือ มนุษย์นั้นมีความเห็นต่างกันได้ แต่อย่าปิดใจ คิดเห็นดีงามในเรื่องอะไรว่าเป็นสิ่งที่ดีและถูกต้อง แต่ต้องไม่ยึดมั่นถือมั่น ฟังคนอื่น มองสิ่งรอบตัวบ้าง … อาจมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่เคยตระหนักถึงมาก่อนเลยก็ได้ โลกเราพัฒนาไปสู่ความก้าวหน้าได้ ก็เพราะมุมมองที่แตกต่างหลากหลาย…ไม่ใช่หรือ
ข้อต่อมาคือ หากมุ่งมั่น ตั้งใจ คิดดี เห็นชอบแล้วว่าดีว่าถูก จำนวนคนที่เห็นด้วยกับเราไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ ขอให้ตั้งใจ อดทน และพยายามชี้ให้เห็นความจริงนั้นอย่างมีหลักการด้วยความจริงใจ…ไม่วันใดก็วันหนึ่ง…โลกก็ต้องหันมา “พยักหน้า” กับเราสักวัน
สรุปว่าเริ่มต้นตั้งใจอ่านเพื่อสิ่งหนึ่ง
แต่ลงท้ายกลับได้อีกสิ่งหนึ่ง…ซะนี่
หากสนใจเรื่องของ Margaret Mead อ่านได้ที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Margaret_Mead
Next : คิด - ถึง » »
4 ความคิดเห็น
สรุปว่าเริ่มต้นตั้งใจอ่านเพื่อสิ่งหนึ่ง
แต่ลงท้ายกลับได้อีกสิ่งหนึ่ง…ซะนี่
น้องที่รัก
จากบทสรุปที่ว่านั้น พี่ขอสรุปต่อว่า น้องเริ่มจะเข้ามาอยู่รวมกับกลุ่มเฮมากขึ้นแล้ว เพราะเฮเฮ มักจะโดยแซวว่าบันทึกไปทางรูปไปทาง เขียนไปทาง คิดไปทาง เป็นเรื่องธรรมชาติ “เน๊าะ”
…..
จากวัน เวลาที่ผ่านมา ได้บทเรียนในการที่จะเรียนรู้อยู่กับตัวเอง สังคม และโลกมนุษย์ในหลายวิธีการ
แต่วิธีที่ดีที่สุด คือการรู้บทบาทหน้าที่ตนเองต่อสมมุติของสิ่งแวดล้อมที่ต่างกันออกไป
แต่แท้สุดแล้ว คนเราก็ไม่มีใครได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการทุกอย่าง เพียงแต่ขอให้เราได้เรียนรู้หน้าที่และทำในหน้าที่ของเราในแต่ละสิ่งสมมุติเท่านั้น
ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็เป็นเรื่องปกติ แต่ก็ขอให้เราได้รู้ตัวแห่งวิถีการเดินทาง เท่านั้น
…..
บางครั้งเราก็หมั่นใส้ในการทำดี คิดดีของคนอื่น ที่ไม่ถูกจริตเรา เราก็บ้าไปเอง คิดออกนอกตัวแล้วก็บ้า ไม่รู้วัน ๆ เราบ้ากันวันละกี่เวลา เลิกเรื่องบ้้า ๆ มาดูตัวเอง มันก็จะลดอาการบ้าได้บ้างเน๊าะ
ตอนนี้(พยายาม)เลิกบ้า เพราะบ้าทีไร ไม่ใช่เรื่องตัวเองทุกที
…..
แล้วเรื่องนี้ต่อยอดบันทึกน้องหรือเปล่านะ
อิอิอิ
ต่อยอดสิจ้ะ ….
บางเรื่องก็เข้ากันไปได้ ทั้งที่ไม่เกี่ยวกันนั่นแหละ…
และสำหรับบันทึกของน้อง ก็เป็นเพียง “เส้นทางของความคิด” ดังนั้นไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องเป็นบันทึกที่สมบูรณ์ เลิศเลออะไร เพียงแค่บันทึกไว้ซึ่งเส้นทางของความคิดก็แค่เท่านั้น
ดังนั้นทุกคอมเม้นท์น้องจะรู้สึกขอบคุณที่ได้ให้เกียรติในการมาอ่าน มาคุย มาให้ข้อคิด หรือแม้แต่มาให้กำลังใจ ด้วยเห็นว่ายังไม่มีใครมาอ่านหรือมาคอมเม้นท์ให้เลย ทุกคอมเม้นท์จะต่อยอดหรือไม่ต่อยอด เกี่ยวหรือไม่เกี่ยว น้องก็ดีใจและยินดีทั้งนั้น
บทบาทหน้าที่ตาม “สมมุติ” นั้น บางทีก็สำคัญมากนะคะ เพราะมนุษย์อยู่ร่วมกันก็ด้วย “สมมุติ” นี่แหละ สมมุติตั้งแต่ระดับพ่อแม่พี่น้อง ญาติมิตร เพื่อนฝูง ลูกน้อง หัวหน้า…
หากทุกคนเข้าใจและยอมรับสมมุตินั้น…จะมีปัญหาน้อยมากเลย…จริงไหมคะ
จบดีกว่า…อิ่มแล้วง่วง ๆ
คืนนี้หลับฝันดี ไม่ตกใจตื่นตอนตี 4 อย่าลืมสวดมนตร์ก่อนนอน ห่มผ้าอุ่น ๆ จะได้หลับสบายค่ะ
ช่วงนี้เป็นโจรกลับใจ
เกิดอาการแอนตี้การทำความดี
อิอิอิ
ฮา ๆ โจรกลับใจ…ซะงั้นเนาะพี่เรา