ข้าวใหม่ ปลามัน ของขวัญวันวาเลนไทน์

โดย Suchada เมื่อ 15 กุมภาพันธ 2009 เวลา 9:05 (เช้า) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 4258

สัปดาห์ที่ผ่านมาวุ่นวายกับการขายข้าวสำหรับเป็นของขวัญในเทศกาลวาเลนไทน์ จนไม่เป็นอันทำอะไร  สนุกจริงๆ เวลาที่ได้ทำอะไรที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับงานในหน้าที่ แต่เป็นเรื่องที่รู้สึกว่ามีคุณค่าและีน่าจะเป็นประโยชน์ ข้าวใหม่ปลามัน

เราตั้งชื่อโครงการนี้ว่า โครงการนำผลผลิตที่ดีจากท้องทุ่งสู่ครัวคนเมือง ตั้งใจให้เป็นหนึ่งในโครงการรับผิดชอบต่อสังคมของ SCG โดยในเบื้องต้นนี้ก็ทดลองทำเล็กๆก่อน เริ่มจากสินค้าข้าว

ที่มาของเรื่องนี้เกิดจากการพาพนักงานจากกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ SCG paper  ไปเข้าค่ายเรียนรู้ที่สวนป่าฯ หลายคนติดใจในความหอม นุ่ม อร่อยของข้าวต้มร้อนๆ และถามกันว่าเป็นข้าวพันธุ์อะไร จะหาซื้อได้ที่ไหน … สุดท้าย พ่อครูบาฯ ก็เลยฝากโจทย์จากชุมชนเป็นการบ้านก่อนกลับ จะออกแบบกล่องบรรจุสินค้าอาหารหรือพืชผักต่างๆ ให้เหมาะต่อการขนส่ง ปลอดภัย ประหยัดและคงความสดของอาหารได้นานที่สุดได้อย่างไร …. กระดาษจะมีส่วนช่วยยกระดับการดำรงวิถีไทย ให้อยู่ได้ อยู่ดี อยู่รอด อย่างไร

เสียงตอบรับจากคนที่ได้ลองลิ้มชิมรสความหอม นุ่ม อร่อย ของข้าวต้มร้อนๆ  ที่ทดลองนำมาขายในหมู่คนกันเองช่วงเทศกาลปีใหม่ทำให้เกิดโครงการต่อเนื่องมาถึงวันวาเลนไทน์ โดยเราคิดว่าน่าจะดีและเป็นไปได้ ที่จะเปลี่ยนวัฒนธรรมการให้ช้อคโกแล้ตและดอกกุหลาบ มาเป็นการให้ข้าวแทน …. ข้าวพิเศษที่เปิดโอกาสให้คนไทยได้ช่วยเหลือกันอย่างพอเพียง ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและผลผลิตในระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน อิ่มท้อง อิ่มใจ ทั้งผู้ให้และผู้รับ

การเดินทางไปยังสวนป่าฯเพื่อดูแลการบรรจุข้าวลงกล่องในระหว่างวันที่ 7-9 ก.พ. ทำให้ได้เรื่องราว การเรียนรู้มากมาย เช่น

  • ราคาข้าวเปลือกที่ปรกติชาวนาขายให้โรงสี ถูกมากๆ เมื่อเทียบกับราคาข้าวที่เราซื้อกันในท้องตลาดปัจจุบัน ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะมีการประกันราคา แต่ในความเป็นจริง เมื่อชาวนาขนข้าวไปหน้าโรงสีแล้ว หากเขารับซื้อในราคาที่ต่ำกว่าราคาประกัน ก็จำเป็นต้องขาย (เพราะไม่คุ้มกับค้าใช้จ่ายในการขนกลับ และที่สำคัญ …. มีหนี้สินที่รอการชำระอยู่ ต้องรีบขาย)
  • การฝัดข้าวต้องใช้ทักษะและความชำนาญ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่นับวันจะสูญหายไป เพราะปัจจุบันในโรงสีขนาดใหญ่มีอุปกรณ์ที่ช่วยคัดแยกข้าวที่ทันสมัย ทำให้ไม่ต้องมาคัดแยกด้วยมือ
  • ข้าวที่มาจากโรงสีเล็กดีตรงที่ สามารถสีครั้งละน้อยๆ หากกะปริมาณให้สามารถรับประทานภายใน 15 วันหลังขัดสี ข้าวจะคงความสดและหอม ไม่ต้องกังวลเรื่องมอด จึงไม่ต้องใส่ยากันมอดเหมือนในโรงสีใหญ่

การฝัดข้าว

สุดท้าย  เก็บภาพบรรยากาศการขายข้าวใน SCG มาฝากค่ะ งานนี้เราวัดผลความสำเร็จเป็นรอยยิ้มและความสุขใจของคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตั้งแต่ชาวนาที่เอาข้าวมาให้เราขาย ไปจนถึงคนที่ได้รับประทานข้าวต้มร้อนๆ หอม อร่อยในวันวาเลนไทน์ โดยรวมก็น่าจะได้ประมาณ 1,000 คน ซึ่งล้วนชื่นมื่นกันถ้วนหน้า ทำให้มีกำลังใจที่จะก้าวต่อไป และ ต่อไป …..

บรรยากาศลองชิม


« « Prev : เปิดลานคุณภาพ

Next : คุณภาพที่ปลายน้ำ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

22 ความคิดเห็น

  • #1 Lin Hui ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 กุมภาพันธ 2009 เวลา 11:26 (เช้า)

    น้องดาค่ะ มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับข้าวค่ะ พี่ดีใจมากค่ะที่ SCG ได้ริ่มโครงการนี้กับท่านครูบาฯ ซึ่งท่านปรึกษาเรื่องนี้กับพี่ด้วยค่ะ พี่อยากให้  SCG ทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าวันเกิด วันที่อยากเกิด วันที่อยากรัก เราส่งข้าวไปแทนควมรักความห่วงใย ท่านป่วยเราไปเยี่ยมท่านพร้อมข้าวที่สดใหม่ แทนความห่วงใย เราส่งข้าวที่อัดแน่นด้วยความห่วงใยมาเยี่ยมหลังพักฟื้น ทำเแพคเกจจิ้งให้แตกต่างตามวาระ ขนาดที่กระทัดรัด พร้อมคำแนะนำในการรักษาไม่ให้มอดขึ้น หากจะเก็บไว้นานเก็บในตู้เย็น อุณภูมิ 8 องศา มอดก็ไม่สามารถแพร่พันธุืได้แล้วค่ะ เอาไว้มีโอกาสเจอกัน คงมีอะไรหลายๆ อย่างได้ร่วมด้วยช่วยกัน แบบสหเฮดค่ะ

  • #2 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 กุมภาพันธ 2009 เวลา 12:21 (เย็น)

    ดีจังเลยค่ะ ต้องช่วยกันสนับสนุนนะคะ เห็นพี่ส้มในรูปด้วยค่ะ ฝากสวัสดีด้วยนะคะ ^_^

  • #3 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 กุมภาพันธ 2009 เวลา 12:44 (เย็น)

    อยากกินมั่งๆๆๆๆ  อิอิ

  • #4 แป๋ว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 กุมภาพันธ 2009 เวลา 4:49 (เย็น)

    เป็นโครงการที่ดีมากๆเลยค่ะ ชื่นชม ชื่นชม

  • #5 Suchada ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 กุมภาพันธ 2009 เวลา 8:52 (เย็น)

    ดีจังเลยค่ะ พี่ Lin Hui (ขออนุญาตเรียกพี่นะคะ) เรื่องข้าวนี่ดารู้สึกว่าตัวเองยังมีความรู้น้อยมาก
    แต่ยิ่งได้เข้าไปเกี่ยวข้องก็ยิ่งรู้สึกอยากทำ อยากหาความรู้เพิ่ม รู้สึกโชคดีที่มีหลายเสียงพร้อมจะร่วมด้วยช่วยกัน
    เข้าไปอ่านบันทึกที่เกี่ยวกับ ข้าว การหุงข้าว ในลานทับทิมแล้วด้วยค่ะ ได้ความรู้มากมาย
    ชอบคำว่า สหเฮด จังเลย  ^_^

  • #6 Suchada ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 กุมภาพันธ 2009 เวลา 8:54 (เย็น)

    #2 krupu ขอบคุณค่ะ…. แล้วจะบอกพี่ส้มให้นะจ๊ะ (อุ๊ย! มีรูปโผล่มาด้วย รู้ด้วยความบังเอิญ อีกแล้ว อิอิ)

  • #7 Suchada ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 กุมภาพันธ 2009 เวลา 8:58 (เย็น)

    สิ้นเดือนนี้ที่สวนป่าฯ ไงคะ …. คุณหมอจอมป่วน ได้กินแน่ๆๆๆๆๆ
    (แต่ดายังไม่รู้เลย ว่าจะไปได้รึเปล่า กำลังลุ้นนนน ค่ะ)

  • #8 Suchada ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 กุมภาพันธ 2009 เวลา 9:00 (เย็น)

    เราแอบนับ อาจารย์แป๋ว เป็นหนึ่งในสหเฮดแล้วล่ะ  อิอิ
    ขอบคุณนะคะ ที่แวะมาให้กำลังใจ

  • #9 สิทธิรักษ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 กุมภาพันธ 2009 เวลา 12:07 (เช้า)

    มาหนับหนุนด้วยคน

  • #10 sompornp ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 กุมภาพันธ 2009 เวลา 9:26 (เช้า)

    รอกินข้าวด้วยที่สวนป่าสิ้นเดือนนี้
    อิอิอิ

  • #11 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 กุมภาพันธ 2009 เวลา 8:38 (เย็น)

    มาชื่นชมกับกิจกรรมที่เกิดจาก ใจที่พร้อมจะให้แก่ผู้อื่นค่ะ
    น้องดาลองฝัดข้าวบ้างหรือยังคะ อิ อิ

  • #12 Lin Hui ให้ความคิดเห็นเมื่อ 16 กุมภาพันธ 2009 เวลา 8:47 (เย็น)

    น้องดาค่ะ พี่เข้าไปตรวจเรื่องข้าวที่เขียนในลานทับทิมมี่เหลือแค่อันเดียว เลยเอาสารบัญของพี่ในG2K มาให้ค่ะ มีเขียนไว้หลายอันค่ะ ลองเข้าไปเลือกอ่านดูนะค่ะ
    http://gotoknow.org/blog/remotesensing/toc

  • #13 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 19 กุมภาพันธ 2009 เวลา 12:38 (เช้า)

    อยากชิมเหมือนกันแหละ  หุหุ

  • #14 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 กุมภาพันธ 2009 เวลา 6:29 (เช้า)

    เรื่องนี้เป็นกรณีตัวอย่างที่น่าจะนำเสนอในงานระพีเสวนาเดือนพฤษภาคม

    ในมิติที่ว่า..

    • การคิดดี ทำดี จะเริ่มได้ยังไง โดยที่ไม่มากดทับงานประจำของเรา
    • คิดแล้วทำ จะช่วยเปิดวามคิดให้กว้าง ไกล เป็นอะไรๆออกไปอย่างน่าพิศวง
    • ตั้งต้นที่ข้าว+ใจ = x ประทับใจ++++x~~ไปเรื่อยๆ
    • การที่เราสามารถแจกจ่ายความประทับใจให้ใครๆ เริ่มที่ 1,000 คน ไม่น้อยเลยละ
    • ความประทับใจที่อร่อย เท่ากับผลิตความสุขไปยังผู้ที่ได้ชิมไม่น้อยกว่า 5,000 ชีวิต
    • จุดเริ่มต้น ..น่าสนใจพอๆกับเบื้องหลังการถ่ายทำ ขอให้เก็บรายละเอียดผ่านการบันทึกในลานปัญญาไว้
    • การทำความดี ให้เป็นความงาม จะงดงามในความรู้สึกของผู้คนทุกระดับ ชาวนา คนที่ช่วยคัดข้าว ฟัดข้าวนั่งเก็บเมล็ดข้าวเสียทิ้ง บรรจุ ช่าง ใส่เอกสาร ปิดกล่อง เห็นแล้วบอกไดเลยว่านี่แหละการทำบุญ เกิดผลที่ใจ ไม่ต้องรอชาติไหน ชาตินี้แหละ ถึงเหนื่อยก็ปลื้มๆ จับกระแสความสุขได้จากน้ำเสียงที่โทรมาบอก..ขายข้าวหมดแล้ว เป็นความอิ่มใจของผู้ที่ได้รับความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ โครงการแจกข้าวแทนดอกกุหลาบ
    • ถ้าคิดให้ดี..ลึกซึ้งนัก ลึกจนลงไปนอนกลิ้งอยู่ในความคิดคำนึง ถ้าผู้ที่เกี่ยวข้องได้อ่านบันทึกของคนขายข้าว ทุกคนจะเกิดความยินดีทั้งๆที่ไม่ได้รับดอกกุหลาบ และมันเป็นอะไรที่มากกว่านั้น ที่สำคัญมันเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมของเราเข้ากับกาลเวลาประเพณีของสากล
    • นี้คืออเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ลงตัวมาก “คิดได้ไง” ก็เกิดจากจุดเล็กที่เต็มไปด้วยความชุ่มเย็นแห่งน้ำใจ ที่เอาดอกกุหลาบทั้งโลกมาแลกก็ไม่ยอม เพราะเป็นการร่วมทุกข์ร่วมสุขกับสังคมของโครงการนำผลผลิตที่ดีจากท้องทุ่งสู่ครัวคนเมือง ตั้งใจให้เป็นหนึ่งในโครงการรับผิดชอบต่อสังคมของ SCG
    • ถ้าเราผลิตความภาคภูมิใจให้เกิดขึ้นในหมู่ของชาว SCG ฐานแห่งความดีเพื่อสังคม ที่เกิดขึ้นในจุดที่เหมาะสม พอดี พอเหมาะ พอควร อะไรที่พอดี อยู่ตรงไหน ไม่ทำไม่รู้หรอกนะ ความดี ความงามมันซ่อนอยู่ หาไม่เป็นก็ยากที่จะพบ ที่ซ้าร้ายเงินซื้อไม่ได้เสียด้วย เงินซื้อข้าวได้ แต่ถ้าซื้อข้าวแบบธรรมดาๆ มันก็ธรรมดา  ถ้านำไปซื้อข้าวพิเศษในกล่องสีแดงๆ ความพิเศษจะเริ่มก่อหวอดที่ละนิด ข้าวพิเศษที่มีพลังแห่งมิตรไมตรีที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ กุศลที่เกิดจากใจที่เป็นสุข ..อาจจะค้นพบได้หลายวิธี และเรื่องนี้ก็เป็นเชิงประจักษ์ที่ลงตัวมาก นับไปหนึ่งสไตล์ของชาว SCG ได้
    • ดีใจด้วย ดีใจหลาย เฮ้อ! นานๆจะมีเรื่องให้ปลาบปลื้มเช่นนี้ ขอให้ยิ้มชื่นไปตลอดปีตลอดชาติ
  • #15 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 กุมภาพันธ 2009 เวลา 6:39 (เช้า)

    เมื่อสมาชิกมากขึ้นๆๆ  ทำให้จำชื่อลานโน้นลานนี่ไม่ไหว ถ้าเปลี่ยนเป็นชื่อลานที่มีเอกลักษณ์หน่อยจะจำง่าย
    เช่น ลาน SCG <  < ลานแม่ค้าข้าว  << ลานสุชาดา ชื่อตรงกับนางในพุทธประวัติเลยนะนี่  นางเอาข้าวไปถวายพระพุทธเจ้า แล้วลอยถาดอธิฐานในแม่น้ำ..

  • #16 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 กุมภาพันธ 2009 เวลา 6:44 (เช้า)

    ไปตรวจดูข้าวในตลาดดูไบ พบราคาข้าวไทยถูกเบียดไปอยู่อันดับ 3-4
    แสดงว่า แม้แต่ในตลาดโลก เราก็อ่อนด้อยเรื่องการค้าการขาย
    น่าตั้งโจ้ให้เป็นอธิบดี ดูแลการส่งออกสินค้าไทย
    ของดีๆ เอาไปขายเป็นของโหล
    ไทยหนอไทย ..ผสมข้าวอะไรไปขาย ทำลายกันเองทั้งนั้น

  • #17 Suchada ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 กุมภาพันธ 2009 เวลา 11:05 (เย็น)

    ขอบคุณพ่อครูบาฯ เดี๋ยวดาจะส่งต่อให้ทีมงานอ่าน จะได้ชุ่มชื่นหัวใจ
    งานรอบนี้ผ่านไปได้ด้วยดีก็เพราะการสนับสนุนจากหลายฝ่ายจริงๆ ค่ะ
    เริ่มมีคนถามกลับมาว่า …. ชิมข้าวแล้วติดใจ จะหาซื้อได้ที่ไหน อย่างไร
    คงต้องหาเวลา ไปนั่งปรึกษาหารือกัน ถึงก้าวต่อไป … ไม่รีบ แต่ ไม่หยุดค่ะ

  • #18 somphol ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 กุมภาพันธ 2009 เวลา 9:19 (เช้า)

    ผมได้ทานข้าวใหม่อันหอมหวาน อีกทั้งได้รับฟังเรื่องราวของผู้คนที่ทำให้ข้าวใหม่มาถึงมือผม
    ขอคารวะความมุ่งมั่นตั้งใจอันดีงามของทุกคนที่ร่วมกันสร้างสรรค์เรื่องดีดีเช่นนี้ให้เกิดขึ้นในเวลานี้
    และก็ขอเป็นหนึ่งในผู้คนที่ถามกลับมาว่า ชิมแล้วติดใจ จะหาซื้อได้ที่ไหน หรือจะต้องเป็นสมาชิก
    ชมรม “ข้าวใหม่ปลามัน”

  • #19 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 กุมภาพันธ 2009 เวลา 8:10 (เช้า)

    กำลังจะเข้ามาโพสต์คำถามเดียวกับคุณ สมพลด้านบนเลยค่ะ 
    ไม่แน่ใจว่าจะยุ่งยากเรื่องการบริหารจัดการหรือเปล่า หากมีจำหน่ายที่สวนป่า ฯ ด้วยก็จะเป็นการประชาสัมพันธ์ได้หลายกลุ่มและส่วนใหญ่น่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายเสียด้วยนะคะ ^_^

  • #20 Suchada ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 กุมภาพันธ 2009 เวลา 9:26 (เช้า)

    ขอบคุณพี่สมพล ที่แวะเวียนเข้ามาทักทายให้กำลังใจนะคะ 
    ชื่อชมรม “ข้าวใหม่ปลามัน” เข้าท่าดี

  • #21 Suchada ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 กุมภาพันธ 2009 เวลา 9:34 (เช้า)

    น้องครูปูจ๋า เช้านี้ก็มีชาว SCG ที่อยู่ระยองโทรศัพท์มาถามคำถามนี้
    ข้าวชุดนี้ใครกินแล้วก็ติดใจ ก้าวต่อไป คงต้องเริ่มคิด เริ่มทำ แล้วล่ะ
    เรื่องความยุ่งยากถ้ามี ก็ค่อยๆ แก้กันไป

  • #22 Goonchieng ให้ความคิดเห็นเมื่อ 10 มีนาคม 2009 เวลา 3:00 (เย็น)

    ขอเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนโครงการนี้ค่ะ อุดหนุนมาตั้งแต่โครงการแรก ได้รับเสียงชื่นชมมากมาย ว่าข้าวหอมจัง เคี้ยวหนุบหนับดี หลังๆ เริ่มมีการเรียกสินค้าตัวนี้ว่า “ข้าวปูน” ก็แปลกหูดีค่ะคนอื่นฟังแล้วก็คงคิดว่าแล้วมันจะกินได้ไม๊เนี่ย พอเกิดโครงการข้าวใหม่ปลามัน ก็อุดหนุนอีกรอบ ขยายวงกว้างขึ้นในบริษัท อยากให้คนอื่นๆ ได้สัมผัสของดีบ้าง เสียงชื่นชมก็ยังมีกลับเข้ามาตลอดค่ะ เหมือนเดิมคือ ข้าวหอมมาก แม่ชอบมาก เอาไปทำข้าวต้มแล้วอร่อยสุดสุดเลย (ฟังเค้าแล้วต้องรีบกลับไปบอกให้ที่บ้านทำบ้าง เพราะยังไม่เคยต้ม ลองแต่ข้าวสวย) ผลิตออกมาตามเทศกาลต่างๆก็ดีค่ะ เป็นของขวัญที่คนให้ก็ชุ่มชื่น คนรับก็ชื่นใจค่ะ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 2.1189930438995 sec
Sidebar: 0.30905389785767 sec