ชอบแบบไหนก็ทำแบบนั้น

โดย อุ๊ยสร้อย เมื่อ มีนาคม 9, 2011 เวลา 6:27 (เย็น) ในหมวดหมู่ การเรียนรู้ชีวิต #
อ่าน: 31502

มองย้อนอดีตไปในช่วงเรียน
รู้สึกว่าสนุกตอนที่ทำวิจัยและได้ปรึกษาอาจารย์ชาวต่างประเทศ
อาจารย์จะกำหนดเวลาตกลงร่วมกันเรื่องทำงาน นัดหมายแล้วมั่นใจได้ว่าจะได้พบและประเด็นที่จะคุยกันก็ทำการบ้านไปก่อน อภิปรายกันแต่ละครั้งงานก้าวหน้าไปเรื่อยๆ
แย้งกันบ้าง เห็นด้วยบ้าง
คุยกันเรื่องงานจบก็นัดครั้งต่อไป

วิธีการแบบนั้นทำให้มีความก้าวหน้าในการเรียนและได้เรียนอย่างสนุกด้วย

ย้อนนึกถึงประสบการณ์การเรียนของตัวเองก็ว่าโชคดีที่ได้เจอครูดี ได้เห็นแบบอย่างของการมีวินัยเรื่องงาน และการฟัง การยอมรับในความเห็นของคนอื่น จนถึงการที่เราจะมีความเห็นของตัวเองบนพื้นฐานของเหตุและผล…

สัปดาห์นี้สอนนักศึกษาสวีเดน..ใช้การอภิปรายและให้ดูของจริงในการฝึกปฏิบัติ จบบทเรียนแต่ละวันก็ให้สะท้อนคิดการเรียนรู้ คล้ายๆกับที่พยายามทำกับนักศึกษาไทย ..ก็พบว่านักศึกษาสวีเดนสะท้อนการเรียนรู้ของตัวเองด้วย แผนที่ความรู้ และนำเสนอชัดเจนทุกแง่ทุกมุม ได้แลกเปลี่ยนวิธีการเรียนของเขา เขาบอกว่าในประเทศของเขานั้นนักศึกษาจะเรียนในห้องเรียนน้อยกว่าเรียนด้วยตัวเอง การเรียนด้วยตัวเองทำให้เขาต้องอ่านหนังสือมากและต้องคิดวิเคราะห์เนื้อหา ทำให้เขาพัฒนาทักษะการคิดเชิงเปรียบเทียบ และมีเหตุผลได้ด้วยตัวเอง

ขณะอภิปรายสังเกตว่า เด็กฝรั่งนี้ เวลาที่เราให้เขาพูด..เขาจะคิดก่อนพูด เป็นตัวของตัวเอง กล้าที่จะแสดงความเห็นที่แตกต่างด้วยเหตุผล และมีธรรมชาติของการสนใจสิ่งรอบตัว ..และสนใจเก็บเกี่ยวประสบการณ์ มาอยู่เมืองไทย 3 เดือน เธอทั้งสองไปเที่ยวภาคใต้มาแล้ว ไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวอีกหลายๆที่ มาสองคนแต่บางทีก็ไปเที่ยวคนเดียว บางทีก็ไปเที่ยวด้วยกัน มีความกล้าหาญและดูแลตัวเองได้ดี

อดไม่ได้ที่จะนึกเปรียบเทียบการสอนนักศึกษาคนไทย และประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่มาเรียนในหลักสูตรที่ตัวเองรับผิดชอบ

นักศึกษาไทยส่วนมากยังมีวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่ขาดๆ เกินๆ

ที่ขาดคือการเป็นตัวของตัวเองเชิงวิชาการ คือยังไม่เข้าใจว่า ส่วนไหนเป็นเรื่องที่วิเคราะห์สังเคราะห์เองได้ ส่วนไหนที่พูดลอยๆ ไม่ได้ต้องอ้างอิงหลักฐานเชิงประจักษ์ และเวลาให้ออกความเห็น จะบอกไม่ค่อยได้ว่า เห็นเหมือนหรือเห็นต่างอย่างไร เมื่อสะท้อนคิดก็ยังยึดติดที่เนื้อหา บอกไม่ค่อยได้ว่าแล้วเรียนรู้อะไรบ้าง และอยากเรียนรู้อะไรเพิ่ม

ที่เกินคือ ข้อมูลเนื้อหามักจะมากเกินไป แต่ไม่สามารถสะกัดประเด็นได้ว่าอะไรคือประเด็นหลัก

ส่วนนักศึกษาจากประเทศเพื่อนบ้าน มาเรียนระยะแรกมักจะเหนียมๆ ไม่ค่อยกล้าพูด ยกอาจารย์เป็นปูชนียบุคคล จนไม่กล้าให้ความเห็นที่แตกต่าง กับอาจารย์และกับคนอื่น

นั่งคิดทบทวนและก็วางแผนต่อไว้คร่าวๆ ว่าปีการศึกษาหน้านี้ คงมีงานที่ต้องทำอีกมาก ที่จะปรับกระบวนการเรียนการสอนของนักศึกษา(ไทย) อย่างไร ให้อยู่ในห้องเรียนลดลงไปอีกนิด  จัดให้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองเพิ่มอีกหน่อย ให้ทำแบบการวิเคราะห์เพิ่มอีกส่วน …

คงต้องวางแผนทีมงานให้พอดีๆ ด้วยเพราะส่วนนี้ ก็มองไม่ค่อยเหมือนกันอยู่บ้าง …คงต้องขอทีมงานกลั้นหายใจ ปล่อยนักศึกษาให้เขาได้ลองผิดลองถูกบ้าง ไม่ต้องโอบอุ้มไว้ทุกเรื่อง

อืม…นึกถึงทีมงานแล้วคิดว่า คงต้องค่อยๆ หล่อเลี้ยงทีมงานกันไปสักพัก…ตัวเองก็คงต้องอดทนกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการจัดการเรียนรู้แบบนี้ (อีกตามเคย)…

แต่เท่าที่ดูผลการปรับเปลี่ยนทีละน้อยๆ แบบนี้มาบ้างแล้ว…ดูจะไม่เลวเท่าไหร่ เพราะสองสามปีที่ผ่านมาตั้งแต่รับงานเป็นประธานกระบวนวิชาฝึกปฏิบัติส่วนหนึ่ง ก็ปรับเปลี่ยนไปหลายเรื่องพร้อมๆกัน เสียงสะท้อนของนักศึกษาค่อนข้างออกมาดี แหล่งฝึกต่างๆ สนใจเข้ามามีส่วนร่วมดูแลนักศึกษามากขึ้น การผลักดันให้มีการเจรจาระหว่างคณะและแหล่งฝึกก็ก้าวหน้าจนถึงขั้นมีการลงนามความเข้าใจ MOU ระหว่างคณะกับแหล่งฝึก ที่ดูทีท่าปีต่อๆ ไปแหล่งฝึกจะมีมาตรฐานมากขึ้น และมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอนของนักศึกษามากขึ้น และคณะฯเองก็ให้ความสนใจในกระเด็นต่างๆ ที่นำเสนอมากขึ้น ไม่ว่าเรื่องที่เสนอให้มีการจัดโครงการสร้างเสริมด้าน จริยธรรม พฤติกรรมวิชาชีพ ของนักศึกษาที่ต่อเนื่องทุกปี การดูแลเรื่องสุขภาพของนักศึกษาแบบองค์รวมฯลฯ และรวมทั้งการดูแลเอาใจใส่คนทำงานในด้านที่หมอจอมป่วนเรียกว่า soft side มากขึ้น

คิดไว้แล้วก็คงค่อยๆทำไปตามกำลัง ส่วนไหนที่อาจจะขอแรงใครบ้าง แถวๆ ลานนี้ ก็คาดว่าคงไม่มีใครรังเกียจที่จะมาช่วยนะคะ

ช่วยให้ความเห็นบ้าง ก็ดีนะคะ …เรื่องการศึกษานี้ บางทีก็เหมือนบอดคลำช้าง บางทีก็ปรับเปลี่ยนไม่ทันกระแสสังคม…ได้  input หลายๆแง่มุม ก็คงดีกว่าคิดเองเออเองเหมือนกันค่ะ

คนทำงานด้านการศึกษา ก็อย่างนี้กันแหล่ะคะ .

หยุดไม่ได้..อดไม่ได้หรอกค่ะว่าจะปรับตรงโน้นตรงนี้ …ประโยชน์ก็ของคนเรียนและคนรับบริการในอนาคต …

คติประจำตัวคือ นิ่งคือเน่า…การศึกษาถ้านิ่งเมื่อไหร่ ..ก็เน่าเมื่อนั้น..ฉันใดก็ฉันเพลนะคะ….อิอิ

หัวข้อวิจัยนี้ทำได้ไหม...

« « Prev : บวก

Next : เสียภาษีปี 2553 » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6813 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 8.1840028762817 sec
Sidebar: 0.036333084106445 sec