คนไทยชอบการให้ แบบไม่มีเงื่อนไข

ไม่มีความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 20 March 2011 เวลา 7:58 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2419

ภาพให้กำลังใจโดยฝีมือคนไทย :)

ผมเขียนบทความนี้ในฐานะเป็นคนทำงานภาคเอกชน องค์กรธุรกิจ ที่ไม่ได้มีหน้าที่หลักในการทำสิ่งต่างๆเพื่อสังคม แต่เมื่อมีโอกาสได้เห็นภัยพิบัติต่างๆที่เกิดขึ้น จึงเกิดความเสียใจต่อผู้ประสบภัยอย่างมากและคิดว่าด้วยความสนใจส่วนตัว จะขอใช้ความรู้ ประสบการณ์ที่มี เพื่อคิด ทำ และ ลองมองหาลู่ทางต่างๆที่พอจะเป็นอีกแรงเล็กๆในสังคมช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้ต่อไปในอนาคตนะครับ

เมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือ ภัยพิบัติ ความสนใจของคนจะพุ่งไปที่ “สื่อ” โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ ในช่วงที่เครื่องบินชนตึกที่ World Trade Center เมื่อผู้คนเห็นภาพอันน่าโศกเศร้า หลายคนก็ยินดีบริจาคผ่านสื่อกันมากมาย จนเกิดศัพท์คำว่า CNN Effect กระตุ้นให้เกิดการบริจาคได้ทันที เช่นภัยพิบัติหลายครั้งที่ผ่านมา ดังนั้นสื่อจึงมีบทบาทสำคัญในการระดมเงินบริจาคโดยเฉพาะสือโทรทัศน์ช่องข่าวที่มีการรายงานข่าวอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงและมีผู้ชมเป็นจำนวนมากจะมีบทบาทสูงที่สุด

ในประเทศไทย เรื่องดารา คนดัง ก็มีบทบาทสูงในการระดมเงินบริจาค นักแสดงหลายท่านจัดโชว์ จัดคอนเสริท โดยไม่คิดค่าตัว ออกงานร่วมรับบริจาคโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ถือเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม

ประชาชนทั่วไปใครจะบริจาคเท่าไหร่ ไปที่ไหน เพื่ออะไรก็เป็นไปตามจิตศรัทธาของแต่ละท่านซึ่งมักจะไม่มีข้อจำกัดใดๆ แต่ในส่วนของภาคธุรกิจมักจะมีข้อจำกัดอันได้แก่ กิจการที่มีผู้ถือหุ้น, กิจการที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ กรรมการที่บริหารบริษัทจะต้องคำนึงถึงข้อจำกัดเช่น ความสัมพันธ์ต่อผู้ถือหุ้นอาจจะดีถ้าบริจาคน้อย แต่ความรับผิดชอบต่อสังคมที่น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับกำไรที่ได้รับจากสังคม ก็อาจจะมีผลต่อธุรกิจได้เพราะลูกค้าก็คือคนในสังคมนั่นเอง แต่ทั้งนีั้ยังมีแรงจูงใจอีกประการหนึ่งคือ มาตรการทางภาษี เช่น กรณีภัยพิบัติต่างๆ ทางกรมสรรพากรมักจะมีประกาศให้บริษัทนำกำไรส่วนหนึ่งไปเป็นค่าใช้จ่ายในการลดหย่อนภาษีได้ เช่น 10% เพื่อให้เห็นภาพลองสมมติว่า หากบริษัทแห่งหนึ่งมีกำไรปีละ 500 ล้านบาท แทนที่จะต้องเสียภาษี 25% ทั้งหมด สามารถเลือกที่จะคำนวณดูว่าจะนำเงินไปบริจาคช่วยเหลือสังคมได้หลากหลายและมากมาย เมื่อมีอีกหลายบริษัทในส่วนนี้จะเป็นความคล่องตัวสูงของผู้บริหารในบริษัทเหล่านี้ที่จะคาดการณ์วางแผนเพื่อนำภาษีนี้ไปใช้ช่วยเหลือสังคมได้เป็นอย่างดี

หากเป็นบริษัทเล็กๆที่กำไรน้อยๆแต่อยากช่วยสังคม อาจมีปัญหาบ้างเพราะกรมสรรพากรจะถือรายจ่ายส่วนที่เกินข้อกำหนดเป็นรายจ่ายต้องห้าม หรือถ้าบริษัทใหญ่ส่วนมากมักมีงบการตลาดจำนวนมาก เงินมหาศาลนี้หากนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์เช่นแทนที่จะซื้อสื่อหรือจัดกิจกรรมธรรมดาๆ หากนำเพื่อการช่วยเหลือสังคมได้อย่างเหมาะสมก็จะเกิดแรงผลักดันมหาศาล แต่ในส่วนนี้ก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่นักการตลาดหลายคนที่จะแตะประเด็นนี้ ต่างใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูง โดยเฉพาะมุมมองความรู้สึกของสังคมที่มองเข้ามา

ในมุมมองส่วนตัว ผมคิดว่าในนามบุคคลหรือองค์กรหากทำด้วยความหวังดี ปรารถนาดี และมีความตั้งใจ จะได้ผลลัพธ์มากหรือน้อยย่อมดีทั้งนั้น โดยเฉพาะที่มีคนชอบพูดกันว่า “ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย” ไม่ว่าคุณจะเป็นร้านค้า, ร้านอาหารที่ตั้งกล่องรับเงินทอนเพื่อไปบริจาค แม้กระทั่งซองที่เหน็บไว้บนที่นั่งของเครื่องบินโดยเฉพาะสายการบินต่างประเทศเพื่อขอเงินจากทุกสกุลที่ไม่ต้องการแลกคืนเพื่อนำไปบริจาค การให้ใช้สถานที่เพื่อเป็นจุดรับบริจาคและชักชวนพนักงาน, นักเรียน, นักศึกษา, ศิลปิน ฯลฯ มาร่วมแรงร่วมใจกันล้วนเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น ข้อเสนอส่วนตัว มี “เคล็ดลับเล็กๆน้อยๆ” ของผมที่จะทิ้งท้ายไว้ เป็นแง่มุมที่อาจจะ “ซื้อใจ” คนไทยได้ในเชิงการตลาดแนวนี้ หากคุณจะเป็นตัวกลางช่วยระดมความช่วยเหลือรับบริจาคครั้งใดลองพิจารณา…

1.) ประเดิม เช่น เลดี้ กาก้า บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในญี่ปุ่น 11 ล้านดอลล่าห์ (ราว 330 ล้านบาท) แล้วจึงขยายผลด้วยการทำสายรัดข้อมือ We Pray for Japan ออกจำหน่ายเพื่อหาเงินไปสมทบอีกทาง

2.) สมทบ ถ้างบไม่มาก สามารถร่วมสมทบทุนกันแทนก็ได้ครับ แต่ไม่ควรประกาศเป็นเงื่อนไขจะได้ใจกว่า

เช่น คุณจัดงานการกุศลแล้ว Raised Fund ได้ 1 ล้านบาท ตอนจบงานอยู่มี CEO เดินมาขอสมทบอีก 1 แสนบาท เป็นเซอร์ไพรส์

แค่นี้ก็หล่อแล้ว!

ผมขอสรุปแบบฟันธงโดยไม่กลัวธงหักกันไปเลยว่า “คนไทยชอบการให้แบบไม่มีเงื่อนไข” ถ้ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วใครช่วยอย่างสร้างสรรค์ ถ้าเป็นบริษัทก็มีการเชิญชวนพนักงาน, ลูกค้า และสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมด้วย แล้วตัวเองก็จ่ายร่วมไปด้วย หรือถ้าเป็นคนดังก็มีการเปิดโอกาสให้แฟนๆเข้ามามีส่วนร่วมด้วยแบบนี้ ผลลัพธ์จะขยายได้ใหญ่ขึ้นและ “ได้ใจ” ไม่ถูกข้อครหาตามมาด้วยครับ


ไฟฉาย ยามฉุกเฉิน

2 ความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 18 March 2011 เวลา 12:15 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 3789

ซื้อไฟฉายแบบมัลติฟังก์ชั่น มาเก็บไว้ใช้เผื่อฉุกเฉิน ด้านหน้าเป็นไฟฉาย ด้านบนที่ด้ามจับเป็นไฟกระพริบสีแดงๆและยังเปิดเสียงแบบไซเรนได้ด้วย พร้อมแผงโซล่าเซลเล็กๆ ไว้สำหรับชาร์ทแบตเตอรี่ตอนกลางวัน ด้านซ้ายเป็นวิทยุ FM มีเสาอากาศ วอลุ่ม ปุ่มจูนหาคลื่น พร้อมช่องจ่ายไฟชาร์จเข้าโทรศัพท์มือถือ ส่วนด้านขวามีมือหมุนสำหรับชาร์จไฟเข้าในยามฉุกเฉินอีกด้วย

ยี่ห้อ Nduro ชื่ออุปกรณ์ Hand-Winding Charge solar Flashlight Radio

ผลิตในประเทศจีน นำเข้าโดย IT City ราคา 590 บาท ถ้าใครมีรุ่นอื่นแนะนำช่วยแชร์กันด้วยนะครับ


ภูเขาไฟฟูจิ มีโอกาสปะทุขึ้นอีกหรือไม่?

1 ความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 17 March 2011 เวลา 4:35 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2539

ฟูจิ เป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ภูมิทัศน์สวยงามมาก และอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวที่เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นราว 90 ไมล์ แต่ภูเขาลูกนี้ก็ยังเป็น active volcano ซึ่งทางรัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้ศึกษามานานแล้ว

คณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นจึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาในเดือน July ปี 2001 เพื่อศึกษาและทำแผนที่ว่าหากภูเขาไฟฟูจิเกิดระเบิดขึ้นอีกจะเกิดอันตรายในบริเวณใดได้บ้าง เพื่อหามาตรการลดความสูญเสีย การศึกษานี้อิงจากการระเบิดครั้งก่อนในปี 1707 โดยการศึกษาการกระจายของเถ้าถ่าน พบว่า ญี่ปุ่นจะต้องเตรียมรับมือกับการระเบิดของภูเขาไฟฟูจิในครั้งหน้าซึ่งอาจมีความรุนแรงที่สุดในรอบ 2,200 ปี แรงกว่าครั้งก่อนเป็น 10 เท่า (Naomichi Miyaji, 1992) และเป็นที่น่าเสียใจว่ารายงานสรุปจากทางรัฐบาลญี่ปุ่นว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อน ภูเขาไฟฟูจิคงจะปะทุสักวันหนึ่งวันใดก็ได้ (เลย zero-hour มาแล้ว) เนื่องจากผ่านมาแล้วราว 300 ปี โดยประเมินความเสียหายไว้ที่ราวหมื่นล้านดอลล่าห์

การปะทุของภูเขาไฟฟูจิเมื่อปี 1707 เกิดขึ้นภายหลังจากมีแผ่นดินไหวขนาด M8.4 เพียง 49 วัน และก่อนหน้าวันที่จะปะทุได้เกิดแผ่นดินไหวไม่แรงนักใกล้ๆกับภูเขาไฟราวหนึ่งสัปดาห์ ใช้เวลาปะทุพ่นเถ้าถ่านทั้งสิ้น 16 วัน แต่ไม่มีลาวาออกมา

ล่าสุดญี่ปุ่นมีแผ่นดินไหวขนาด M9.0 และ Aftershock อีกสี่ร้อยกว่าครั้ง นอกจากนี้ยัง เกิดแผ่นดินไหวขนาด M6.1 อีกครั้งห่างจากภูเขาไฟฟูจิไม่มาก


ทีมไทยแลนด์ - Team Thailand

ไม่มีความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 15 March 2011 เวลา 11:51 pm ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1556

มีสปอตโฆษณาชิ้นหนึ่งของอินเดีย ที่ดูแล้วให้แง่คิดดีๆของการแก้ไขปัญหาใหญ่ๆที่เป็นประเด็นสาธารณะได้ดี ลองมาแชร์กันดูครับ

หลายคนบอกว่าเป็นโฆษณาดีๆที่ซึ้งมากโดยไม่ต้องมีบทพูดใดๆ



ถ้าอยากคุยเรื่องนี้กันต่อ ลองหารือแนวทางออกแบบประเทศไทยของเรา ขอเชิญคลิกไปที่ FB Group นี่้


ภูเขาไฟใต้ทะเล

ไม่มีความคิดเห็น โดย iwhale เมื่อ 15 March 2011 เวลา 12:42 am ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 3149

หลังจากเกิดเหตุการณ์อันน่าเศร้าใจในญี่ปุ่น คำว่า วงแหวนแห่งไฟ หรือ Ring of Fire ก็ดูจะเป็นที่กล่าวขวัญกันถึงมากขึ้น คนเห็นรูปนี้และตระหนักถึงความเสี่ยงกันมากขึ้น

แต่ถ้าอยากจะดูวงแหวนแห่งไฟแถบญี่ปุ่นให้เห็นภาพมากขึ้น ลองดูที่ภาพนี้ครับ (จากวิกิพีเดีย) เทียบกับภาพในโปรแกรม Google Earth

สาเหตุหนึ่งของการเกิดสึนามิ ก็คือภูเขาไฟใต้ทะเลได้เช่นกัน แต่ก็ยังมีสาเหตุอื่นๆอีกด้วย

แต่หากใต้ทะเลร้อนมาก การเปลี่ยนแปลงอุณหภุมิก็ดี เสียงที่ดังก็ดี แกสซัลเฟอร์หรือแกสต่างๆที่ออกมาก็ดี น่าจะอธิบายการตายของปลาจำนวนมากได้ หรือการที่มันหนีมากองรวมกันเยอะๆที่เม็กซิโก ปลาที่ตายอาจจะเพราะขาดอาหาร หรือ ขาดอากาศในน้ำเนื่องจากพยายามหนีใต้ทะเลลึกมาหาฝั่งพร้อมๆกันเป็นจำนวนมากขนาดนี้

ภูเขาไฟเหมือนสิว ถ้ามันปะทุ มันสะท้อนถึงสุขภาพภายในของเราด้วย น่าเป็นห่วงสุขภาพภายในโลกของเรามากๆเลยครับ



Main: 0.039326190948486 sec
Sidebar: 0.0068588256835938 sec