คิดถึงท่านอาจารย์ (อีกแล้ว)
อ่าน: 1171ผมกลับไปอยู่ไชยามาตั้งแต่ต้นเดือนเมษาที่ผ่านมา Say Goodbye กับชีวิตในเมืองอันแสนวุ่นวายอย่าง กทม. ที่ผมฝังตัวทนอยู่มากว่า 30 ปี
ขอบคุณวิกฤติการณ์อันแสนเลวร้ายในชีวิตที่เป็นเสมือนข้อทดสอบ เพื่อตัดสินว่าผมสอบผ่านหรือไม่ในเรื่องของการนำธรรมะของท่านอาจารย์พุทธทาสมาใช้จัดการกับชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของจิตใจ แล้วผมก็ตอบได้แบบดังๆและไม่อายใครว่าผมสอบผ่านครับ
สิ่งที่ไม่คาดคิดหลายอย่างเกิดขึ้นเมื่อผมกลับไปใช้ชีวิตใหม่ในบ้านเกิด เพราะผู้คนรู้จักเราเป็นอย่างดีว่าทำอะไรมาบ้าง มีประสบการณ์ด้านใด อย่างไร จึงมีเรื่องให้คิด ให้ทำ ให้ช่วยหลากหลายมาก กลายเป็น “โจทย์วิจัย” รายวันไปก็ไม่น้อย แล้วคนอย่างเรามันเป็นโรค “ทนไม่ได้กับความไม่รู้” เสียด้วย ก็เลยยุ่งยิ่งกว่าอยู่กรุงเทพฯเสียอีก
สิ่งที่คิด อยากทำ หลายอย่างจึงต้องระงับ ชะลอ หรือเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะมีสิ่งที่ ควรทำ มาแทรกมากเหลือเกิน อย่างน้อยสองเรื่องที่รู้สึกเสียดายที่ยังไม่ได้เริ่มคือการ ปลูกข้าวกินเอง และ การไปช่วยงานสวนโมกข์
ขับรถผ่านหน้าสวนโมกข์แทบทุกวัน ไปสอนที่มรภ.สุราษฎร์บ้าง ไปทำภารกิจส่วนตัวที่บ้านดอนบ้าง เกิดความรู้สึกตำหนิตัวเองในใจ คล้ายๆเป็นคนอกตัญญู ที่เลือกเรื่องอื่นมาทำก่อน แต่ก็คิดอีกที ถ้าท่านอาจารย์ล่วงรู้ด้วยญาณใดๆว่าผมไปทำอะไร กับใคร อย่างไร ด้วยเจตจำนงใด ที่ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานีในตอนนี้ ท่านคงยิ้มและเอ่ยคำว่า “ดีแล้ว ถูกต้อง พอใจ” เป็นแน่
พูดถึงท่านอาจารย์พุทธทาส ผมรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณท่านมากเหลือเกิน เพราะได้ไปช่วยงานที่สวนโมกข์มาแต่ยังเป็นนักเรียนประถมปลาย ได้ยินได้ฟัง ได้อ่าน ได้เถียงในใจแบบเด็กๆ และได้ค้นพบภายหลังว่าเราโง่อย่างไร ที่สำคัญได้ใกล้ชิดท่านอีกครั้งช่วงไปบวชและจำพรรษา และถูกตั้งให้เป็นหัวหน้าพระใหม่ที่นั่นเมื่อปี 31
วิกฤติในชีวิตผมนั้นเลวร้ายยิ่งนัก ในสายตาผู้คน (ไม่เชื่อให้ถามท่าน อัยการชาวเกาะดู เพราะท่านรับรู้อย่างน้อยก็ 50 %) แต่การซึมซับสติปัญญาจากท่านอาจารย์พุทธทาสมายาวนาน ทำให้ผมปลอดภัยในทุกสถานการณ์ “เช่นนั้นเอง” ได้กับแทบทุกเรื่อง และไม่โง่จนปล่อยให้โลกมันทับและบีบคั้นตัวเรามากนัก สามารถมี “ชีวิตที่ไม่กัดเจ้าของ” ได้พอประมาณ
ขอบคุณ สวนโมกข์ อีกครั้งครับ และกราบในใจงามๆ กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์พุทธทาส ที่คำสอนของท่านช่วยให้ผมอยู่รอดปลอดภัย ยังสามารถทำงานสร้างสรรค์ประโยชน์แก่โลกได้ แทนที่จะไปโง่ ไปบ้า “ฆ่าคนตาย” หรือ “ฆ่าตัวตาย”
« « Prev : ที่แปลงนี้ดินดี น่าปลูกต้น “จาคะ”
Next : ไปสอนแบบไม่ต้องเตรียม ที่มรภ.สุราษฎร์ธานี » »
1 ความคิดเห็น
ขอกราบแทบเท้าท่านอาจารย์พุทธทาส ผมมีหนังสือ 100 ปีของท่านอยู่ครับ ยังอ่านไม่หมดเลย หนึ่งในคณะที่เขียนหนังสือเล่มนี้คือ ท่านอาจารย์ไร้กรอบครับ