เชื่อหรือไม่ 1 เหรียญบาทไทยของผมเคยมีค่ากว่า 10,000 เยน

โดย handyman เมื่อ 12 พฤษภาคม 2009 เวลา 1:42 (เช้า) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1365

    เรื่องนี้เคยเล่าไว้หลายที่ .. แต่แถวๆนี้ดูเหมือนยังไม่เคยบอกใคร .. คิดแล้วไม่รอช้า .. รีบไป Copy มา แต่รับรองไม่มีปัญหา  เพราะ Copy ของตัวเอง .. อิ อิ อิ

    เรื่องมีอยู่ว่า …

    หลายปีมาแล้วผมโชคดีได้ไปย่ำแดนอาทิตย์อุทัยอยู่ 18 เดือน จะเรียกปีครึ่งก็ได้  ไม่ว่ากัน ทั้งนี้โดยรัฐบาลพี่ยุ่นแกออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้  ถ้าจ่ายเองทั้งหมดน่าจะต้องกลับมาทำงานข้ามภพข้ามชาติเพื่อใช้หนี้เป็นแน่  ไปถึงวันแรกลองเดินดูราคาสินค้าใน Supermarket นอกกรุง Osaka เจอแตงโมใบละ 300 - 400 บาท  ข้าวสารถังละ ราว 2000 บาท ก็หนาวแล้วครับ
       ผมต้องอยู่เรียน นิฮ่งโกะ( ภาษาญี่ปุ่น ) นาน  6 เดือนเต็มที่ Osaka University of Foreign Study ( Osaka Gai Dai )  เราอยู่ไกลไปทางเหนือของกรุง Osaka เรียกว่า สุดสายรถไฟฟ้าของบริษัท Hankyu แล้วยังต้องต่อรถเมล์ลัดเลี้ยวไปจนสุดสายบนไหล่เขาอันเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย  คิดดูก็แล้วกันสถานีปลายทางที่เราขึ้นลงอยู่ประจำยังชื่อ   Kita Senri เลย  Kita=ทิศเหนือ  Sen=1000  Ri=ลี้    เรียกว่าห่าง Osaka ไปทางเหนือถึงพันลี้ อะไรทำนองนั้น  เรื่องที่จะเล่าก็เกิดขึ้นที่สถานีแห่งนี้แหละ
       วันนั้นผมกับพวก 3 คนซึ่งเป็นคนไทยและอยู่ในสถานภาพเดียวกัน  ลงจากรถไฟฟ้าแล้วเกิดหิว ความจริงควรเรียก ” อยาก ” มากกว่า  เลยเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่งในสถานี  นั่งอยู่นาน ปลาดิบก็ยังไม่มา  เบียร์ก็ยังไม่มาเลยคว้าไก่ KFC ในถุงที่ซื้อติดมือมาขัดตาทัพไปคนละชิ้น  แต่ไม่ทันจะได้ครึ่งชิ้นเลยเจ้าของร้านรีบมาบอกว่าทำไม่ได้นะ แต่วันนี้ไม่เป็นไร เราก็ได้แต่ขอโทษและเขิน  ส่งไก่ทอดกลับลงถุงตามเดิมและก็ต่อด้วยอาหารที่สั่งได้พอดี  กินไปคุยไป ประสาคนไปถึงใหม่ๆ มีเรื่องให้เม้าท์กันได้ไม่รู้จบ  อาหารก็หมุนเวียนกันมาให้เราทำลายล้าง จานแล้วจานเล่า  คะเนว่าถึงตอนนั้นมูลค่าต้องไม่น้อยกว่า 10000 เยนแน่นอน
       เรื่องสำคัญคือโต๊ะข้างๆมีหนุ่มใหญ่ชาวอาทิตย์อุทัย 3-4 คนนั่งอยู่แต่ผมไม่สนใจเพราะตามัวแต่จ้องมองสาวสวยในชุดกิโมโนสีสดใส  และเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ยืนเคลียคลออยู่กับหนึ่งหนุ่มที่โต๊ะนั้น  ผมสบตาเธอโดยผู้ชายคนนั้นไม่อาจได้รู้เห็นเพราะมัวสนใจแต่แก้วเบียร์และอาหารบนโต๊ะ    ผมพยักหน้าแล้วเธอก็เดินมาหา    โอ!พระเจ้าช่วย   คาดไม่ถึงว่าเธอจะกล้า คิดอะไรไม่ออก เลยหยิบเหรียญเงินไทย 1 บาทใส่มือเธอ พร้อมกระซิบเบาๆว่า Omiyake Desu ( ของที่ระลึกน่ะครับ )  ชายคนนั้นหันมาเห็น   ดูท่าทางเขาตกใจมาก  เดินรี่เข้ามาที่ผมและสาวน้อยคนนั้น พร้อมส่งเสียงฟังไม่ได้ศัพท์  แต่พอเดาๆความหมายได้ คล้ายๆว่าอย่ารับ อะไรทำนองนั้น  ผมก็ไม่ลดละความพยายามพูดซ้ำในความหมายว่าไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ของที่ระลึกเล็กน้อยและด้อยค่าเท่านั้น แล้วเขาทั้งคู่ก็กลับไปที่โต๊ะด้วยกัน   ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกจนหนุ่มคนเดิมเดินไปชำระเงินค่าอาหาร   และก่อนออกจากร้านได้แวะมาที่โต๊ะพวกเราอีกครั้ง  พร้อมบอกอะไรบางอย่าง จับความได้ว่า “จ่ายแล้ว” เราก็ได้แต่ขอบคุณด้วยความงง ๆ ๆ และ งง    
        ตั้งแต่วันนั้นเพื่อนคนไทยทั้งสองคนของผมไม่เคยลืมพกเงินเหรียญบาทติดตัวทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก
แต่เท่าที่ทราบ 1 บาทมีค่ากว่า 10000 เยน ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย….
        ต้องขออภัยอย่างยิ่งครับที่ลืมบอกว่าผู้หญิงในชุดกิโมโน  อายุเท่าไหร่ ?  ประมาณ 3 ขวบ ครับ ….. อิ อิ อิ

       

Post to Twitter Post to Plurk Post to Yahoo Buzz Post to Delicious Post to Digg Post to Facebook Post to MySpace Post to Ping.fm Post to Reddit Post to StumbleUpon

« « Prev : เซียงเพียวอิ๊วกัดสนิม

Next : เก็บแสงแดดไว้ใช้ยามค่ำคืน ที่สวนโมกข์ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 พฤษภาคม 2009 เวลา 6:24 (เย็น)

    แหม..คุ้มมากๆเลยนะครับ อิอิ
    เคยมีคนเล่าว่นานมาแล้ว ทัวร์ไทยไปเที่ยวญี่ปุ่น ตกกลางคืนมีของกินในตู้เย็น ๑๐๐ เยน พี่ไทยสังเกตว่าเหรียญบาทไทย เท่ากับเหรียญ ๑๐๐ เยนก็หยอดไป ได้ของมากิน แต่พอขึ้นรถจะไปเที่ยว ไกด์ก็ถามว่าใครพักห้องไหน.. แล้วก็เปิดสมุดใส่เหรียญบอกว่าทางโรงแรมเขาทวงค่าเครื่องดื่มจากห้องนี้ ห้องนั้น เขารู้ว่าเป็นคณะคนไทยเพราะเหรียญที่หยอดเป็นเหรียญบาทไทย ขายหน้าเขาไหมล่ะ..
    ผมไปญี่ปุ่นเมื่อปี ๒๕๑๙ เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของโมสรไลออนส์ ไปเห็นร้านขายของในค่าย YWCA ไม่มีคนเฝ้าแต่มีกล่อง ๑๐๐ เยน กับ ๕๐ เยน ให้หยอด ใครซื้อของเท่าไหร่ก็หยอดเอง เจอพี่ไทยเข้าก็เสร็จโจร อิอิ ผมเป็นหัวหน้ากลุ่มก็ต้องห้ามปรามเพื่อน แต่ก็มีเพื่อนเพียงคนเดียวที่ทำแบบนั้น คนอื่นไม่มีใครทำกัน ผมเห็นว่าเป็นเรื่องการฝึกคุณธรรมที่ดีมากๆครับ

  • #2 Lin Hui ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 พฤษภาคม 2009 เวลา 8:40 (เช้า)

    เข้าใจหักมุขนะจ๊ะ ไม่ธรรมดาเลย แบบนี้เขียนเรื่องสั้นขายได้อีกอาชีพสบายๆ จ๊ะ

  • #3 handyman ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 พฤษภาคม 2009 เวลา 11:19 (เช้า)
    • #1:: อัยการชาวเกาะ  ขอบคุณครับ ที่นำประสบการณ์มาแบ่งปัน .. เรื่องหยอดเหรียญนั้น  ตอนผมอยู่ก็เคยเจอออกทีวีเลยครับ  แต่เป็นนักศึกษาเกาหลี ไม่ใช่พี่ไทย .. เรื่องคุณธรรม จริยธรรมของผู้คนที่โน่น ผมมีตัวอย่างดีๆหลายรายการ  มีเวลาอาจนำมาปัดฝุ่นเล่าสู่กันอ่าน .. เก่าไปคงไม่เป็นไร เพราะความดีไม่มีเสื่อมไปตามกาลเวลาอยู่แล้ว
    • #2:: Lin Hui ขอบคุณครับท่านแม่ .. หักมุข(ก) .. คือกล้วยชนิดหนึ่งครับ .. ว่างๆจะลองเขียนเรื่องสั้นขายดีกว่า .. หนังสือขายไม่ได้ก็จะไปขายกล้วยหักมุกปิ้งแทน .. อิ อิ อิ
  • #4 mongkut ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 พฤษภาคม 2009 เวลา 4:16 (เช้า)

    55555555555555


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.43206405639648 sec
Sidebar: 0.33311700820923 sec