Handyman … เจ้าเป็นไผ (๑)
อ่าน: 1400สวัสดีครับ
สงสัยว่าจะมาต่อเติมเรื่องยาวเกิน Limit เลยมีผลให้ข้อมูลเก่าในบันทึกนี้หายเกลี้ยงครับ ลองใหม่ 2-3 รอบก็มาเจออาการเดิมอีก จึงขอตัดเป็นตอน ๑ ๒ ๓ ดีกว่า แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องเวลาและภารกิจเร่งด่วน ขอนำของเดิมๆมาวางแบบไม่ Edit ไปก่อนครับ เริ่มจากบทกลอน บ้านนอก 3 ตอน ที่เขียนไว้นานแล้วดังนี้
๑.
ฉันเป็นคน บ้านนอก ขอบอกกล่าว
มีเรื่องราว มากมาย ให้นึกถึง
กาลเวลา ล่วงไป ใฝ่คนึง
สิ่งที่ตรึง ใจมั่น นั้นมากมาย
สมัยนั้น เราอยู่กัน ฉันท์น้องพี่
มากน้ำใจ ไมตรี มิเหือดหาย
ไร้ไฟฟ้า ไร้ประปา แต่สบาย
เราอยู่ได้ กับธรรมชาติ อันอุดม
อยากกินปลา เราไปหา ตามท้องทุ่ง
เต็มตะกร้า ล้นกระบุง ก็สุขสม
แบ่งจ่ายแจก ลุงป้า น่านิยม
เป็นสังคม แห่งน้ำใจ อยู่ไกลเมือง
ทั้งทำนา ปลูกข้าว และทำไร่
จวบต้นข้าว ออกรวงใหญ่ ชูช่อเหลือง
ต่างช่วยกัน เก็บเกี่ยวไป ไม่สิ้นเปลือง
ไม่มีเรื่อง จ่ายค่าจ้าง เป็นรางวัล
ยังมีอีก มากมาย หลายตัวอย่าง
ยังจำได้ ไม่จืดจาง ใช่เรื่องฝัน
ชักอ่อนล้า ด้วยกรำงาน มาทั้งวัน
วันนี้พอ ก็แล้วกัน นะ บ๊าย บาย !
๒.
ขอเรียงร้อย เรื่องบ้านนอก มาบอกต่อ
อีกมากมาย หลายข้อ อยากเฉลย
คนกรุงเขา อาจค่อนว่า พวกข้าเชย
ขอเปิดเผย สิ่งที่พบ ประสบมา
ฉันเป็นลูก สุดท้อง ของพ่อแม่
ใครคิดมา รังแก ยากนักหนา
กลัวพี่ชาย จะทำร้าย เจ็บกายา
หากขืนมา ซ่ากะเรา เขาต้องเจอ
แท้พี่เรา ใช่นักเลง เก่งตีต่อย
อารมณ์ขัน ไม่น้อย สนุกเสมอ
ใครมาดี พี่จะรัก เหมือนเพื่อนเกลอ
ยิ้มหัวเราะ อยู่เสมอ ประทับใจ
พี่กะฉัน จะแบ่งปัน แทบทุกสิ่ง
ฉันเรียนรู้ ความจริง ไม่สงสัย
รู้ว่ารัก ห่วงกัน นั้นซึ้งใจ
จนเติบใหญ่ ได้มีธรรม ช่วยนำตน
พ่อกะแม่ เป็นอย่างไร ใครๆรู้
เป็นแบบอย่าง คนเชิดชู ทุกแห่งหน
แม่ขยัน พ่อซื่อสัตย์ และอดทน
การสั่งสอน พร่ำบ่น ไม่ค่อยมี
ทำให้เห็น เป็นให้ดู เสียส่วนมาก
ถึงพบความ ลำบาก พ่อไม่หนี
เป็นผู้นำ ชวนชาวบ้าน ลูกหลานมี
พัฒนา ท้องถิ่นที่ กำเนิดกาย
สหายพ่อ เพื่อนร่วมใจ คือหลวงพ่อ
ทั้งบ้านวัด จึงสานต่อ ไม่ขาดสาย
ช่วยนำพา ผู้คน พ้นอบาย
ยังมีอีก มากมาย คอยติดตาม … นะจ๊ะ
๓.
กลอนบ้านนอก ตอนนี้ ตอนที่สาม
ขอต่อความ ตามเพลง บรรเลงอักษร
อาจอ่อนด้อย อรรถรส แห่งบทกลอน
วานได้สอน อย่าได้ซ้ำ ขอน้ำใจ
ตอนเป็นเด็ก เมื่อยามเล็ก ฉันจำได้
คืนเดือนหงาย แจ่มหล้า ท้องฟ้าใส
กลุ่มหนุ่มสาว “อุก“เกี่ยวข้าว ของเราไป
ทั่วผืนนา กว้างใหญ่ แอบเกี่ยวรวง
ขะโมยข้าว จากนาเรา ใช่หรือไม่
ใครตอบ”ใช่” ก็ผิดไป อย่างใหญ่หลวง
แท้เป็นเรื่อง ของน้ำใจ ใช่หลอกลวง
แรงใจกาย ทั้งปวง แอบช่วยเรา
พอดึกนิด เขาเริ่มคิด ทำตามแผน
ส่งตัวแทน มาบอกใบ้ ให้พวกเขา
ว่าไม่นาน จะเข้ามา ที่บ้านเรา
จะรับเขา อย่างไร ให้รีบทำ
ในไม่ช้า พวกเขามา ถึงที่บ้าน
ร่วมดื่มกิน เล่านิทาน เรื่องขำขัน
จวบเดือนต่ำ จึงได้ร่ำ ลาจากกัน
ไปพักนอน อย่างสุขสันต์ ที่บ้านตน
เขาเล่นกัน อย่างไร เห็นไหมท่าน
เล่นไปกับ การทำงาน และมีผล
ได้ผูกรัก เอาไว้ใน ใจผู้คน
ทุกหมู่บ้าน ทั้งตำบล ดุจครอบครัว.
Next : ควันหลง “ตีแตกอีสาน” » »
16 ความคิดเห็น
มายินดีต้อนรับครับ อิอิๆๆมาแล้ว
เอาอีก เอาอีก เอาอีกครับ
จะรอนะครับอาจารย์
ยินดีมากครับ ท่าน
รอค่ะ รอ
พระอาจารย์ของครูปูเองค่า อิอิ
ขอบคุณครับ ..
โอ้ว้าว…. แน่จริงๆ กล้าขึ้นปก…….
ว่าก็ว่าเถอะตัวเป็นๆ เป็นคนน่ารักและหนุ่มกว่าในรูปเยอะ เอิ๊กๆๆๆๆๆๆ
เข้าจนได้ เห้นไหม พวกเรา ไม่ยากเลย
ผมอยู่ฝ่ายพิสูจน์อักษรครับ
เอาอีก เอาอีก เอาอีกครับ
น่าจะใช้คำว่า เขียนอีก เขียนอีก เขียนอีกครับ อิอิ
ไม่กล้าเขียนเอาอีกๆๆเลยครับ ฮ่าๆๆ กลัวคุณหมอแซว มีคนบอกผมว่าตัวจริงหล่อกว่าในรูป ฟันธง
หล่อไม่หล่อ ก็อย่างที่รู้ๆ อิอิ
ที่แน่ๆ
คืนนั้นหนิงได้ยินเสียงแว่วๆว่า
หญิงคนหนึ่ง : ของอาจารย์แฮนดี้แค๊ง..แข็ง
มายิ้มกว้างด้วยความสุขที่เห็นอ.แฮนดี้ในลานฯค่ะ จะรออ่านต่อนะคะ
ใครครับที่ว่าเอาอีกเอาอีก ได้งัย หมอห้ามนะครับ
สุดยอดครับ รออ่านตอนต่อไป จะบอกว่าเอาอีก ก็กลัวอ.แฮนดี้หมดแรง ฮิ้วๆๆ
ผมรับราชการในปี ๒๕๒๖ ออกต่างจังหวัดครั้งแรกปี ๒๕๒๗ ลงที่ไชยาเลยครับ น่าอยู่มากเงียบสงบ ตื่นตีห้ามาเดินดูของที่ตลาดสดวางกับพื้น ผักพื้นบ้านถูกมาก ค่าครองชีพถูกมาก ค่าเช่าบ้านถูกมาก ปี ๒๕๒๗ บ้านสองชั้นเดือนละ ๘๐๐ บาท บ้านสามชั้นเดือนละ ๑,๕๐๐ บาท กินอาหารทะเลที่พุมเรียงกันบ่อยมาก ลูกผมชอบข้าวผัดปู ไปทีไรก็สั่งข้าวผัดปูอยู่เรื่อย เราก็ต้องกินของลูกเวลากินไม่หมด จนกระทั่งก่อนย้าย ลูกน้องก็พูดเปรยๆขึ้นว่าคุณบัณฑูรชอบกินข้าวผัดปูกันนะบ้านนี้ ผมบอกเปล่า ไม่ได้ชอบอะไรมากมาย เขาบอกว่าผมไม่กินหรอก อ้าว…ทำไมละ เขาบอกว่าถ้าไปดูเวลาปอกเนื้อปูจะเห็น เพราะบางทีมันแทะก้ามปูกัดก้ามปูแล้วเอาเนื้อปูออกมาใส่ตะกร้า บางทีเด็กๆมันแกะแล้วแอบดูดก็มี
ทำไม…ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกมาอยู่ฟะ…..อิอิ
สวัสดีครับ
นั่งพิมพ์อยู่ที่ หาดทรายขาวรีสอร์ท บางสะพาน ประจวบฯ ครับ มาร่วมงานกับทีมคณะศึกษาศาสตร์ .. ต่อยอดเรื่อง KM .. น้องๆหลายคนเข้าใจแล้วครับว่า KM เป็นอย่างไร .. ตอนไปดำน้ำที่เกาะทะลุ เห็นบอกว่า “เค็ม ๆๆๆ” .. ผมหูหาเรื่องฟังเป็นเขาอุทานว่า KM …. อิ อิ อิ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาทักทาย .. ผมยัง งงๆ อยู่ในลานปัญญาแห่งนี้ แต่เชื่อว่าอีกหน่อยก็คงดีขึ้น ขอให้มีเวลา คลำ มากขึ้นอีกหน่อยเท่านั้น
เข้ามาเติมต่อข้อมูล เพื่อพิสูจน์ให้ท่านอัยการสบายใจว่า ยังมีแรงครับ .. อิ อิ อิ
บันทึกนี้จะเขียนต่อไปเรื่อยๆโดยไม่มีกำหนดว่าจะจบเมื่อไหร่ .. สัญญาว่าจะเขียนให้จบครับ .. แต่จบเมื่อไหร่อย่าให้สัญญาเลยครับ นะ นะ นะ.
ยินดียิ่งอาจารย์ ครับ
คอย คอย คอย จะเขียนว่าเอาอีกก็มีฝ่ายพิสูจน์อักษร ทักท้วงอยู่ อิอิ
สวัสดีครับ