นาย สุเทพ วีระวัฒน์ นส.ฐิติรัตน์ เยื้องสวัสดิ์ หรือ ปิ๊ก และ อ้อย โคตรโกง ต้มตุ๋น

โดย สิทธิรักษ์ เมื่อ 21 พฤษภาคม 2009 เวลา 11:50 (เช้า) ในหมวดหมู่ เปิดกลโกง #
อ่าน: 3134

กรณีศึกษา 

อุทาหรณ์ราคาแพง

 

นาย สุเทพ วีระวัฒน์ นส.ฐิติรัตน์ เยื้องสวัสดิ์ หรือชื่อเล่นว่า ปิ๊ก และ อ้อย

ผมเจอเขาเมื่อประมาณสามสี่ปีก่อน ในสภาพทรุดโทรมแทบดูไม่ได้ เขาบอกว่ามีเพื่อนที่อยุธยาแนะนำให้มารับงานที่เชียงราย   

มาเจอผม ผมเห็นเขาตกทุกข์ได้ยาก มาพร้อมรถแวนเก่าๆ เล่าสภาพความเป็นมาอย่างน่าเห็นใจ

ประกอบกับชีวิตตัวผมเองเคยล้มเหลวหลายต่อหลายครั้ง ล้มเหลวในชีวิต และ ขาดคนให้โอกาส  เห็นคนที่มีสภาพเช่นนี้แล้วทนไม่ได้ เลย ช่วยเหลือ หางานให้ อยากให้เขาฟื้นได้ ผมแนะนำให้คนรู้จักหลายต่อหลายท่าน รวมทั้งนักธุรกิจที่อยู่ในเชียงแสน ทั้งข้าราชการต่างๆ เขามักจะอ้างเสมอว่าจบศิลปากรมา และจบโทที่แคนาดาเก่งในเรื่องออกแบบ รับเหมาก่อสร้าง เขามาบอกว่าโดนคนโกงโดนคนแกล้งมา ลำบากมาก และหนีตำรวจมาเพราะถูกแกล้ง ไปรับงานตำรวจแล้วเขาเบี้ยว ไม่จ่ายเงิน และเขาไม่สามารถต่อกรได้ ต่อมาเขาโดนตำรวจคนนั้นตามล่าหนัก เลยต้องหนีมา  เคยทำงานใหญ่ๆมาเยอะ   ผมไว้ใจเขา และสงสาร ก็ไปเจรจาต่อรองกับตำรวจท่านนั้น ซึ่งสามารถ เจรจาได้ ผมพยายามดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อช่วยเขา คำว่า เพื่อน ของผมนั้นยิ่งใหญ่ การให้โอกาสคนเพื่อที่จะสามารถฟื้นตัวได้ เป็นสิ่งที่เรียกว่าประเสริฐที่สุดในชีวิตคน อะไรที่ช่วยได้ผมก็จะทำ 

แต่ทว่า มันกลับทำให้ผมเห็นกงจักรเป็นดอกบัว  ผมไม่รู้เหมือนกันว่า ผีตัวไหนเข้าสิง ถึงเชื่อเขาเรื่อยมา ทั้ง ๆ ที่ผมเอ๊ะ… หลายต่อหลายเอ๊ะ..แล้ว แต่ก็ความสงสาร และไว้ใจและอยากให้โอกาส ขนาดหารถให้ใช้ผมก็ทำ ออกดาวน์รถกระบะและโอนให้เขาไปผ่อนต่อ เงินก็ยังไม่ได้เก็บ กว่าเจ็ดหมื่น ผมยังไว้ใจแนะนำ คนหลายคน ที่มีชื่อเสียง รวมทั้งเขาอยากทำธุรกิจ ผมก็ปูทางเรื่อยมาจน ธุรกิจร้านอาหารใหญ่โต เห็นริมโขงเลยตรงหน้า พวก เพื่อนๆที่มาเคยเห็น ซึ่งผมชี้ให้ดู  เขาอาศัยผมเป็นเครื่องมือ ทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคยพูด ให้นักธุรกิจหลายแห่งซึ่งเขาไปเชื่อของมา ผมก็ไม่เอะใจว่าพวกร้านค้าพวกนั้นคงเกรงใจผม เลยไม่ได้ซักถามอะไร  อาศัยต่อๆ ไปเรื่อย ๆ

ตอนเปิดร้านอาหาร เขาจำเป็นต้องแสดงผมเป็นหุ้นส่วนด้วย  เปิดร้านผมช่วยเขาเชิญแขกใหญ่โตมา 200 กว่าคน ทำบัตรเชิญให้ เขาไม่หยุดหลอกลวงผม กลับเพิ่มทวีคูณไปเรื่อย ๆ ไปหลอกลูกค้าตามโต๊ะอาหาร และ ไปรับเหมาหลายๆ ครั้ง แล้วก็ไปโกงเขาทุกงาน แล้วมาบอกผมว่า ลูกค้าไม่ดี ขนาดนั้นก็ยังไม่เอะใจ ผมนี่เองก็ปากหนักไม่รู้จักบอกคนอื่น ๆ ว่าผมไม่ได้เป็นหุ้นส่วน เขาอาศัย ผมเป็นเครื่องมือโดยพาผมไปหลาย ต่อหลายแห่งด้วยกันนี่เอง

ซ้ำร้ายผมยังช่วยเงินทองเขาหลายต่อหลายหน  ติดต่อกันเป็นปีๆ จำนวนเงินไม่น้อย

มารู้ทีหลังว่าประวัติเรื่องของเขาที่เล่าทั้งหมดนั้นโกหกทั้งนั้น  ไม่ได้แม้กระทั่งจบอะไรมา แถม ตำรวจที่เคยบอกว่าเขาแกล้ง ก็ไปโกงเขามา รับงานรับเหมาก่อสร้างเบิกเงินแล้วหนี เขาอาศัยการพูดๆๆ โกหกเพื่อต่อยอดไปเรื่อยๆ โดยอาศัยความไว้วางใจจากผม และ คนที่ผมรู้จัก ก็โดนโกงทุกคนไม่มากก็น้อย

เมื่อไม่กี่วันก่อน ผมโทรไปหาเพื่อนเขาที่อยุธยา เขาบอกว่าอีกละคนนี้ เล่นไปแล้วหลายคนหลายจังหวัด ว่าผมไว้ใจคนมากเกินไป เขาก็พยายามจะช่วยสืบหาให้อีกแรง

ครั้งนี้ผมก็หมดไปหลาย จนประเมินค่าทั้งเงิน ความรู้สึกที่มีนับค่าไม่ได้ ยังดีที่ผมเข้มแข็ง  ผมไม่ใช้ทางออกที่ผิด ๆ แก้ปัญหา แต่ผมจะตีแผ่คนพวกนี้ไม่ให้ไปหลอกใครได้อีก ผู้เสียหายมีเยอะมาก ผมเองยังตกใจ และคนอื่นๆ ก็ตกใจเหมือนกันกับผมเพราะ เขาไม่นึกว่าผมก็โดนเข้าให้แล้ว

 

สองวันก่อนไปคุยกับพวกเพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ  โดนไปหลายคน 

เฉพาะเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร โดนไปประมาณ หกเจ็ดแสน

อีกคน โดน อีกห้าหกแสน   (คนนี้เป็นเจ้าของท่าเรือที่เชียงแสน)

จำนวนดังกล่าวเป็นการโกงจากการเรียกหุ้นเปิดร้านอาหารใหม่ ซูก้า บายเดอะริเวอร์ (Sugar by the river)  ซึ่งย้ายมาจาก  ซูก้า เดิมที่ไปไม่รอด

เหตุการณ์ดังกล่าวเขาเริ่มวิชามารที่ใช้มาตลอด ให้คนเอาสินค้ามาลง โดยใช้เครดิตเจ้าหน้าที่ข้าราชการ(ในช่วงนี้ ผมออกห่างเขาได้เป็นปี แต่ก็ยังให้โอกาสเขาฟื้นตัว ยังคิดในแง่บวกไม่ทวงหนี้เดิมที่ตกค้างกับผม) สั่งซื้ออาหาร เอาต้นไม้มาตกแต่ง เรียกคนงานมารับเหมา แต่ไม่เคยจ่ายเงินให้ทั้งค่าของและค่าแรงเลย  แต่ทำหลักฐานเท็จนำเบิกเงินหุ้นส่วนไปทั้งหมด   (ผู้เสียหายทั้งหมดมีตัวตนที่แน่นอน ถ้าต้องการรายละเอียดจะส่งอีเมล์ให้ต่างหาก)

รวมทั้งผู้เสียหายมีทั้งผู้รับเหมาย่อย  ช่างแผนกต่างๆ กรรมกร  ฯลฯ

สรุปได้ว่า  บุคคลนี้ถนัดในเรื่องต่อยอดบนโต๊ะอาหาร  ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ  อวดอ้างความสามารถ  อวดอ้างความสำเร็จมากมายใหญ่โตในที่ต่างๆที่คนไม่รู้เรื่อง กุเรื่องที่ไม่สามารถล่วงรู้ได้ แล้วยังรู้จุดอ่อนผู้คนโน้มน้าวให้คนเชื่อถือ  สร้างบุคลิกที่เป็นจุดเด่นดั่งในภาพ

เวลานี้ นาย สุเทพ  วีระวัฒน์  และ นส. ฐิติรัตน์ เยื้องสวัสดิ์   สองสามีภรรยาได้หลบหนีไปแล้ว  

  

เรามาดูโฉมหน้าสองสามีภรรยาโคตรโกงกัน

 

 

 

 

 

หมายจับโดยศาลจังหวัด เชียงราย

เลขที่ 69/2552

เลขที่ 141/2552

เลขที่ 142/2552

สถานีตำรวจ อ.เชียงแสน

โทรศัพท์  053-777111

053-777191

http://www.chiangsan.chiangrai.police.go.th/Most%20Wanted.html

 

« « Prev : ประชาธิปไตยแบบไหน

Next : พร 4 ข้อของท่าน ว.วชิรเมธี » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

14 ความคิดเห็น

  • #1 themiti ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 พฤษภาคม 2009 เวลา 12:23 (เย็น)

    สวัสดีครับป๋า  ..
    ให้กำลังใจครับ..ผมยังงงกับเหตุการณ์ไม่หายเลยครับ หนำซ้ำยังไปขวางทางปืนเขา ในวันเคลียร์ครั้งสุดท้าย โดยไม่รู้ตัวว่ามีปีนจ่ออยู่ข้างๆ อาศัยปิยวาจายิ้มแย้ม จนเขายอมล่าถอยไป โดยทิ้งประโยตเด็ดไว้ว่า “ครั้งนี้ผมเห็นแก่อาจารย์ ไม่งั้นตว่ำไปแล้ว”

  • #2 สิทธิรักษ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 พฤษภาคม 2009 เวลา 12:29 (เย็น)
    สวัสดีครับ อ.มิติ
    คนดีอย่างอาจารย์ก็เกือบแย่ไปเหมือนกัน
    ผมต้องขอโทษอาจารย์ที่ผมไม่ได้เตือนอาจารย์ไป เลยโดนเขาเชิญมาเป็นตัวประกันซะอีก
    ดีที่ไม่ได้ถลำไปมากกว่านี้
    เขาไม่กล้าเชิญผมไปครับ อาจจะอายผมก็ได้
    ขนาดเลวอย่างนี้ยังกล้าจัดงานวันเกิดนะครับ  อาจเป็นเพราะสิ่งศักดิสิทธิสั่งมาให้เป็นวันสุดท้ายที่เขาจะได้อยู่ในสามเหลี่ยมทองคำ
  • #3 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 พฤษภาคม 2009 เวลา 8:47 (เย็น)

    ยากจริงๆคนเรานี่ มองหน้าไม่รู้ใจ
    ผมเคยสรุปไว้ว่า คนประเภทนี้ใช้วัฒนธรรมไทยๆเป็นเครื่องมือทำมาหากิน
    และคนประเภทนี้แหละที่ทำลายทุนทางสังคมให้กระเจิดกระเจิงหมดสิ้น แล้วเราจะไว้ใจใครอีกเล่า กลัวว่าจะซ้ำรอย หากแข็งกร้าว คนก็อาจว่าเราไร้มนุษยธรรม ไม่เอื้ออาทร แต่เมื่อทำไปแล้วผลก็เกิดเช่นนี้

    วัฒนธรรม หรือทุนทางสังคมเลยกลายเป็นช่องโหว่ให้พวกนรกนี่ทำมาหากิน  ผมก็เคยโดยเล็กๆ ไม่มากมายเท่านี้ร๊อกครับ

    คนประเภทนี้ยังลอยนวลในสังคมนี้มากมาย หน้าตา พูดจาน่าเชื่อถือ ที่ใส่สูท ลอยหน้าตาในสภาก็มีมิใช่รึ

    เข้าใจ เห็นใจ เป็นกำลังใจครับ

  • #4 สิทธิรักษ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 พฤษภาคม 2009 เวลา 9:32 (เย็น)
    ขอบคุณมากครับ พี่บูธ

    หลายๆคนอิจฉาเขาที่ผมทุ่มเทช่วยเหลือ ถ้าเขาพอเพียง ไม่เพียงแต่อยู่อย่างสบายเท่านั้นยังมีหนทางไปได้อีกไกล
    บางทีโจทย์ข้อนี้อ่านยาก ความไม่รู้จักพอเป็นกิเลสอย่างที่ทำร้ายคนและสังคมได้
    ถ้ายิ่งฝังเป็นสันดานไปแล้วก็ยากที่จะแก้ไขได้ครับ
    มีทางเดียวคือต้องใช้ทุกวิถีทางในการหยุดยั้งความชั่วร้ายของบุคคลผู้นี้ให้ได้
    เพื่อไม่ให้ผู้คนอีกหลายๆคนต้องมาเดือดร้อนครับ

  • #5 sompornp ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 พฤษภาคม 2009 เวลา 11:07 (เช้า)

    เป็นกำลังใจให้ท่านพี่
    คนดีก็ควรอยู่คู่กับคนดีและความดีงาม
    ….

  • #6 BM.chaiwut ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 พฤษภาคม 2009 เวลา 2:07 (เช้า)

    ดูข่าวเมื่อเช้า กรณีท่านเจ้าอาวาสรูปหนึ่งถูกตุ่นไปห้าแสน รู้สึกสลดใจว่าทำไมจึงไว้ใจคนถึงขนาดนี้… เมื่อมาอ่านเรื่องเล่าของคุณโยม ก็สลดใจยามดึก (อีกครั้ง)

    อาตมามักพูดกับคนใกล้ชิดเสมอว่า “เวรกรรมไม่ต้องดูชาติหน้า ดูชาตินี้แหละ” คุณโยมก็ติดตามต่อไปว่าใครจะใช้เวรใช้กรรมอย่างไร…

    เจริญพร

  • #7 สิทธิรักษ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 พฤษภาคม 2009 เวลา 11:08 (เย็น)
    ขอบคุณมากครับ น้าแห่งชาติ
    อย่างน้อยก็ให้เป็นกรณีศึกษา ข้อสำคัญคือสังคมเราไม่ต้องการให้บุคคลประเภทนี้อยู่ยงครับ
  • #8 สิทธิรักษ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 มิถุนายน 2009 เวลา 11:14 (เช้า)
    นมัสการหลวงพี่ BM.chaiwut

    วันเวลาที่กำหนดให้เงื่อนไขบางอย่างได้เปลี่ยนไป
    วันเวลาที่กำหนดโดยทุนก็พัฒนาไป
    วันเวลากำหนดใจคน
    การพัฒนาของทุน ละเลงหัวใจที่แสนอ่อนไหวของคน ต่อวัตถุที่แวดล้อม
    การสำคัญตนผิดว่าแน่เสมอ
    แต่แท้ที่สุด ไม่มีใครเก่งเกินใคร ไม่เหนือกว่าใครอย่างยั่งยืน
    ความสัมพันธ์ที่ต่อเนื่องในสังคมพัฒนาไป

    ท้ายที่สุดยิ่งดิ้นยิ่งตาย
    อาจจะหวนกลับไปดูเมื่อก่อนในอดีตก็ไม่ได้
    แต่กรรมเวรที่ตอบสนอง ก็ล้วนเกิดจากการกระทำของสรรพสิ่งที่ก่อขึ้น ไม่มีทางละเว้นได้ แม้แต่ตัวเราเอง ครับ

  • #9 weeayutthaya ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 กรกฏาคม 2009 เวลา 10:55 (เช้า)

    เขาเป็นเพื่อนสมัยเด็กของผม อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับเขาเหมือนกัน

  • #10 สิทธิรักษ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 กรกฏาคม 2009 เวลา 11:37 (เช้า)
    สวัสดีครับ
    อยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับปิ๊ก เรื่องไหนบ้างครับ
    ความเป็นมา หรือว่า เรื่องราวที่โกงและเบี้ยว

    อันที่จริงผมโดนจนสรุปได้ว่า คนๆนี้เลวร้ายมาก แต่ฉากหน้าบางครั้งผู้คนยังรู้สึกว่าน่าสงสาร ซึ่งอันที่จริงในตอนแรกผมก็รู้สึกอย่างนี้จริงๆ เขาสามารถปั้นสร้างเรื่องแก้ตัวจนหลายคนตกหลุมพราง ผมโดนจากน้อยไปสู่มาก และไม่มีทีท่าว่า คนๆคนจะไม่หยุดพฤติกรรมอย่างนี้ แม้กระทั่งตอนนี้ครับผมมั่นใจ

    จึงอยากทราบว่าคุณมีความเกี่ยวข้องกับคนๆนี้อย่างไรครับ

  • #11 weeayutthaya ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 กรกฏาคม 2009 เวลา 12:19 (เย็น)

    สวัสดีครับ ผมเคยเจอเค้าหลายปีแล้ว และได้ยินเรื่องราวทำนองนี้จากเพื่อนฝูงเหมือนกัน เคยบอกกับเค้าว่าถ้าเค้าทำงานอย่างตรงไปตรงมาก็สบายแล้ว ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมต้องไปโกง เคยได้ยินมาว่ามีคนช่วยเค้าในทำนองนี้แล้วก็ถูกเค้าทำอย่างนี้เหมือนกัน
                    ผมว่าเข้าเปลี่ยนวิถีชีวิตเค้าไม่ได้แล้ว

  • #12 สิทธิรักษ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 กรกฏาคม 2009 เวลา 7:46 (เย็น)

    สวัสดีครับ คุณ weeayutthaya

    ตอนนี้ผมกำลังรอข่าวอยู่ครับ มีอะไรคืบหน้าส่งข่าวด้วยครับ ขอบคุณมากครับ
    ถ้าอยากทราบอะไรเพิ่มเติม ถามมาได้ครับ

  • #13 weeayutthaya ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 กรกฏาคม 2009 เวลา 10:00 (เย็น)

    สวัสดีครับ มีอะไรจะแจ้งให้ทราบครับ ผ่านมาอยุธยาแวะมาคุยกันบ้างก็ได้ครับ ด้วยความยินดี

  • #14 สิทธิรักษ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 กรกฏาคม 2009 เวลา 11:41 (เย็น)
    ขอบคุณครับ คุณ weeayutthaya  เมล์ผม s_dol@hotmail.com  ทิ้งที่อยู่และเบอร์โทรฯให้ด้วยครับ ผ่านไปจะได้แวะไปครับ ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.13296008110046 sec
Sidebar: 0.011237859725952 sec