ผู้นำกับการสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการทำงาน

อ่าน: 381

อ่านบันทึกของอาจารย์ประพนธ์ ที่ gotoknow.org ชื่อบันทึก Leadership – ภาวะผู้นำ กับการสร้างความแตกต่าง แล้ว เลยนำมาคิดต่อ และนำสิ่งที่คิดต่อนั้นมาเรียบเรียง รายละเอียดก็เขียนตามสิ่งที่เคยพบพบเห็น มุมมองอาจจะอยู่ในวงจำกัดหรือให้น้ำหนักแก่หน่วยงานของรัฐ เพราะอยู่และเห็นอยู่ในวงการนี้มากที่สุด อาจจะไม่ถูกต้องหรือตรงใจท่านผู้อ่านมากนัก/บางท่านก็ต้องกราบขออภัย

เท่าที่เรารู้ๆ กันอยู่แล้วว่าภาวะผู้นำนั้น ไม่ได้ขีดกรอบหรือขีดวงจำกัดอยู่แต่ผู้บริหารขององค์กรเท่านั้นที่จะมีภาวะผู้นำ เราๆ ท่านๆ ทุกคนต่างล้วนมีอยู่ในตัวในตน และเป็นผู้นำกันได้ทุกคน โดยไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งแห่งหน ก็การเป็นผู้นำตนเองนั่นก็แบบหนึ่งที่ทุกคนสามารถเป็นได้ เป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ / ในหรือนอกระบบ คือมีได้ในทุกระดับไม่ว่าจะในระดับบุคคล-ปัจเจก นำในระดับกลุ่ม-ฝ่าย จนถึงนำองค์กรในระดับที่สูงขึ้นไป

แต่จากประสบการณ์อันน้อยนิดที่อยู่ในวงการ-ระบบงานของรัฐนั้น ผมคิดว่าการที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในองค์กร ไปสู่ทิศทางที่ถูกที่ควร หรือสร้างวัฒนธรรมใหม่ให้กับองค์กรได้นั้น ผู้บริหารในทุกระดับ(ที่เป็นทางการ)ควรจะมีภาวะของผู้นำ-ผู้นำการเปลี่ยนแปลงอยู่ในตัวสูงตามไปด้วย(ตามบทบาทและความรับผิดชอบ) เพราะวัฒนธรรมการทำงานของหน่วยงานภาครัฐนั้น ยังดำเนินอยู่อย่างเดิมและเหนียวแน่น คือการทำงานตามระบบ มีสายงานการบังคับบัญชาที่ตายตัว สิ่งใหม่แม้จะเป็นสิ่งที่ดี-ถูกต้องและเป็นวิธีการใหม่ๆ ที่สมควรอย่างยิ่งที่จะนำมาปรับวิธีการทำงาน หากไม่เป็นไปตามระบบ หรือสอดคล้องกับรูปแบบที่มีอยู่เดิมแล้ว หรือคนคิดไม่ใช่ผู้บริหารระดับสูงแล้วไซร้…ยากที่จะสามารถนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงในองค์กรได้

จึงไม่แปลกเลยที่เรามักจะเคยได้ยินคนทำงานบ่นเสมอว่า “มีความสุขมากหากได้ทำในสิ่งที่เขา(คนอื่น)ไม่ได้สั่ง(คิดเอง)…แต่ไม่มีความสุขมากนักกับงานที่ต้องทำตามเขาสั่ง(ทำให้เสร็จๆ)” อาจจะอ่านแล้วงง ทั้งๆ ที่เป็นการทำงานเหมือนกัน ขออธิบายเพิ่มเติมว่าที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะว่าคนทำงานทุกคนนั้นล้วนมีความสามารถที่จะคิด-วิเคราะห์งาน แล้วนำไปสู่การปฏิบัติได้เองทุกคน แต่ไม่สามารถที่จะนำสิ่งเหล่านี้มาปรับใช้-ปรับเปลี่ยนงานที่ทำอยู่ได้ (แต่บรรลุเป้าหมายของงานตามหน้าที่ไม่บกพร่อง น่าจะดีกว่าเดิมด้วยซ้ำในหลายๆ ด้าน) โดยธรรมชาติคนเราไม่ต้องการการควบคุม ชอบการเป็นอิสระ และเราก็จะได้ยินผู้มารับบริการหรือคนทั่วๆ ไปบ่นเสมอว่า

*งานล่าช้า
*ยังไม่ปรับปรุงวิธีการทำงานกันเลย
*ไม่มีรูปแบบที่หลากหลายเหมือนบริษัท-หรือหน่วยงานอื่นที่เคยไปใช้บริการมา
*งานมักจะขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ไม่สามารถทำแทนกันได้ คนนั้นไม่อยู่คนนี้ก็ทำให้ไม่ได้
*ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้เราสามารถที่จะแก้ได้ แม้อาจจะต้องใช้เวลาบ้าง และจะทำให้เกิดขึ้นได้นั้นก็ต้องโยงไปหาผู้นำอีกนั่นแหละครับ เพราะนอกจากคนทำงานจะเป็นผู้นำในระดับบุคคลกันแล้ว ในงานของหน่วยงานนั้นผู้นำองค์กรมีความสำคัญอย่างสูงมากต่อกระบวนการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร เพราะจุดสูงสุดนี้สามารถที่จะสร้างวัฒนธรรมองค์กรขึ้นมาได้ใหม่ และส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในระดับบุคคล-กลุ่มคนได้นั้น ล้วนอยู่ที่ผู้นำ/ผู้บริหารแทบทั้งสิ้น

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากมองแต่มุมภายในนั้นยังไม่น่าจะเพียงพอ สิ่งที่ต้องปรับไปคู่ขนานกันก็คือปัจจัยที่ส่งผลกระทบมาจากภายนอกด้วย(คิดต่อ) จึงจะส่งผลในทางบวกต่อการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมขององค์กรด้วย

นั่นคือมุมมองที่นำมาคิดต่อและเรียบเรียงเพราะ “นายเลือกลูกน้องไม่ได้ และลูกน้องก็เลือกเจ้านายไม่ได้” นี่คือความเป็นจริงของหน่วยงานภาครัฐ ผู้นำ/ผู้บริหารที่เก่งๆ ก็มีมากมายแต่ลูกน้องอาจตรงกันข้าม หรือลูกน้องทำงานดีแต่เจ้านายไม่ใส่ใจงานก็มี

แต่ข้อสรุปสุดท้ายเราก็คงหันกลับมาที่ตนเองนั่นแหละครับ เพราะหากทุกคนพัฒนาตนเอง เรียนรู้และปรับปรุง-พัฒนาตนเองอยู่เสมอ ปัญหาและข้อขัดข้องต่างๆ ก็คงแก้ไขได้ไม่ยากเย็น การสร้างวัฒนธรรมใหม่ไม่ใช่เรื่องยากในการทำงานในองค์กร ที่สรุปเช่นนี้ก็เพราะว่า “เราเปลี่ยนแปลงคนอื่นไม่ได้…นอกจากการเปลี่ยนแปลงตัวเอง” หากทุกคนเปลี่ยนแปลงตนเอง (ในทางที่ถูก-ดี) คงจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับสังคมแห่งนี้อีกมากมาย

วันนี้เราอาจจะยังหาส่วนผมผสมของสิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ลงตัว แต่หากว่าทุกคนไม่หยุดที่จะเรียนรู้และพัฒนาแล้ว วัฒนธรรมใหม่ของการทำงานคงจะมาถึงหน่วยงานเราได้สักวัน

บันทึกมาเพื่อการ ลปรร. ครับ

2 ตุลาคม 2551

บันทึกนี้โพสต์เมื่อ วันที่ วันพฤหัสบดี, 2 ตุลาคม 2008 เวลา 3:59 (เย็น) และจัดไว้ในหมวดหมู่ Uncategorized. ติดตามอ่านการแสดงความเห็นได้ที่ฟีดนี้ RSS 2.0. คุณสามารถจะ ฝากความคิดเห็นไว้, หรือ แทร็กย้อนหลัง จากเว็บไซต์ของคุณได้.


3 ความคิดเห็น ในบันทึก “ผู้นำกับการสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการทำงาน”

#1:: rani 2 ตุลาคม 2008 เวลา 4:12 (เย็น)

ขอบคุณมากคะ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเองกระทำ สั่งคนอื่นยากกว่าสั่งตัวเอง เอ๊ะ.. หรือสั่งตัวเองยากกว่าคนอื่น อิอิ.

#2:: bangsai 3 ตุลาคม 2008 เวลา 11:05 (เย็น)

เป็นประเด็นที่สำคัญยิ่งสำหรับอนาคตของระบบราชการ

เข้าใจ ยอมรับ เห็นใจ เอาใจช่วย เพราะคนข้างกายพี่ก็เป็นข้าราชการ (รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยขอนแก่น) ก็บ่นเช้า บ่นเย็น จนเมื่อปีที่แล้วเธอจะยืนใบลาออก น้องๆมาขอร้องไว้เลยขออยู่ต่ออีกปี

เธอบอกว่าผู้นำมีบทบาทที่สำคัญในการนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมาย และสร้างวัฒนธรรมดีดีขึ้นในองค์กร น่าจะเป็นหัวปลาที่นำร่อง และลูกน้องก็ทำตาม ทั้งทำตามแบบเต็มใจ ไม่ค่อยเต็มใจ และฝืนใจแต่ต้องทำเพราะหัวหน้าพาทำ อย่างไรก็ตามหากการสร้างวัฒนธรรมดีดีแบบให้เพื่อนร่วมงานมีส่วนร่วมคิด สร้างก็ไม่น่าจะมีกลุ่มที่สาม แต่ดูเหมือนว่าองค์กรราชการส่วนใหญ่จะมีแต่ผู้นำแบบ ข้าคิด ข้าสั่ง เองทำ

แต่ก็ไม่สิ้นหวังครับ

#3:: pukaorchid 11 ตุลาคม 2008 เวลา 12:37 (เช้า)

ต้องย้อนกลับมายังคำว่าคุณธรรม ครับ ผู้มีความรู้สูงขึ้นต้องมีคุณธรรมมากำกับความรู้มากขึ้นตามไปด้วย ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบที่สูงขึ้นก็ต้องมีคุณธรรมสูงขึ้นตามด้วยเหมือนกันถึงจะทำงานได้อย่างมีความสุขทั้งตนเองและผู้ร่วมกันด้วยเช่นกัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น

*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word

Main: 0.44114899635315 sec
Sidebar: 0.098793029785156 sec