เมื่อลูกชายไม่สบาย…..ตอนอวสาน

โดย sompornp เมื่อ กันยายน 22, 2008 เวลา 13:34 ในหมวดหมู่ ตามจริต #
อ่าน: 1143

วันที่สอง อาการร่าเริงของลูกชายก็ยังมีเหมือนเดิม  แต่จะซนน้อยลง  ทานข้าวได้ ทานนมได้  ก็ลดอาการห่วงไปได้มาก  พอถึงเวลาเย็นได้พาลูกชายไปพบหมอตามนัด  วันนี้หมอวัดไข้ไม่มีไข้

แต่อาการเต้นของหัวใจก็ยังเหมือนเดิม  และหมอก็ยังวินิจฉัยไม่ได้  จึงฉีดยาแก้ไข้ ยาแก้อักเสบ และหยอดยาแก้เห็บหมัดไป 1 หลอด  วันนี้จ่ายไป 790 บาท  แต่แม่ก็ยังสบายใจอยู่

วันที่สาม  ลูกชายมีอาการซึมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย  น้อง ๆ ไม่อยากให้พาไปคลินิกอีกและบอกให้ส่งไป รพ.สัตว์เล็ก  ซึ่งเป็น รพ.ของมหาวิทยาลัย  เพื่อตรวจให้ละเอียด  และจะได้พบกับอาจารย์หมอ  ซึ่งน้องได้โทรสอบถามว่ามีอาจารย์หมออยู่  ช่วงเช้าวันศุกร์ รีบมาทำงานและ clear งานที่เร่งด่วนให้เรียบร้อย  และครึ่งบ่ายของวันศุกร์ได้พาเจ้าลูกชายไป รพ.สัตว์เล็ก  หมอก็งง กับอาการ ไม่ทราบว่าเป็นอะไร แต่ลักษณะการเต้นของหัวใจผิดปกติแน่นอน  จึงส่งไป X-ray  ซึ่งกว่าลูกชายจะให้ความร่วมมือ ต้อง x-ray  4 รอบ เสียฟิล์มไป 1 ฟิล์ม  และที่ฤทธิ์น้อยลงก็เพราะว่าโดนจับฉีดยา(ไม่แน่ใจว่ายาอะไร แต่ประมาณว่าให้นอนหลับไปสักพัก เพื่อจะได้ x-ray ให้ได้  แต่ฤทธิ์ยาคงไม่ถึงใจเท่าใด  อาการไม่ยอมก็ยังคงมี แต่ก็สามารถผ่านไปด้วยดี)

หมอวิเคราะห์เบื้องต้นว่า หัวใจน่าจะมีปัญหา  มีเส้นเลือด 1 เส้นเหมือนจะขอดอยู่  จึงฉีดยาที่ไม่ทำให้เลือดแข็งตัว  เพื่อรอดูอาการอีกครั้ง  และได้ให้ฉีด ทุก ๆ 8 ชั่วโมง ผ่านเส้นเลือดดำ  เอาละสิ….ทีนี้คุณแม่ก็เป็นหมอจำเป็นไปตามระเบียบอีกครั้ง    ถนัดนักเรื่องฉีดยา  เพราะประสบการณ์จากการฉีดยาแก้อักเสบให้คุณแม่มีอยู่  แต่ครั้งนี้ดีขึ้นมาที่ยาชนิดนี้คุณหมอได้จัดใส่เข็มไว้ให้เรียบร้อย และเจาะเข็มทำปลั๊กไว้ให้  จึงไม่เป็นปัญหาเท่าใดนัก  พร้อมกับได้ฉีดยาแก้อักเสบ ยาแก้ไข้ให้ และนัดเจอหมอหัวใจในวันอาทิตย์ 

3 ชั่วโมงช่วงบ่ายกับการพาเจ้าลูกชายไปพบหมอ เป็นวีรกรรมที่น่าจดจำทีเดียวล่ะ  เนื่องจากได้ให้น้ำเกลือ  เพราะท่าทางมีอาการเพลีย  จึงให้ไปนอนรอในรถและได้กลับไปจ่ายตังค์  งานนี้จ่ายไป 2,200 บาท  (แต่แม่ก็ยังสบายใจอยู่) กลับมาที่รถปรากฏว่า  เจ้าลูกชายทำเหตุ  คงมองหาแม่ไม่เจอเดินทั่วรถ สายน้ำเกลือหลุด  เลือดเลอะเทอะเต็มเบาะรถ  จึงไปให้หมอปิดปลั๊ก เพื่อจะได้ไว้ฉีดยาต่อไป  ขณะพานั่งรถกลับบ้าน  น้องหมาคงเวียนหัวเล็กน้อย จึงเกิดอาการอ๊วกใส่รถแม่อีก  งานนี้ นอกจากจะเลือดแล้วยังอ๊วกอีก ลูกหนอลูก  ไม่เป็นไร ไงก็เช็ดล้างออก  จะไปสนทำไม เปื้อนได้ ก็สะอาดได้

หลังจากนั้นได้พาเจ้าลูกชายไปแวะหาพี่ ๆ ที่ทำงาน  เพราะเขาจะเป็นที่รักของหลาย ๆ คน  พี่ ๆ เห็นลูกชายแล้ว  ต่างชื่นชมยินดีว่าตั้งแต่โตมานี่เป็นน้องหมาที่มีมารยาทมาก ว่านอนสอนง่าย ไม่ดื้อ แต่ความน่ารักยังเหมือนเดิม (อิอิ….อันหลังนี่เติมเองค่ะ)

กลับบ้านไป ก็ยังเล่นได้ แต่ไม่ซนเหมือนเดิม จะมีอาการคล้าย ๆ เหนื่อยหอบเป็นบางครั้ง  ไม่ยอมกินข้าว แต่กินหมูสะเต๊ะไป 20 ไม้เอง 55555

กลางคืนห้าทุ่ม ฉีดยาให้ ปรากฏว่าปลั๊กที่คาไว้เกิดหลุด เลือดไหลเยอะมาก  จึงถอดเข็มออก และจัดการล้างบริเวณขาที่เปื้อนเลือดให้  และคืนนั้นก็ผ่านไปโดยดี แต่มีสิ่งที่ไม่ดีคือแม่ดูดีวีดีเรื่อง 24 ชั่วโมงอันตราย  และชอบเปิดให้มันกระหึ่มทั้งห้อง  ไม่รู้งีบไปตอนไหน  เช้ามาปรากฏว่าข้างบ้านถัดไปเป็นตึกแถว ห้าคูหา 2 ช่วง ช่วงที่ 2 ห้องที่สามเกิดไฟไหม้หมดทั้งห้อง  รถดับเพลิง 3 คันมาช่วยดับ  แต่แม่ไม่ได้ยินเลย  ตื่นขึ้นมาขี่รถไปซื้อข้าว  ถึงเห็นสภาพของตึกแถว ตกใจมาก  น้องสาวบอกว่าถ้าไฟไหม้บ้านป่านนี้คงไม่เหลือซากแล้ว  อิอิอิ

เช้าวันที่สี่  ต้องตื่นแต่เช้า เพราะต้องฉีดยาเวลา 07.00 น.  แต่แม่ไม่สามารถฉีดให้ได้  เนื่องจากเข็มที่ใส่ไว้หลุดไปแล้ว  จึงพาไป รพ.เพื่อให้หมอเจาะให้ใหม่  อาการของลูกชายก็ยังดี  หลังจากฉีดยาเรียบร้อยแล้ว ก็เดินเล่นรอบ ๆ  รพ. อย่างสบายใจ  ได้พาขับรถเที่ยว  และกลับบ้านและซื้อหมูปิ้ง ตับปิ้งให้  แต่เธอไม่ยอมกิน  เอาไงดีล่ะไม่กินข้าว  นมก็ไม่กิน   จึงไปต้มข้าวบดข้าวและกรองเอาน้ำข้าวใส่สลิ้งป้อนให้  ยอมกินบ้างไม่กินบ้าง  แต่ก็ต้องบังคับเป็นระยะ ๆ  เพราะเวลาที่ดื้อ ๆ ไม่ยอม อาการเต้นของหัวใจจะเพิ่มมากขึ้น  งานนี้ต้องอดทนค่ะ

เย็น ๆ รู้สึกซึมมากขึ้น แต่ก็ยังเดินไปเอาก้นจุ่มน้ำ และมานั่งสบายใจเพลิน (ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ชอบมาก ๆ อ่างเลี้ยงปลาที่บ้านกี่อ่าง ๆ พี่แกไปนั่งจุ่มหมด  พี่ปลาทั้งหลายก็เลยไม่มีวาสนาได้อยู่ดูโลก  จึงจำเป็นต้องเลิกเลี้ยงปลาโดยปริยาย  แต่หาถังไว้ให้จุ่มแทน)  แต่วันนี้อาการเพลียมีมากขึ้น จึงนำไปนอนด้วยในห้อง  ซึ่งก็ไม่ดื้อไม่ซน ไม่ค้นข้าวของ  เดิน ๆ นอน ๆ ไปทั่วห้อง เดี๋ยวเดิน ๆ มานอนข้าง ๆ เดินไปนอนมุมนั้น มุมนี้ทั้งคืน  แม่ก็งีบไปตอนตี่สามกว่า ๆ แต่ก็ตื่นตลอด จะลืมตามาดูว่าอยู่ที่ไหน นอนหรือเปล่า 

เช้าวันที่ห้า  จนกระทั่งหกโมงเช้า ก็ตื่นเพราะต้องเตรียมฉีดยาให้เวลาเจ็ดโมง  มองหาไม่เห็นปรากฏว่าไปนอนในห้องแต่อาการหายใจอ่อนมากและหายใจขัด จึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแจะอุ้มขึ้นรถไปหาหมอ  ตอนนั้นปฏิกิริยาเริ่มไม่ตอบสนอง  ไปถึง รพ.ใช้เวลา 5 7 นาที  ปรากฏว่าไม่หายใจแล้ว  หมอช่วยกันปั๊มหัวใจ อยู่นานมาก  แต่ไม่มีอาการตอบสนอง  จึงปล่อยให้เขาไปอย่าง….สบาย…..

ฉันโทรหาน้อง  ว่าจะจัดการกับลูกชายอย่างไร  และตัดสินใจให้หมอชันสูตรศพลูกชายด้วยว่าตายเพราะเหตุใด (ค่าชันสูตร  400 บาท)   โดยเหตุ

1.  ฉันอยากรู้ว่าเจ้าลูกชายเป็นอะไรตาย  และเนื่องจากฉันมีลูกชายเหลือที่บ้านอีก 1 ตัว  ฉันจะได้คอยดูแล และระวังให้มากขึ้น

2.  ฉันอยากให้เป็นวิทยาทานแก่หมอ  เนื่องจากหมอทั้งคลินิก และ รพ. ไม่ทราบสาเหตุว่า ลักษณะอาการที่ลูกชายฉันเป็นนี่มันเกิดจากอะไร  และตายเพราะอะไร  จะได้เป็น case ให้หมอไว้ศึกษาต่อไป

3.     ฉันดีใจที่ลูกชายฉันจะได้เป็นอาจารย์ ให้นักศึกษาสัตวแพทย์ไว้ศึกษาเพื่อเป็นวิทยาทานต่อไป

 

นับเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตและทำให้ฉันเสียใจ 

แต่ต้องขอบคุณเจ้าลูกชายที่สอนให้แม่ได้เรียนรู้ความเป็นชีวิตที่อยู่บนโลกนี้ 

สอนให้ฉันรู้จักให้ และรู้จักรับ 

สอนให้ฉันได้รู้จักการเกิดและการพลัดพรากอีกครั้งหนึ่ง 

โลกใบนี้ไม่มีอะไรที่อยู่คงทนถาวรนอกจากความดีงาม 

ฉันเสียใจ แต่ก็ดับได้ไว  แต่มันก็เกิดขึ้นในทุกขณะเวลาของวันอาทิตย์  แต่ฉันก็ยอมรับกับความจริงที่เกิดขึ้น

มีพบ  ต้องมีพลัดพราก

ฉันได้ไปทำบุญใส่บาตรให้ลูกชายที่หน้าอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย อุทิศส่วนบุญกุศลไปให้ เพียงเพื่ออยากให้เขาได้ไปอยู่ในพบชาติที่ดีต่อไป

หลับให้สบายนะลูกรัก……แม่ดีใจที่ลูกได้เป็น อาจารย์….

Post to Facebook

« « Prev : เมื่อลูกชายไม่สบาย

Next : รายชื่อผู้ร่วมงานเฮฮา 6 “เชียงรายรำลึก” 9 - 11 มกราคม 2552 » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

7 ความคิดเห็น

  • #1 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 กันยายน 2008 เวลา 15:50

    …แม้ชาติก็เป็นทุกข์ แม้ชราก็เป็นทุกข์ แม้มรณะก็เป็นทุกข์ แม้โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส เป็นทุกข์ ความประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก เป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากสิ่งที่รักเป็นทุกข์ แม้ความปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สมหวังก็เป็นทุกข์ โดยย่อ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์…

    ติตถสูตร

    สัตว์โลกมีอายุไขเป็นธรรมดาครับ

  • #2 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 กันยายน 2008 เวลา 15:58

    ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

  • #3 Sasinand ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 กันยายน 2008 เวลา 17:31

    เสียใจด้วยนะคะ

  • #4 rani ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 กันยายน 2008 เวลา 19:52

    ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ
    เขาไปสบายแล้ว ยิ้มๆๆๆ ไว้ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ

  • #5 msompit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 กันยายน 2008 เวลา 11:26

    น้องอึ่งจ๋า…
    ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ ขอให้เธอไปสู่ภพชาติที่ดี ป้าจุ๋มเข้าใจดีค่ะว่าเสียใจขนาดไหน นี่ป้าจุ๋มก็เพิ่งเสียสุนัขแสนรักไปอีกตัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเธอชื่อน้องแหลม(เธอถูกงูกัด)รีบพาไปโรงพยาบาลเพื่อฉีดเซรุ่ม คุณหมอได้พยายามเต็มที่ แต่ก็ช่วยไม่ทันเพราะเป็นงูเห่าและโดนกัดที่ลิ้น ก็นำเธอมาฝังไว้ใกล้ๆหลงจู้ค่ะ เพราะตัวนี้เขารักกันมากกับหลงจู้ ฝากกอดๆๆๆน้องอึ่งค่ะ คิดถึงๆๆๆ

  • #6 สิทธิรักษ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 กันยายน 2008 เวลา 15:43

    ซี่รี่ส์นี้น่าสนใจ มีภาคต่อไปไหม

  • #7 Anonymous ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 กันยายน 2008 เวลา 7:53

    สวนป่าฮาเฮ

    เรื่องนี้ยิ่งกว่าVCD.24 ชั่วโมงอันตรายอีก อ่านแล้วหัวใจจะวาย ไฟไหม้ข้างบ้านก็เฉยๆ
    เป็นวิธีลดความตื่นเต้นได้ชะงัดมาก อามิตรพุทธ นะน้านะ..


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 1.0153841972351 sec
Sidebar: 0.91386985778809 sec