ผู้กล่าวคำเท็จอยู่ จะไม่ทำความผิดอื่น เป็นไม่มี
เรื่องมีอยู่ว่า
นาย ก. ไปพบสาวแสนสวยผู้หนึ่งในงานเลี้ยง ด้วยความต้องตาเพราะท่าทางที่น่ารักของเธอ จึงเดินเข้าไปทำความรู้จักหวังตีสนิทด้วย “ขอโทษครับ ขอผมนั่งคุยด้วยสักครู่ได้ไหมครับ”
“อุย เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่าครับ”
”เปล่าหรอกครับ แค่ผมพบคุณครั้งแรกผมรู้สึกเหมือนมีแม่เหล็กทางจิตที่ดูดผมให้เข้ามาทำความรู้จักกับคุณ”
”ดื่มวายเย็น ๆ สักแก้วไหมครับ”
“ไม่ละคะ ผิดศีลข้อ 5 ดิฉันไม่ดื่มน้ำเมาทุกชนิด”
“ไม่เช่นนั้น ผมขออนุญาตตักข้าวขาหมูปากซุงให้คุณทานสักจากได้ไหมครับ”
”อย่า เลยคะ ดิฉันเป็นมังสวิรัต ไม่ทานเนื้อสัตว์ เพราะดิฉันคิดว่าการทานเนื้อสัตว์เป็นการส่งเสริมให้มีการทำร้ายชีวิตสัตว์ ดิฉันสงสารมัน ผิดศีลข้อที่ 1 ค่ะ”
”ถ้าคุณไม่รังเกลียด เสาร์นี้ผมอยากจะขอชวนคุณไปเที่ยวหัวหิน ผมมีบ้านพักตากอากาศอยู่ที่นั้น”
”ไม่ดีดอกค่ะ หญิงชายไปในที่ลับตาคนสองต่อสอง มันไม่งาม หากไม่มีสติที่ดีพอสถานการณ์มันง่ายที่จะทำให้เราต้องผิดศีลข้อ 3″
“ผมไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น”
“คุณจะรับผมเป็นเพื่อนสักคนได้ไหมครับ” พร้อมหยิบดอกกุหลาบสีชมพูให้
“ไม่ดีหรอกค่ะ กุหลาบดอกนี้เป็นของเจ้าของงาน ไม่ใช่ของคุณ ถ้าดิฉันรับมาก็เหมือนร่วมทำผิดกับคุณคือลักทรัพย์ มันผิดศีลข้อที่ 2 นะคะ”
“มิได้ค่ะ มีศีลข้อเดียวเท่านั้นที่ดิฉันไม่สามารถรักษาได้ คือ ศีลข้อที่ 4 ”
“….!….”
มิน่าเล่าถึงได้พุทธวจนะที่ว่า… “ผู้กล่าวคำเท็จอยู่ จะไม่ทำความผิดอื่น เป็นไม่มี”
โทษของการละเมิดศีลข้อที่ 4
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า มุสาวาท (พูดปดหลอกลวง) ที่บุคคลทำจนคุ้น ฯลฯ ย่อมเป็นเหตุให้เกิดในนรก ฯลฯ
วิบาก คือ เศษกรรมของการพูดปดหลอกลวง อย่างเบาที่สุด ย่อมชักให้ผู้ทำ ซึ่งเป็นมนุษย์กลายเป็นคนถูกกล่าวตู่ด้วยความเท็จ
จากคำสอนของพระพุทธองค์ทำให้เห็นว่า กรรมหรือผลกรรมของการโกหกนั้นพอสรุปคร่าวได้ดังนี้
ผลที่เกิดขึ้นเป็นการภายนอก
เห็นง่าย คือ คนเขาจะไม่เชื่อถือ พูดอะไรไปแม้จริง ก็มีกระแสบางอย่างทำให้เข้ารู้สึกมัว ๆ ขัด ๆ เพราะคนโกหกประจำจะดูกะล่อน ๆ สัมผัสรู้สึกได้
ผลที่เกิดขึ้นเป็นการภายใน
เห็นยาก แต่รู้ได้ถ้าเลิกเข้าข้างตัวเอง คือใจจะปรุงแต่ง ฟุ้งไปในอุปาทานนานาชนิดอยู่ตลอด หลอกคนอื่นบ่อย ๆ ในที่สุดก็หลอกกระทั่งตัวเอง ยิ่งหม่นมืดยิ่งมองไม่เห็นว่าหลอก นึกว่าดี นึกว่าไม่เป็นไร
การโกหกเป็นเรื่องที่ไม่ดีอยู่แล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่ที่กรณีบางครั้ง บางคนอาจโกหกเพราะจำใจ แต่ที่แน่ ๆ พวกโกหกทำให้คนอื่นดูไม่ดีในสายตาคนอื่น ทั้ง ๆ ที่แท้จริง คน ๆ นั้นเป็นคนดี อันนี้บาปหนา บาปหนักแน่นอน
ฉันเคยเจอมาก็หลายครั้งหลายครา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขาโกหก แต่ก็บอกไปเสมอ ว่า”ไม่เป็นไร” บอกกับใจตัวเองว่า ฉัน “อภัยให้” แต่ผลของการกระทำที่เขาทำ มันก็ยังเป็นบาปติดตัวเขาไป “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม”
ข้อมูล : http://www.thammachuk.com
ศีลข้อ 4 การพูดปด หลอกลวง ส่อเสียด เพ้อเจ้อ พูดให้คนเข้าใจผิด ประชดประชัน…
ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่าเป็นข้อที่เมื่อละเมิดแล้ว จะไม่สามารถหรือรักษาศีลข้ออื่น ๆ ได้ยากที่สุด เพราะเมื่อโกหกแล้ว จะต้องโกหกต่อเนื่องเพื่อรักษาไว้ซึ่งคำลวงไม่จริงที่ได้กล่าวแล้วนั้น
และจริงที่สุดค่ะ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม (ที่ได้ทำ ได้สั่งสมไว้)
ความคิดเห็น โดย freemind — 16 มิถุนายน 2010 @ 8:49 (เย็น)