บันทึก … ชนบท

ไม่มีความคิดเห็น โดย พระจันทร์ เมื่อ 22 กันยายน 2014 เวลา 11:27 (เช้า) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 3672

ห่างหายไปนานมากกกกกกกกกกกกกกกก ที่จริงก็ไม่นานนะคะ แค่ 1 2 3 ปี เท่านั้นเอง!!!!

^^ สวัสดี คุณลุงๆป้าๆ น้าๆ อาๆ พี่น้องทุกท่านน ณ ตอนนี้พระจันทร์ดวงกลมๆ ดวงนี้ได้สำเร็จการศึกษาเรียบร้อยแล้ว ช่วงนี้ได้มาใช้ชีวิตอยู่ในอำเภอแห่งหนึ่ง ในจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งระหว่างเดินทางจากตัวเมืองมา สองข้างทางยังเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวขจี อำเภอยังไม่ใหญ่มาก มีประชากร 10,000 คน รพ. ขนาด 30 เตียง ที่สำคัญในโรงพยาบาลมีที่ให้วิ่งเล่นด้วยคะ ^^ อันนี้ปลาบปลื้มใจสุดๆ

เมื่อได้มาอยู่ รพ.ช. งานไม่เยอะเท่ารพ.ศูนย์ หรือ รพ.จังหวัดคะ เคสไม่ยากเท่า แต่รพ.ช.ก๋มีเสน่ห์เฉพาะตัว คือที่นี่เราจะได้ใกล้ชิดคนไข้มากขึ้น ได้รู้จักคนไข้ของเรา ชีวิตของเค้ามากขึ้น  เพราะมันเป็นชุมชนไม่ใหญ่เท่าไหร่นัก มาถึงนี่เลยเพิ่งได้สัมผัสถึงคำว่า แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวว่ามันมีข้อดียังไง มันคงจะดีใช่ไหมคะ ถ้าเรามีหมอเป็นคนพื้นที่นั้นๆ ที่จะอยู่ดูแลคนไข้ในพื้นที่นั้นๆตลอด ไม่ใช่เฉพาะงานรักษา แต่คืองานป้องกัน สอนความรู้เบื้องต้นทางสาธรณสุขให้คนบ้านเราด้วย คิดๆแล้วมันก็เป็นสาาที่เท่ห์ไม่หยอกเลยนะคะ ถ้าเรามีหมอเชี่ยวชาญด้านนี้มากๆคงจะดี คนไข้จะได้มีความรู้รักษาตัวเองเบื้องต้นด้วย

แต่ได้ยินมาว่า ต่างประเทศ สาขานี้มีแต่คนอยากเรียน แต่ในเมืองไทย หาคนเรียนได้น้อย และยังเป็นสาขาที่ขาดแคลนอย่างมากคะ คงเพราะเราไม่ใช่คนพื้นที่นั้นๆ และค่านิยมด้วย แต่เชื่อว่าสักวัน สาขานี้คงมีคนสนใจงานมากขึ้น หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะคะ

ว้าวววว ยาวเชียว แต่ไม่ค่อยได้แก่นสาน 555+ เขียนเรื่อยเปื่อยไป อยากเขียนอะไรก็เขียน อิอิ

แต่คาดว่าช่วงนี้คงเข้ามาบ่อยหน่อย ไว้เจอกันใหม่นะคะ

ขอให้แข็งแรงไม่เจ็บไม่ไข้น้าาา


คนใกล้ตัว ??

1 ความคิดเห็น โดย พระจันทร์ เมื่อ 8 กรกฏาคม 2012 เวลา 11:44 (เช้า) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 4024

^^ เช้าวันอาทิตย์ อากาศกำลังเย็นสบาย น่านอนอยู่บนเตียงนุ่มๆ กลิ้งไปกลิ้งมาจังเลยคะ ถ้าไม่ติดว่า มีสอบพุร่งนี้ ?>?Q

(แล้วมานั่งเขียนบล๊อกอยู่ได้ไงเนี่ย !!!!) ช่วงนี้ฝนตกหนักแถวอุบล ตกจนออกไปไหนไม่ได้ แว่วว่าน้ำจะท่วม ว่าแต่จะท่วมมาถึงโรงบาลไหมเนี่ย 555++ วันนี้มาว่าด้วยเรื่องคนใกล้ตัวกัน คนเราทำไมไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยุ่ใกล้ตัว ไม่ทำดีกับคนที่ใกล้ชิด คนที่ดีกับเรา แต่ไปทำดีกับใครก็ไม่รู้ ซึ่งไม่ได้ดีได้เ่ท่าคนใกล้ๆตัวเราทำให้เลย กับครอบครัวเรื่องนี้ให้ความสำคัญอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ฉันอยุ่หอ ฉันขอพูดถึงในแง่คนใกล้ชิด ที่เรียกวา่า เพื่อน ละกััน

ฉันมีเพื่อนที่ฉันรักคนหนึ่ง เค้าก็รู้ว่าฉันรัก ฉันปรารถนาดีกับเค้า แต่บางอารมณ์ฉันไม่เข้าใจ ทำไมเค้าชอบพูดทำร้ายน้ำใจฉัน ทำไมเค้าไม่พูดรักษาน้ำใจเค้า แต่เค้ากับไปทำดีกับเพื่อนคนอื่น เพื่อนคนที่ในวันที่เค้ามีทุกข์ เพื่อนคนที่ไม่ได้อยุ่เคียงข้างเ้ค้าในยามที่เค้าประสบปัญหา แต่ฉัน คนที่ยืนอยู่กับเค้าตลอดเวลา เค้ากับไม่ใส่ใจ ?? ฉันไม่เข้าใจเลย

เพราะถ้าหากเป็นฉัน คนที่ฉันจะใส่ใจมากที่สุด คนที่ฉันจะให้ความสำคัญกับเค้ามากที่สุด คือคนที่อยุ่กับฉัน คนที่ร่วมทุกข์กับฉัน แต่กับคนอื่นที่ไม่ได้มีควาสำคัญอะไร ฉันก็แค่จะประคับประคองความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ทำร้ายคนที่ดีกับเรา แล้วไปดีกับคนอื่น ??

เฮ้อออออออออออ มนุษย์


อาการเครียดเรื้อรัง

3 ความคิดเห็น โดย พระจันทร์ เมื่อ 8 มิถุนายน 2012 เวลา 11:31 (เช้า) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 4354

ช่วงนี้เริ่มรู้สึก ไม่อยากอาหาร แต่ท้องก็หิว ต้องหาอะไรปะทังเป็นมื้อๆไป

ตอนนอนก็นอนไม่ค่อยหลับ กระสับกระส่าย รู้สึกกระวนกระวายตลอดเวลา ใจหม่นๆตลอดเวลา เวลาในห้องเรียนก็เหม่อลอย ไม่ค่อยมีสมาธิ ดูๆอาการน่าจะเป็นของอาการเครียดเรื้อรังที่สะสมมานาน (กับเรื่องไร้สาระ) วันนี้เลยได้มีโอกาสไปทำแบบประเมินสุขภาพของกรมสุขภาพจิตมา คะแนน 30 ขึ้นไปถือว่าเครียดรุนแรง ถ้า 26-29 ถือว่าเครียดปานกลาง !! คะแนนที่ได้คือ 29 คะแนน ซึ่งเค้าบอกว่า

“ระดับคะแนน 26-29 ท่านมีความเครียดอยู่ในระดับสูงกว่าปกติปานกลาง ขณะนี้ท่านเริ่มมีความตรึงเครียดในระดับ
ค่อนข้างสูงและได้รับความเดือนร้อนเป็นอย่างมากจากปัญหาทางอารมณ์ที่เกิดจากปัญหาความขัดแย้ง และ
วิกฤตการณ์ ในชีวิตเป็นสัญญาณเตือน ขั้นต้นว่าท่านกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตและความขัดแย้ง ซึ่งท่านจัดการ
แก้ไขด้วยความยากลำบากลักษณะดังกล่าวจะเพิ่มความรุนแรง ซึ่งมีผลกระทบต่อการทำงานจำเป็นต้องหาวิธีการ
แก้ไขข้อขัดแย้งต่างๆ ให้ลดน้อยลงหรือหมดไปด้วยวิธีการอย่างใด อย่างหนึ่ง สิ่งแรกที่ต้องการรีบจัดการคือ ท่าน
ต้องมีวิธีคลายเครียดที่ดีและสม่ำเสมอทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง ครั้งละ 10 นาที โดยนั่งในท่าที่สบาย หายใจลึกๆ ให้
หน้าท้องขยาย หายใจออกช้าๆ นับ 1-10 ไปด้วย ท่านจะใช้วิธีการนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ก็ได้ ท่านควรแก้ไขปัญหา
ให้ดีขึ้น โดยค้นหาสาเหตุของปัญหาที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง หาวิธีแก้ไขปัญหาหลายๆวิธี พร้อมทั้งพิจารณาผลดี
ผลเสียของแต่ละวิธี เลือกวิธีการที่เหมาะสมกับสภาวะของตนเองมากที่สุด ทั้งนี้ต้องไม่สร้างปัญหาให้เพิ่มขึ้น หรือ
ทำให้ผู้อื่นเดือนร้อน วางแผนแก้ไขปัญหาเป็นลำดับขั้นตอน และลงมือแก้ปัญหา หากท่านไม่สามารถจัดการ
คลี่คลาย หรือแก้ปัญหาด้วยตนเองได้ควรปรึกษากับผู้ให้การปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตตามหน่วยงานต่าง ๆ”

อือ เครียดในขั้นน่าเป็นห่วงจริงๆละ ตัวเองก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้นะ เพียงแต่ว่า มันรุ้สึก เหม่อลอย ไม่อยากทำอะไร

เคยเป็นครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว (กับสาเหตุเดียวกันกับปีนี้) กว่าจะเยียวยาได้เกือบปี ปีที่แล้วที่มีอาการก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับปีนี้แหละ ช่วงเดียวกันเลย อาจเป็นไปได้ไหมคะว่า เพราะช่วงเวลาเดิมๆ สภาวะแวดล้อมใกล้เคียงกับเหตุการณ์เดิมๆ ใจเราเลยหม่นหมองเหมืือนเดิมๆ

หนูอยากมีสมาธิเรียนคะ ไม่อยากคิดอะไรเลย อยากหายเร็วๆ งานก็มีอยู่เป็นภูเขา แต่ก็ไม่คิดอยากทำ T>T จะทำอย่างไรดีคะ ช่วยชี้แนะที


ห่างหายไปนาน …

2 ความคิดเห็น โดย พระจันทร์ เมื่อ 6 มิถุนายน 2012 เวลา 9:31 (เย็น) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 4510

ห่างหายจากการเขียนบันทึกไปประมาณ 1 ปี วันนี้ได้โอกาสดีๆเลยมาเขียนบันทุกใหม่ สวัสดีคุณลุงๆ ป้าๆ น้าๆ อาๆ ทุกคนนะคะ ไม่รู้ว่าจะลืมกันหรือยัง ^___________^ ตอนนี้หนูได้ขึ้นเรียนอยู่ชั้นปี 5 แล้ว อีก 1 ปีก็จะจบ แต่……………….. ทำไมรู้สึกว่ายังรู้อะไรไม่มากพอเลย วิชาแพทย์เป็นวิชาที่ความรู้้ไม่มีที่สิ้นสุดเลย เวลาหกปี ก่อนเข้ามาเรียน รู้สึกว่ามันนานจัง แต่พอเข้ามาเรียนแล้วกลับรู้สึกว่า ทำไม มันไม่พอ !!!!!!!!!!! เพิ่งเรียนจบวิชาเวชศาสตร์ครอบครัวในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปอยู่โรงพยาบาลชุมชน ได้เจอแพทย์ชนบทซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีๆมามากมาย แพทย์ผู็้ซึ่งเสียสละ แพทย์ที่ไม่ได้เห็นแก่เงิน แพทย์ที่ดูแลบุคคล ไม่ใช่ดูแลโรค หนึ่งในบุคคลที่ประทับใจ คือ นายแพทย์ธวัติ แพทย์ชนบทดีเด่นปี 49 ตลอดเวลา 5 วันที่อยุ่โรงพยาบาล เดินไปที่ไหน ไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ท่านใด ทุกคนต่างชื่นชมให้ฟังทั้งนั้น และยิ่งได้มีโอากสพูดคุย ได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ ก็ยิ่งรู้สึกประทับใจ รู้สึกดีมากเท่านั้น  การเจอตัวอย่างที่ดีๆ มีค่ามากกว่าคำสอน เจอ…แล้วทำให้เราเกิดแรงบันดาลใจ ทำให้เราได้มีแบบอย่างดีๆในกาำรดำเนินรอยตาม ^^

เวลา 1 ปี มีอะไรผ่านเข้ามามากเหลือเกิน หลายอย่างเข้ามาทำให้เราเข้มแข็งขึ้น เชื่อแล้วว่า ประสบการณ์จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น แต่ปัญหาหนึ่งที่ยังแก้ไม่ตก ปัญหาติดตัว กลัวจริงๆว่าจะรักษาไม่หาย ก็ไอ้อาการคิดมากนะสิคะ แต่ก็ยังดีที่มันไม่คิดมากเท่าปีที่แล้ว แต่มันก็ยังคิดอีก บางเรื่องไร้สาระมากๆ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะนำมาสนใจ ก็ยังคิด คิดทั้งคืน จนทำให้นอนไม่หลับ แล้วก็หันมาบอกตัวเองว่าไร้สาระวะ แต่คืนต่อไปก็ยังคิด ต้องพยายามเลิกคิด  (อีกครั้งและอีกครั้ง) หลังจากเคยทำได้เมื่อปีที่แล้ว ครั้งนี้ก็ต้องทำได้ ^^

ช่วงนี้อุบลราชธานี อากาศร้อนมากเลยคะไม่รู้ว่าที่อื่นเป็นอย่างไีร อากาศร้อน ใจคนก็ร้อน เฮ้อออออออออออออออออออออ ไว้บันทึกครั้งหน้าจะมาบ่นต่อดีกว่า อยากมาบ่นเรื่องโลกไซเบอร์ >,< ครั้งนี้ขอลาก่อนนะคะ


Block ที่ 2 ของการเรียน

ไม่มีความคิดเห็น โดย พระจันทร์ เมื่อ 12 กันยายน 2011 เวลา 9:39 (เย็น) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 4612

ห่างหายไปนานเลยแหะเรา ^^ นี่ก็เข้าหน้าฝนแล้ว ฝนตกทั้งเช้า ทั้งเย็น ทั้งกลางคืนเลย ยังไงก็รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ คุณน้าคุณอคุณลุงทั้งหลาย ตอนนี้หนูอยู่บล๊อกที่สองของการเรียนแล้วคะ ผ่านบล๊อกศัลยกรรมมาแล้ว ตอนนี้ก็เข้าสู่บล๊อกอายุรศาตร์แล้ว ได้ยินกิตติศัพท์ร่ำลือของบล๊อกนี้มามาก ทั้งงานหนัก ต้องตื่นแต่เช้า เรียนเยอะ ไม่ค่อยมีเวลาว่าง ก็เลยกลัวตั้วแต่ยังไม่ได้ขึ้นว่า เราจะมีเวลาส่วนตัวไหมเนี่ย  กลัวว่าจะเหนื่อย กลัวนอนไม่พอ(นี่แหละประเด็น) สารพัดสารเพเลยคะ แต่พอได้ขึ้นมาจริงๆ ตื่นเช้าไหม เช้าคะ ไม่คิดว่าจะต้องตื่นตีห้ากว่าๆ หกโมง ตั้งแต่วันจันทร์ถึงอาทิตย์ เพื่อไปราวน์วอร์ด แต่นี่ยังพอตื่นได้นะคะ เพื่อนบางคนเนี่ยอาจารย์ที่ราวน์ด้วยไปเช้า ต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่ก็ยังมี อิอิ ส่วนมากชีวิตเราจะมีพี่extern(พี่ปี6) คอยช่วยสอน ช่วยดูแลตามสายราวน์วอร์ดแต่ละคนคะ ชีวิตในตอนเรียนอายุรศายตร์จึงค่อนข้างอบอุ่น เพราะส่วนมากจะอยู่กันเป็นสาย บางสายไล่มาตั้งปต่ dent , intern , extern, ปี 4 กลายเป็นครอบครัวใหญ่ไปเลย ไม่เหมือนตอนเรียนอยู่ศัลย์ เพราะช่วงนั้นจะไม่ค่อยได้พูดคุยกับพี่ปี 6 เลย ถึงศัลย์จะไม่ต้องตื่นเช้าเท่าเมทก็เหอะนพ แต่ละบล๊อกก็มีจุดเด่นที่ต่างกันไป สำหรับฉันนะ คิดว่า ศัลย์เนี่ยเด่นที่ระบบงานดี อยู่แล้วไม่เครียด อาจารย์ใจดี ส่วนเมทเนี่ยจะเด่นที่ความอบอุ่น ระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง มันก็เป็นความรู้สึกที่ดีอีกแบบนะ อาจจะเป็นเพราะฉันโชคดีด้วยก็ได้ พี่สายของฉันมี 3 คนมีพี่ dent หนึ่งคน Ext สองคน พี่ๆใจดีกันมากๆเลยละ และพี่ของฉันทุกคนก็เก่งมากๆด้วยนะ ถามอะไรพี่ก็จะตอบจะสอนทั้งหมด พี่ชอบสอน ชอบพาทำหัตถการต่างๆ แต่ฉันก็เป็นคนเฟอะฟะไม่ใช่น้อย แหะๆ ทำอะไรพลาดก็เยอะ แต่พี่ๆก็ยังใจดีกับฉันอยู่ อิอิ เพราะความน่ารักของพี่นี่แหละ ทำให้ฉันมีความสุขในการเรียนมาก พอเวลาว่างก็อยากขึ้นวอร์ด ขึ้นไปช่วยพี่ทำงาน (ถึงแม้จะทำอะไรไม่ได้ก็เหอะนะ) เพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นโรคแพ้คนดีก็งานนี้แหละ ฮา อาจารย์ก็ใจดีนะส่วนใหญ่ ไม่ได้ดุตามเสียงลือเสียงเล่าอ้างเลย แต่ใช่ว่าจะไม่มีเวลาก็มีบ้างแหละ แต่ฉันเพิ่งขึ้นมาอาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ที่สามเองเลยอาจจะยังไม่เจอก็เท่านั้น ส่วนเวลาว่างนะเหรอ ก็มีนะ เสา อาทิตย์ ถ้าไม่ได้อยุ่เวรเงี้ย ก็ถ้าราวน์วอร์ดเช้าเสร็จก็ว่าง อือ คิดว่าบล๊อกนี้เป็นการใช้ชีวิตที่คุ้มดีแหะ มันเหมือนการบังคับให้เราขยัน(กว่าเดิม) ไปในตัว รู้สึกว่าใช้ชีวิตคุ้มค่าดี อิอิ คือ ที่มาเขียนในวันนี้ สาเหตุมีเพียงว่า ปลื้มพี่สายของตัวเองมากกก ปลื้มไม่ไหวแล้ว พวกพี่ๆน่ารักกันมาก เลยอยากให้ที่ระบาย อิอิ มันก็เป็นอีกความรู้สึกหนึ่งที่ดีๆ เป็นความประทับใจอีกครั้งหนึ่งในชีวิตนะ อือ ก็ตั้งแต่ขึ้นปีสี่มา ได้เจออะไรมาบ้าง ทั้งคนไข้ ทั้งระบบการเรียนคิดว่าคิดไม่ผิดที่เลือกเรียนทางนี้ รู้สึกภูมิใจ มันเป็นความรู้สึกที่ดี ^^ อิอิ ก็ก่อนจะไปอยากฝากข้อความไปถึงพวกพี่ๆ (ถึงแม้พี่จะไม่ได้อ่านก็ตาม) พี่หญิง พี่เป้ พี่โจ้ ขอบคุณมากนะคะสำหรับสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ขอบคุณที่สอนหนูในหลายๆเรื่อง ขอบคุณสำหรับแรงบันดาลใจในการขึ้นวอร์ด แรงบันดาลใจในการพยายามลุกขึ้นมาจากที่นอน (พี่ๆคงไม่รู้หรอกหนูอยากมาเช้าๆเพื่อจะได้ช่วยอะไรพี่ได้บ้าง ถึงแม้จะช่วงไม่ค่อยได้ก็ตาม)  อิอิ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ขอบคุณคะ ^^


^^ โชคดีจัง

2 ความคิดเห็น โดย พระจันทร์ เมื่อ 15 สิงหาคม 2011 เวลา 5:49 (เย็น) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 4650

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเข้าอบรม จิตศึกษาพัฒนาปัญญา ซึ่งทางศูนย์แพทย์ได้จัดขึ้น ในระหว่าง วันที่ 12-15 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้ฟังชื่อตอนแรก อะไรฟะ - - ค่ายธรรมะหรือไง แต่ด้วยตัวเองเป็นคนสนใจแนวๆนี้อยู่แล้วเลยเกิดความสนใจว่าจะเข้า แต่ว่า !! สุดท้ายการอบรมนี้ก็บังคับให้ปี 4 เข้าทุกคนอยู่ดี การอบรมนี้จะเน้นกายภาวนา คือจดจ่ออยู่ในสิ่งที่ร่างกายเคลื่อนไหว รับรู้ไปในแต่ละข้อต่อว่าเราเคลื่อนไหวอะไร ให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวให้ได้อิสระดังที่ใจคิด ^^ แต่ปวดเมื่อยทั้งตัวเลย เพราะเคลื่อนไหวไปทุกส่วนจริงๆนี่แหละ ปวดจนวันแรกยันวันสุดท้ายก็ยังไม่หายปวด บางครั้งก็อาจารย์ก็จะให้สมมติตัวเองเป็น conductor ให้บรรเลงเพลงในจังหวะนี้สิ บางครั้งก็สมมติว่าเป็นคนตีกลอง บางทีก็ให้เป็นคนป่าวิ่ง ร้อง ไปทั่วหอประชุม ได้ทำอะไรแปลกๆที่ชีวิตนี้ไม่เคยทำเยอะเชียวละ

วิทยากรสามท่านที่มาอบรมอาจารย์วิธาน อาจารย์สกล และก็อาจารย์พัฒนา  หลังจากท่านได้กลับไปแล้วเพิ่งมาเซริ์ซชื่ออาจารย์ใน google แล้วเพิ่งรู้ว่าแต่ละท่านเนี่ยยิ่งใหญ่มากขนาดไหน เป็นโอกาสดีจริงๆที่ได้มาเข้าการอบรมครั้งนี้  ^^ รู้สึกว่าตัวเองโชคดี ที่มีโอกาสได้พบบุคคลที่มีแนวความคิดดีๆ มุมมองดีๆ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนา ตั้งแต่คราวไปสวนป่า แล้วมีโอกาสได้รู้จักครูบา และคุณลุงสุธีแล้ว และในครั้งนี้อีกเช่นกัน รู้สึกกลุ่มคนทั้งสองกลุ่มที่มีโอกาสรู้จักนี้ เป็นกลุ่มคนที่มีพลังอย่างน่าประหลาด พวกเค้าเชื่อ และทำในสิ่งที่เค้าเชื่อ ไม่รู้สินะ อธิบายไม่ถูก แต่รู้สึกว่าตัวเองช่างโชคดีจริงๆ

แต่ เฮ่อออออ เพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นคนอ่อนไหวง่ายขนาดนี้ การอบรมจบอารมณ์ยังไม่จบนะสิ สี่วัน ความรู้สึกผูกพันก็ต้องมี ช่างเป็นคนที่ปล่อยใจไปผูกพันกับสิ่งอื่นๆได้เร็วและง่ายเหลือเกิน ก็เลยมานั่งหงอย อารมณ์ประมาณหวิวๆ อยู่ดังเช่นตอนนี้ ก็เลยได้เข้ามาในลานปัญญามาระบายความรู้สึกกัน

การอบรมนี้ ฉันตอบไม่ได้หรอกนะว่าได้อะไรบ้าง ฉันรู้แต่ ฉันรู้สึกสบายใจ เป็นอิสระ เมื่ออยู่ในค่าย และฉันมีความรู้สีกที่ดีมากๆเมื่อได้พูดคุยกับวิทยากรหลังจบค่าย ได้ขอ FB ได้ขอถ่ายรูป และได้ขอกอด ! ตอนขอกอดเนี่ยซึ้งเลย ตอนกอดรู้สึกว่ามันเป็นพลังที่เข้มแข็งและอบอุ่นมาก เป็นพลังแห่งความสุข เฮ่อ พอจบค่ายปุ๊บก็มานั่งเพ้ออย่างนี้นี่แหละ

ขอบคุณใครหลายคนที่ทำให้งานครั้งนี้เกิดขึ้นนะคะ

ขอบคุณวิทยากรทั้งสามท่านสำหรับช่วงเวลาดีๆ

ขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้ฉันได้มาเข้าการอบรมครั้งนี้และอยุ่จนครบทุกวัน ฉันช่างโชคดีจริงๆ

ขอบคุณทุกๆคนในค่ายที่ร่วมแชร์ ความรู้สึก ความคิดดีๆให้กัน

ขอบคุณ ขอบคุณ และก็ขอบคุณคะ

 

เฮ่ออออออ เมื่อไหร่จะหายจากอาการหวิวๆเนี่ยยยยยย


วุ่นวายๆ จิตใจๆ และการเรียนใหม่ๆ

1 ความคิดเห็น โดย พระจันทร์ เมื่อ 4 สิงหาคม 2011 เวลา 8:55 (เย็น) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 4229

^^ หลังจากห่างหายไปนาน เพราะหลายสิ่งหลายอย่าง ทั้งภารกิจด้านการเรียนบ้าง เพราะต้องย้ายที่เรียน ต้องปรับตัวหลายอย่าง เพราะปัญหา(ขี้ประติ้ว) ที่แก้ไม่ออกสักที เลยมัวแต่เสียเวลาโทรไปปรึกษาคนนู้นคนนี้ ปรึกษาไปทั่วก็ไม่เห็นจะยักแก้ไขปัญหานั้นได้สักที วันนี้เลยลองมาคุยกับตัวเองอีกครั้ง เผื่อจิตใจจะกลับไปสงบอย่างเก่า ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการคืออะไรกันแน่ เฮ่อ ^^ ความคาดหวังหนอ ช่างเจ็บปวด ความยึดติดหนอ ช่างทรมานดีแท้ ในเมื่อรู้แล้ว ทำไมจึงปล่อยวางไม่ได้ เพราะอะไรหนอ จิตใจ ผ่านมาจะครึ่งปีแล้ว ทำไมยังปล่อยวางไม่ได้สักที พูดนะพูดได้ คิดนะก็คิดได้ แต่ให้ทำเนี่ยสิ ยากดีแท้ แต่หากไม่เริ่มวันนี้ แล้วเมื่อไหร่หนอจะทำได้ เริ่มใหม่ ถึงแม้จะไม่สำเร็จมากี่ครั้ง แต่ทุกครั้งที่เริ่มใหม่ เราก็เพิ่มมากกว่าครั้งเดิมมาหนึ่งระดับแล้ว ต้องทำให้ได้ สู้ๆๆ

 

ขึ้นปี 4 แล้ว ขึ้นมาใช้ชีวิตคลินิคแล้ว มีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตที่ต้องเปลี่ยนแปลง หนึ่งในนั้นคือความรับผิดชอบที่มากขึ้น รับผิดชอบต่อการราวน์วอร์ด การอยู่เวร การเขียนรายงาน เพราะไม่มีใครมาบังคับ ไม่มีใครมาคอยบอกให้ส่งงานอีกแล้ว เราต้องรับผิดชอบตัวเอง เพราะต่อไปไม่ใช่แค่งานเท่านี้ที่เราต้องรับผิดชอบ เราต้องรับผิดชอบชีวิตคน แต่จะว่าไปชีวิตคลินิคก็สนุกกว่าปรีคลินซึ่งวันๆต้องนั่งเรียนเลคเชอร์อยู่ในห้องมากเลยนะ เพราะได้สัมผัสกับผู้ป่วยจริง ได้สังเกตอาการ ได้ตรวจร่างกายกับผู้ป่วยจริงๆ และได้พูดคุยกับคนไข้จริงๆ ไม่ใช่จะนั่งคุยกับกระดาษเหมือนตอนปรีคลินิคอีกแล้ว ตอนนี้ฉันอยู่ในวอร์ด ศัลยกรรม หรือการรักษาโรคด้วยการผ่าตัดนั่นเอง อาจารย์หมออยู่ที่นี่ใจดีกันมากเลยละ อาจารย์แต่ละท่านมีจิตวิญญาณของการเป็นหมอและการเป็นครูที่สูงมาก แต่ก่อนฉันอาจจะเคยมองเหมือนใครหลายคนมองว่า เดี๋ยวนี้หมอเห็นแต่ประโยชน์ตัวเอง ไม่ค่อยเห็นถึงประโยชน์ส่วนรวมเหมือนสมัยก่อนแล้ว แต่เมื่อฉันมาสัมผัส เมื่อได้มาเรียนที่นี่ สิ่งที่ฉันได้รับรู้ก็ไม่ใช่อย่างนั้นอีกต่อไป อาจารย์หมอของฉัน ^^ ทุกท่านเก่งมาก ที่1 ที่ 2 ของประเทศ นอกจากเก่งแล้วท่านยังเป็นหมอที่ดี ดีมาก งานของอาจารย์แต่ละท่านหนักมาก จนฉันสงสัยว่าท่านมีเวลาส่วนตัวกันไหม เช้าก็ราวนด์วอร์ด สอนนักศึกษา เข้าผ่าตัด ออกตรวจผู้ป่วยนอก ตอนเย็นก็อยู่เวรถึงเช้าของอีกวัน จนฉันสงสัยเวลาส่วนตัวละอยู่ไหน?? ทั้งๆที่อาจารย์มีงานหนักแล้ว แต่อาจารย์ก็ทุ่มเทให้นักศึกษาอย่างเต็มที่ สอนทุกอย่าง ให้ทุกอย่าง ไม่เคยมีเลยที่อาจารย์จะขี้เกียจสอน หรือยกเลิกชั้นเรียนโดยไม่มีเหตุผล นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ฉันประทับใจเมื่อได้ขึ้นมาเรียนชั้นคลินิค และการประทับใจนั้นก็ต้องมี ประทับใจมากเป็นพิเศษด้วย ^^ ฉันอยากเล่าความประทับใจของฉันให้ฟังจัง ฉันประทับใจอาจารย์หมออยู่ท่านหนึ่ง อาจารย์เป็นหมอศัลยกรรมปัสสาวะ แต่จะว่าไปอาจารย์วอร์ดนี้ที่ฉันสัมผัสมามีแต่ท่านที่ใจดีมากๆ และก็เป็นหมอที่ดีและเก่งมากๆเลยละ ทำให้สองสัปดาห์ที่ฉันเรียนอยู่วอร์ดนี้ฉันมีความสุขมาก เอาละ ต่อเรื่องเดิมก่อนดีกว่า มาเล่าถึงอาจารย์ท่านที่ฉันประทับใจ ขอสงวนชื่อไว้ก่อนละกัน อิอิ อาจารย์เป็นคนใจดี ใจเย็น มากกกก อาจารย์ทุ่มเทในการสอนให้นักศึกษามาก อาจารย์ไม่ดุ ไม่ว่านักเรียน คราวนี้พออาจารย์ถามอะไร นักศึกษาตอบไม่ได้ พวกฉันก็จะรู้สึกผิดไปเอง ที่ทำให้อาจารย์ต้องผิดหวัง ไม่ต้องมาดุด่าว่ากล่าว พวกฉันก็รุ้สึกผิดแล้ว รุ้สึกผิดเพราะอาจารย์ไม่ว่านี่แหละ พอกลับหอ ฉันเลยอ่านหนังสือ เพื่อจะได้ตอบอาจารย์ได้ มีอะไรก็กระตือตือร้นเต็มที่เพราะกลัวอาจารย์เสียใจ ฮ่าๆ  ก็เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้ฉันกระตือรือร้นในการเรียน เพราะเกิดมานี่ไม่เคยเลยที่อยากจะกระตือรือร้นขนาดนี้ จะว่าไปการเรียนแบบราวนด์วอร์ดก็ดีนะ อาจารย์จะถามๆๆ พอตอบไม่ได้ ทำให้เรารู้สึกว่าอยากหาคำตอบ อยากรู้คำตอบเพื่อจะได้มาคุยกับอาจารย์รู้เรื่อง เราก็เลยไปหาหนังสือมาอ่านกัน ^^

มาว่าถึงเรื่องการทำหัตถการกันบ้างดีกว่า ศัลยกรรมเป็นวอร์ดที่มีงานหัตถกรรมมาก ในวอร์ด ก็มีทั้งเย็บแผล ล้างแผล ใส่สายสวนปัสสาวะ ใส่สายอาหาร ฉีดยา บลาๆๆ คราวนี้ก็สนุกฉันละสิ เพราะเป็นคนไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ แต่ชอบทำกิจกรรมทำงานมากกว่า อย่าว่าไปเชียว เพราะตอนปี1-3 ฉันเป็นเด็กกิจกรรม ทำมาหมดแหละ ทั้งทำค่าย จัดงานกิจกรรม จัดงานรับน้อง มันก็เลยไม่แปลกถ้าฉันจะชอบทำกิจกรรมมากกว่านั่งฟัง lecture ในห้อง แหะๆ ก็นั่งฟังทีไรหลับทุกทีนี่นา ต่อๆๆ อ้อ หัตถการในวอร์ด ฉันจะชอบไปคลุกอยู่ในวอร์ดศัลย์ชาย เพราะพี่พยาบาลใจดีมากเลย ^^ ฉันเลยชอบไปให้พี่สอนทำหัตถการต่างๆ ทั้งฉีดยา ทำแผล ใส่สายสวน ใส่สายอาหาร ตอนแรกๆ ทำไม่เป็นเลยสักอย่าง ทำไปก็ปนเปื้อนเชื้อโรคไป ยิ่งใส่สายสวนปัสสาวะกับทำแปลเนี่ยไม่ต้องพูดถึง ปนเปื้อนจนไม่รู้จะปนเปื้อนยังไงแล้ว ตอนแรกๆก็ดูๆพี่พยาบาลไปก่อน หลังๆก็เริ่มทำเอง ก็เริ่มคล่องขึ้นๆ แต่ก็ยังไม่ขนาดพี่พยาบาลหรอก แต่ก็ถึงว่าทำได้มากกว่าเมื่อก่อนนะเนี่ย ก็ภูมิใจในตัวเองเล็กน้อย ฮี่ๆๆ มีคนไข้อยู่สองเตียงที่ฉันชอบไปล้างแผลให้ทุกเย็น พอดีมีเย็นวันหนึ่งที่ไม่ได้ไปล้างแผล พอวันถัดมา คนไข้ถามว่า “อ้าวหมอ ทำไมเมื่อวานไม่มาล้างแผลให้ละ”  ^^ รู้สึกดีใจแหะ ไม่รู้สิมันเป็นความรู้สึกที่ดีนะ แล้วก็คนไข้อีกคนหนึ่งเนี่ย ถึงว่าสอนฉันทำแปลเลยก็ได้ เพราะคนไข้เค้าต้องทำแผลเช้าเย็นๆ เค้าต้องชำนาญในแผลของเค้ามากกว่าเราอยู่แล้วละ พอเปิดเซ็ทจะทำแผลปุ๊บ คนไข้บอกเลย ทำนู่นนะ แล้วค่อยทำนี่ หมอวันนี้เค้าเปลี่ยนยาที่ทานะ หมอไม่เอายามาทำหรอวันนี้ สารพัดคำจะบอก ก็รู้สึกดีนะ แอบฮาด้วย ก็เลยมีความสุขและสนุกที่ได้ไปพูดคุยกับคนไข้ อิอิ มันเป็นความสุขอย่างหนึ่งของคนเป็นหมอเลยนะ ถึงตอนนี้ฉันจะเป็นนักศึกษาแพทย์ ซึ่งสักวันหนึ่งจะต้องไปเป็นแพทย์ในอนาคตให้ได้แหละน่า ที่จริงๆตอนเย็นๆฉันเสพติดการออกกำลังกายนะ ต้องไปออกกำลังกายตลอด แต่ตั้งแต่มาอยุ่โรงบาลเนี่ย คุณภาพชีวิตแย่มาก ไม่ได้ออกกกำลังกาย กินอาหารไม่ครบหมู่ สารพัดสารเพ นอนน้อยอีก (สำหรับคนอื่นนะ สำหรับฉันตอนนี้ยังนอนอิ่มอยุ่) อ้อ แต่พอได้ขึ้นวอร์ด ได้ไปพูดคุยกับผู้ป่วย ฉันก็เลือกจะขึ้นวอร์ดในตอนเย็นมากกว่าไปออกกำลังกาย เพราะมีความสุขที่ตรงนี้ อ้อ ต้องการจะบอก ณ จุดนี้แหละ นี่อาจจะเป็นสิ่งที่หมอหลายคนมีความสุขก็ได้ ใครหลายคนอาจมองว่า งานของหมอหนัก งานยุ่ง ไม่มีเวลาส่วนตัวเลย ตอนเย็นตอนค่ำ ก็อยู่กับคนไข้ แล้วชีวิตจะมีความสุขเหรอ ฉันเลยลองคิดว่า นี่แหละมั้งความสุขของหมออยู่ที่คนไข้นี่แหละ ใครว่าหมอไม่มีเวลาส่วนตัว หมอมีเวลาส่วนตัวอยู่นะ แต่เลือกที่ว่าอยากให้มันทำอะไรมากกว่า ^^ ตอนนี้ฉันกำลังรู้สึกดีใจและภูมิใจในวิชาชีพนี้ แต่ต้องรอติดตามพัฒนาการของตัวเองไปทีละก้าวๆ เพราะต่อจากนี้ไม่รู้จะเจออะไรบ้าง คงต้องไปอ่านหนังสือแล้วละ หวังว่า จะมีใครหลายคนที่อ่านบทความนี้แล้วเข้าใจพวกหนูมากขึ้นนะคะ


^^ มออุบลยินดีต้อนรับคะ

1 ความคิดเห็น โดย พระจันทร์ เมื่อ 2 มิถุนายน 2011 เวลา 12:07 (เช้า) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 5049

วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันดีๆ ที่คาดไม่ถึง ! ^^ เมื่อวานนี้ได้รับข้อความจากคุณลุงใจดีคนหนึ่งว่า ตอนนี้มาทำงานที่อุบล และกำลังพักอยู่ในมอ อ้าวละวะ ทำไงละทีนี้ข้าพเจ้า … ก็เลยเกิดอาการป่วงๆกับตัวเองพักใหญ่ๆ ทำไงวะๆๆๆ - - จะพาคุณลุงไปเที่ยวส่วนไหนของมอเนี่ย ในนาทีนั้นนึกออกอยู่ที่เดียวคือ หนองอีเจมส์ ซึ่งเป็นสวนสุขภาพประจำมออุบล

 

 

เอาวะ! หนองอีเจมส์ก็หนองอีเจมส์ สรุปแล้วสถานที่ที่เมื่อมีแขกมาเที่ยวมออุบลที่เราแนะนำคือ หนองอีเจมส์นั่นเอง …. คุณลุงเลยบอกว่า เดี๋ยวจะเดิน วิ่งไป จากโรงแรมในมอไปหนองอีเจมส์ ถ้าเจอก็เจอนะ ไม่เจอค่อยนัดทานข้าวเย็น โห ! เกือบๆ 2 กิโลเชียวนะจากโรงแรมมา  โอ้ว วว  สุดยอด ….  และแล้วเราก็ได้เจอกัน อิอิ เดินไปได้สักพักหนึ่ง ก็เจออาจารย์ป่วน ซึ่งเป็นแขกประจำของสวนสุขภาพแห่งนี้อยู่แล้ว อาจารย์มักมาเดินออกกำลังกายทุก หกโมงเช้าและหกโมงเย็น เป็นคณบดีซึ่งเดินมากที่สุดในมอเลยทีเดียว จากนั้นอ.ป่วน(ตัวจริง) ก็เจอกับหมอป่วน (คุณลุงที่พูดถึงตะกี้นะแหละ แฮ่) และแล้ววงกับข้าวเย็นเราก็มีสมาชิกเพิ่มมาอีก 1 คน คราวนี้ข้าพเจ้าถึงกับเครียดเลยทีเดียวเชียว โอ้วแม่เจ้า อาหารมื้อนี้ผู้ร่วมโต๊ะ ท่านหนึ่งเป็นคณบดี อีกหนึ่งท่านเป็นรองนายกเทศมนตรี เอาไงวะเรา สุดท้ายเลยไปลากน้องน้อยตัวเล็กๆ >< น้องบิว ไปร่วมโต๊ะด้วยอีกหนึ่ง^^ กับข้าวมื้อนี้เป็นมื้อที่ยาวนานอีกมื้อหนึ่ง คุยไป กินไป ท่านสองป่วนก็คุยกันถูกคอกันหลายตั้งแต่เรื่องใกล้ๆตัว เรื่องการเมือง เรื่องการสาธารณสุข อ๋อ เรื่องจะไปมหาชีวาลัยในปีนี้ด้วย บลาๆ อีกมากมายก่ายกอง จนเด็กๆอย่างเราแอบ งง บ้างบางหัวข้อ ก็หนูยังเด็กอยู่นี่นา T.T อาหารก็อร่อยดี บรรยากาศในร้านก็ดี แต่ราคาแพงจัง ! เฮ่ออ และเราก็ได้มาส่งคุณลุงหมอสุธีที่โรงแรมกัน พร้อมกับได้กล่าวล่ำลาพร้อมคำว่า เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ …. และในตอนนี้อยากจะบอกอีกคำหนึ่งคือ

 ยินดีต้อนรับสู่มออุบลคะ

^^


สมอง - - ความคิด

3 ความคิดเห็น โดย พระจันทร์ เมื่อ 23 พฤษภาคม 2011 เวลา 4:44 (เย็น) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 5003

ในที่สุดก็กลับมาได้ (เล็กน้อย) แล้ว สำหรับการดูจิตใจ แต่คราวนี้ก็เกิดปัญหา เอ๊ะ หรือว่าเรายังไม่เข้าใจจริงๆ จิตใจนะ สงบ ไม่ไหวไปกับเรื่องอะไร แต่สมองต่างหากละคราวนี้ คิดฟุ้งซ่านไปหมด คิดไปทั่ว คิดไปก็ทุกข์เองเปล่าๆ ทั้งๆที่จิตใจเราไม่ได้ไหวตามเรื่องมากระทบสักนิด เฮ่ออ แล้วจะมีวิธีจัดการไม่ให้คิดอย่างไรคะ หนูคิดว่าเราต้องพยายามมีสมาธิ หรือเปล่า ?? หรือต้องฝึก ต้องทำอย่างไรคะ ช่วยชี้แนะหนูที T^T


เริ่มใหม่ ^_^

3 ความคิดเห็น โดย พระจันทร์ เมื่อ 20 พฤษภาคม 2011 เวลา 1:38 (เช้า) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 4571

              เมื่อวาน หลังจากระงับอารมณ์โกรธของตัวเองไม่ได้ ทุกอย่างก็รวนไปปหมด จิตใจที่เคยพิจารณาดูได้ ก็ตามดูไม่ได้ อารมณ์ที่เคยรู้ทัน ก็ไม่ทัน ทุกอย่างเหมือนกลับไปก่อนที่เราจะเริ่มพิจารณาจิต แสดงว่าเรายังตามดูจิตอย่างเข้าใจไม่มากพอ หรือไม่ก็เราฝึกไม่มากพอ เฮ่อ หลังจากนั้นอารมณ์เหงาก็ตามมา ถึงแม้มีผู้คนรอบกายก็เหงา ความรู้สึกยึดมั่นก็กลับมา ฮ่าๆ แต่เราก็ต้องเริ่มใหม่ เริ่มพิจารณาจิตใหม่อีกรอบ เพราะตอนนี้ไม่ไหวจริงๆถ้าอารมณ์ยังคงเป็นแบบนี้อยู่ รู้สึกสงบหากเราตามจิตเราทัน จึงอยากได้ความสงบนั้นกลับมา วันนี้

ไปเจอหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อ อานาปณสติ วิถีแห่งความสุข ของพระอาจารย์มิตซูโอะ รูปเล่มน่ารักดี เนื้อหาน่าสนใจ เห็นทีเราต้องฝึกอย่างจริงจังสักที แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะอ่านจบเล่ม เห็นข้างในหนังสือคร่าวๆกล่าวถึงวิธีอาณาปนสติตั้ง16 ขั้นแหนะ !

วันนี้ความเหงาเข้าครอบงำ และก็ไม่คิดจะทำจิตใจให้สงบ เลยได้แล่นลงมาหาเพื่อน มาพูดคุยเผื่อความเหงามันบรรเทา แต่ก็รู้ว่าวิธีที่ดีที่สุดคือการอยู่กับตัวเอง แต่เอาเป็นว่าพรุ่งนี้จะกำหนดสติใหม่ละกัน ^_^



Main: 0.49596190452576 sec
Sidebar: 0.035815954208374 sec