สวนโมกข์พุมเรียง

1 ความคิดเห็น โดย handyman เมื่อ 2 เมษายน 2012 เวลา 10:50 (เย็น) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2091

พอพูดว่าสวนโมกข์ คนทั่วไปก็นึกถึงแต่ “วัดธารน้ำไหล” อันเป็นที่ ท่านพุทธทาส ใช้เป็นที่ศึกษา ปฏิบัติ และ ประกาศธรรม จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตฝ่ายกายของท่าน ที่จริงแล้ว สวนโมกข์พุมเรียง คือจุดกำเนิด หรือเป็นเสมือนปฐมบทของสวนโมกข์ที่เราท่านรู้จักกันในปัจจุบัน เหตุการณ์มีมาตั้งแต่พศ.2475 แล้วครับ

ท่านพุทธทาส หรือ พระมหาเงื่อม ในเวลานั้น พร้อมด้วยโยมน้องชาย คือ นายยี่เกย หรือ คุณธรรมทาส พานิช และ เพื่อนในคณะธรรมทานประมาณ 4 - 5 คน เท่านั้น ที่ร่วมรับรู้ถึงปณิธานอันมุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรม ตามรอยพระอรหันต์ ของท่าน ทุกคนเต็มอกเต็มใจ ที่จะหนุนช่วยด้วยความศรัทธา โดยพากันออกเสาะหาสถานที่ ซึ่งคิดว่ามี ความวิเวก และ เหมาะสมจะเป็นสถานที่ เพื่อทอลองปฏิบัติธรรม ตามรอยพระอรหันต์ สำรวจกันอยู่ประมาณเดือนเศษ ก็พบ วัดร้าง เนื้อที่ประมาณ 60 ไร่ ชื่อ วัดตระพังจิก ซึ่งรกร้างมานาน บริเวณเป็น ป่ารกครึ้ม มีสระน้ำใหญ่ ซึ่งร่ำลือกันว่ามีผีดุอาศัยอยู่ เมื่อเป็นที่พอใจแล้ว คณะอุบาสก ดังกล่าว ก็จัดทำเพิงที่พัก อยู่หลัง พระพุทธรูปเก่า ซึ่งเป็น พระประธาน ใน วัดร้าง นั้น แล้วท่านก็เข้าอยู่ใน วัดร้างแห่งนี้ เมื่อวันทื่ 12 พฤษภาคม 2475 อันตรงกับ วันวิสาขบูชา โดยมี อัฐบริขาร ตะเกียง และ หนังสืออีกเพียง 2 - 3 เล่ม ติดตัวไป เท่านั้น

เข้าไปอยู่ได้ไม่กี่วัน วัดร้าง นาม ตระพังจิก นี้ ก็ได้รับการตั้งนามขึ้นใหม่ ซึ่งท่านเห็นว่า บริเวณใกล้ที่พักนั้น มี ต้นโมก และ ต้นพลา ขึ้นอยู่ทั่วไป จึงคิดนำคำทั้งสองมาต่อเติมขึ้นใหม่ ให้มีความหมายใน ทางธรรม จึงเกิดคำว่า สวนโมกขพลาราม อันหมายถึง สวนป่าอันเป็นกำลังแห่งความหลุดพ้นทุกข์ ขึ้นในโลกตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

ที่มาของข้อมูล :  http://www.rosenini.com/suanmokkh/pumriang/pr01.htm

ตามไปดูได้ครับ มีภาพถ่ายงามๆให้ดูด้วย


ตัวเอง.. การเห็นคุณค่า … การไม่ต้องแบก

ไม่มีความคิดเห็น โดย handyman เมื่อ 2 เมษายน 2012 เวลา 10:46 (เย็น) ในหมวดหมู่ ชีวิต #
อ่าน: 1491
  • การเห็นคุณค่าของตัวเอง นั้นมีคุณมาก ไม่ต้องลำบากไปแสวงหาจากภายนอก
  • และที่น่าจะเสริมให้ปลอดภัยมากขึ้นก็คือ การเห็นตัวเองเป็นเพียงธุลีหนึ่งของจักรวาล ซึ่งเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติโดยองค์รวม
  • เห็นเช่นนี้บ่อยๆจะทำให้ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยมา “แบก” “คุณค่าของตัวเอง” แต่มีชีวิตอยู่กับ “เช่นนั้นเอง” อย่างเบาสบายได้เสมอ


  • Main: 0.049297094345093 sec
    Sidebar: 0.32900381088257 sec