หยดน้ำสอนใจ

1 ความคิดเห็น โดย handyman เมื่อ 5 ตุลาคม 2010 เวลา 2:19 (เช้า) ในหมวดหมู่ ชีวิต, ต้นไม้ใบหญ้า #
อ่าน: 1873

   สรรพสิ่งรอบตัวคนเรานั้นมีความงามแฝงอยู่มากมาย หากเราปรับใจให้ว่างๆเสียบ้างจะพบความงามและความหมายมากมายจากสิ่งที่เราสัมผัส 

   น่าเสียดายที่หลายคนมัวแต่วุ่นกับภารกิจการงานเหมือนหนูถีบจักร คือหยุดความเร่งร้อน รีบด่วนไม่ค่อยได้ สิ่งดีๆและสวยงามจึงผ่านมาแล้วก็ผ่านไปโดยคนเหล่านั้นไม่สามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์ เช่นความเย็นใจ หรือความคิดดีๆที่จะช่วยเตือนจิตสะกิดใจที่ผุดบังเกิดจากการได้สัมผัสสิ่งที่แสนจะธรรมดาๆในธรรมชาติที่แวดล้อมเราอยู่

   พูดถึงเรื่องนี้ทำให้นึกถึงภาพหยดน้ำสองหยดที่คุณ Pensinee Pornjarunphan ได้นำมาวางไว้บน Facebook คือภาพนี้ครับ

   แต่เธอไม่ได้มองหยดน้ำเพื่อเก็บเกี่ยวความงามใส่ใจเท่านั้น หากยังปลดปล่อยความคิดคำนึงออกมาเป็นตัวอักษรอีกด้วย  ความว่า ..

   แม้เป็นเพียง น้ำค้าง หยาดหยด
ดั่งกรด กัดกร่อน ร่อนเร่
ยากเกิน จะให้ หันเห
กลับเร่ ลอยล่อง ท่องไป 

    ภาพเดียวกันนี้ เมื่อท่าน อัยการชาวเกาะ มาเห็นเข้า หลังเก็บเกี่ยวความงามผ่านตา ก็ได้มีตาในมองเห็นอะไรที่ก้าวหน้าออกไปอีกทิศทางหนึ่งได้ และได้ร้อยเรียงคำไว้ว่า ..

                      จากหยดหนึ่ง มารวม อีกหยดหนึ่ง
                   จะได้ซึ่ง สามัคคี ไม่มีหลง
                   รวมหยดหนึ่ง น้ำใจ ให้มั่นคง
                   แล้วจึงตรง เดินหน้าได้ ไปด้วยกัน

      ผมมาเห็นรูปเดียวกันนี้ และมองเห็นความงดงามที่ปรากฏอยู่ในภาพเช่นกัน  แต่เมื่อผ่านการกระตุ้นเตือนด้วยบทกวีของทั้งสองท่านดังกล่าว ก็ได้ลองคิดต่อไปในแนวทางอื่นที่แปลก แตกต่างออกไป และก็เล็งไปสู่การเตือนจิต สะกิดใจตนเอง หรือผู้ที่ได้อ่าน ก็แว้บขึ้นมาในสมอง จากความจริงทางกายภาพที่น่าจะเกิดขึ้นหากหยดน้ำเล็กด้านบน ไหลลงมากระทบและรวมตัวกันเข้ากับหยดน้ำใหญ่ด้านล่าง  ในที่สุดก็กลั่นความคิด ความรู้สึกเป็นตัวอักษร นำไปวางต่อท้ายได้อีกชุดหนึ่ง  ความว่า ..

              ถึงหยดใหญ่ อย่าย่ามใจ ว่าใหญ่กว่า
         ถ้าหยดเล็ก ลงมา แล้วจะหนาว
         หยดน้ำใหญ่ เคยใสแจ๋ว ดูแพรวพราว
         อาจถึงคราว ร่วงพรู สู่พื้นดิน
  (ก็ได้ ..นะจ๊ะ)

        เชื่อว่า หากผมยังวนเวียนอยู่กับความวุ่นวายในสังคมเมืองกทม. ไม่ได้ผันตัวเองมาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่บ้านเกิด  โอกาสที่จะมองเห็นอะไรแบบนี้ น่าจะเป็นไปได้ยากครับ

         ที่มา : http://www.facebook.com/photo.php?pid=31067444&fbid=1450067524992&id=1032347347&ref=nf#!/photo.php?pid=211923&id=100000883890791&ref=notif&notif_t=like


พนมสวรรค์ หรือ ฉัตรฟ้า บ้านผมเรียกว่า “ดอกลำเท็ง”

ไม่มีความคิดเห็น โดย handyman เมื่อ 8 กันยายน 2010 เวลา 5:57 (เช้า) ในหมวดหมู่ ต้นไม้ใบหญ้า #
อ่าน: 1896

พืชที่ขึ้นง่ายทั่วไป เป็นไม้หาง่ายรอบๆบ้านที่เห็นมาแต่เด็กๆ และตอนนี้ก็ออกดอกแดงสะพรั่งอยู่หลังบ้าน เราเรียกขานกันว่า “ต้นลำเท็ง”

   ด้วยความอยากรู้ว่ามันจะมีประโยชน์ มีโทษ มีสรรพคุณทางยาอะไรบ้าง ผมเลยค้นหาดู โดยใช้คำค้นว่า “ลำเท็ง” ปรากฏว่า “ลำเท็ง” นั้นเป็นไม้เถา เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่หน้าตาเป็นอย่างนี้

 

  

     โชคดีที่ผมนำภาพต้นไม้ใบหญ้ารอบๆบ้าน Post ขึ้นไปวางไว้ใน Facebook จนกระทั่งเพื่อนรัก อ.สุนทร  ไชยชนะ มาพบเข้าและฝาก Note ให้ข้อมูลว่า ที่บ้านผมเรียก “ลำเท็ง” นั้น แท้จริงมันคือ พนมสวรรค์ หรือ ฉัตรฟ้า ผมก็เลยลองค้นต่อ ก็พบว่าจริงตามที่เพื่อนบอกมา และบางแหล่งบอกว่ามีหลายสี ส่วนที่ผมเคยเห็นมา และมีทั่วไปแถวบ้านที่ไชยา เห็นมีอยู่สีเดียว แบบนี้ครับ

 

 

 

      พนมสวรรค์ หรือ ฉัตรฟ้า หรือ ลำเท็ง ตามที่เห็นในภาพนี้นั้น เป็นไม้พุ่มขนาดสูงประมาณ 2-3 เมตรใบเดี่ยวขนาดใหญ่ และขอบใบมีแฉกแหลม 3-7 แฉก ด้านบนมีขนห่าง ๆ ออกดอกเป็นช่อที่ยอด รูปปิรามิด ขนาดยาว 20-30 ซ.ม. ดอกสีแดงส้ม ชื่อภาษาอังกฤษนั้นเขาใช้คำว่า “Pagoda Flower” ซึ่งก็ดูเข้าท่าดี เพราะเขาออกดอก เป็นฉัตร เป็นชั้นๆ คล้ายเจดีย์  ส่วนสรรพคุณทางยานั้นบางแหล่งระบุว่า 

  • ใบ     แก้ลมในทรวงอก  แก้พิษฝีดาษ
  • ดอก   แก้พิษสัตว์กัดต่อย  แก้พิษฝีกาฬ

       ส่วนจะใช้กิน หรือทาอย่างไรคงต้องค้นหาเพิ่มเติมครับ

     แต่จาก วิกิพีเดีย บอกว่า ..

     เหง้า ใช้แก้ปวดท้อง ขับลม ขับเสมหะ ในกรณีผู้ป่วยกินสารพิษ และต้องการขับสารพิษออกจากทางเดินอาหาร ให้กินมากกว่าครั้งละ 2 กรัม จะทำให้อาเจียน พบว่ามีน้ำมันหอมระเหยในเหง้า

     ราก ซึ่งมีกลิ่นเฉพาะ และสาร 2-asarone ซึ่งมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต แต่มีรายงานว่า เป็นพิษต่อตับและทำให้เกิดมะเร็ง

        แหล่งข้อมูล



Main: 0.04832911491394 sec
Sidebar: 0.010571002960205 sec