การพึ่งพาตนเองด้านพลังงานทดแทน

โดย chakritt เมื่อ 23 กรกฏาคม 2009 เวลา 10:39 (เช้า) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1867

เป็นน้องใหม่ครับ จินๆอยากรู้ว่าพี่ๆเขาเขียนอะไรไปบ้างแล้ว จะได้มาต่อมาเติม แต่นอนคิดอยู่หลายรอบ ด้วยเวลาอันจำกัด รออ่านให้ครบทุกคน คงไม่ได้เขียนไปอีก 1 ปี

พรุ่งนี้จะไปพบกับทีมงานท่านมรมต.กระทรวงพลังงาน เป็นเด็กตามผู้ใหญ่ไปประชุม ประเภทผู้ให้ข้อมูลนะครับ

นโยบายด้านต่างๆของประเทศไทยเรามันดูสับสนนะครับ จากบนหิ้ง สู่ การหาบหาม ดูมันไกล และเป็นไปได้ยากจริงๆ

บางนโยบายไม่ชัดเจนในเป้าประสงค์ โดยประชาสัมพันธ์และสนับสนุนการวิจัยไปแล้ว แต่มันยังคงเบลอๆว่า หัวข้อนี้ทำเพื่ออะไร

วัฒนธรรมไทยคือประนีประนอม เกลี่ยๆกันไป คนโน้นบ้างคนนี้บ้าง ผมเคยตั้งคำถามว่า วิจัยทางด้าน fuel cell ของไทยนั้นต้องทำด้วยหรือ? ไทยมีศักยภาพโดดเด่นอย่างไรในการทำวิจัยเรื่องนี้ และจะได้อะไร นอกเหนือการสร้างความรู้ในตัวบุคลากร? ทรัพยากรที่ใส่ลงไปนั้น ต้องไปแบ่งมาจากส่วนอื่น เอาไปใส่ในด้านที่ไทยมีศักยภาพสูงจะดีมั๊ย??

แฮ่ม ท่าจะเป็นวิชาการมากไปแล้ว กลับมาที่เบาๆ สบายๆดีกว่า

มีบางคำถามที่โพสต์ในลานปัญญาแห่งนี้ คือเรื่องลำใยสู่พลังงาน ซึ่งมีวิจัย แต่ระยะทางสู่ความเป็นจริงมันยังไกล เพราะนักวิจัยส่วนใหญ่ไม่ใช่ ผู้ประกอบการ มองไม่ออกว่า จะทำฝันให้เป็นจริงได้อย่างไร แบบว่าความรู้สึกว่าเศรษฐศาสตร์เป็นตัวกำหนดให้เกิดความเป็นจริงนั้นไม่มีนะครับ จึงทำวิจัยไว้บนหิ้ง บนห้างเสียส่วนใหญ่ โดยบอกว่า รอการนำไปต่อยอด
แฮ่ม ใครก็ไม่รู้ที่จะเป็นคนไปต่อยอด?

พอดีกว่า ท่าทางวันนี้จะไม่ได้เรื่อง มีแต่เรื่องบ่น บ่น และบ่น ดึงสติให้มาสู่ตัวก่อนจะดีกว่า

สนใจจะไป เฮ10 นะครับ แบบว่าฝันจะไปเมืองน่านมานานแล้ว

 

ผม..เอง

 

« « Prev : แนะนำตัว

Next : แวะมาส่งข่าว การพบรมช.พลังงาน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6 ความคิดเห็น

  • #1 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 กรกฏาคม 2009 เวลา 12:50 (เย็น)

    มีพืชอะไรบ้างคะที่เราสามารถนำมาทำพลังงานได้ …สาหร่ายเวิร์คมั้ยคะ รำข้าวไทยก็มีเยอะ ข้าวโพด มันสำปะหลังก็มากมาย ลำไยล้นตลาด ลิ้นจี่ท่วมคอ  สับปะรดยังไม่มีประท้วง ที่เห็นชัดอีกอันคืออ้อย ถ้ามีแนวทางแปรรูปให้มาเป็นพลังงานหมุนเวียนให้หมดน่าจะดีนะคะ

    ถ้านักวิจัยไม่เวิร์คกับการก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม จับมือร่วมกับหอการค้าและผู้ประกอบการในเรื่องนั้นๆพอไหวมั้ยคะ เพราะวังเวงเต็มทีกับการทำงานตามนโยบายที่เปลี่ยนไปมา แถมจับจดอีก (มาแบบ 20 คำถาม อิอิอิ)

    ส่วนน่านถ้าสนใจลงชื่อเลยค่ะ

  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 กรกฏาคม 2009 เวลา 1:32 (เย็น)

    มีเรื่องพลังงานทดแทนอยู่ในลานซักล้างเยอะเลยครับ ทั้งในรูปพลังงานเคมี เช่นสาหร่าย biomass เซลลูโลส->เอทานอล หรือในรูปพลังงานจลน์ เช่นกังหันน้ำ กังหันลม ฯลฯ เรื่องลำไยเขียนเมื่อสองสามวันก่อน คงเปิดให้ดูในคืนนี้

    ในความรู้สึกของผม งานวิจัยของไทยส่วนใหญ่ค่อนข้างเลื่อนลอย วิจัยแล้วนำมาใช้ไม่ได้ (อยู่บนหิ้ง) ไม่รู้วิจัยไปหาอะไร น่าเสียดายงบประมาณ เรื่องที่ขาดมากคือวิจัยสิ่งที่ชาวบ้านนำไปใช้ได้เลย ไม่ใช่ต้องลงทุนตั้งโรงงานหลายๆ ล้าน ซึ่งก็ไปเข้ากระเป๋านายทุนอีก

    งานวิจัยในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นกิ่งครับ ไม่มีราก ไม่มีลำต้น ไม่ใช่ใบ ไม่ใช่ยอด แล้วมีแต่กิ่งมันจะได้ประโยชน์อะไรครับ ถ้าทำวิจัยมาเรื่อยแต่ประเทศชาติไม่เดินไปไหนเลย บางทีควรหยุดพิจารณาเพื่อเปลี่ยนวิธีการนะครับ

  • #3 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 กรกฏาคม 2009 เวลา 1:44 (เย็น)

    ขำๆๆๆๆๆ  ลานนี้น่าจะชื่อ… ลานคนขี้บ่น  ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

  • #4 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 กรกฏาคม 2009 เวลา 3:52 (เย็น)

    ส่วนตัวผมยังสนใจลำไยไปสู่น้ำตาลนะครับ
    เพราะความจริงต่อหน้าก็คือ พี่น้องดงหลวงเคยฟาดเปรี้ยงผมให้ว่า สปก และเกษตรมาส่งเสริมปลูกโน่นปลูกนี่ รวมทั้งลำไย เมื่อมันเป็นมรรคเป็นผลแล้วมาทิ้งข้วางกันแบบนี้ ชาวบ้านจะทำอย่างไรล่ะ…..

    สะอึกซิครับ  จริงของชาวบ้าน

    ผมก็ฝันต่อว่า งานวิจัยการปแรรูปลำไยสู่น้ำตาลนั้น มีระบบที่สามารถทำในระดับครอบครัวไหม มีระบบที่สามารถทำในรูปกลุ่มไหม ที่ไม่ถึงขนาดโรงงานใหญ่โตที่ใช้ทุนมหาศาล  ขนาดที่เรียก S หรือ M น่ะครับ  นี่คือความรู้ที่อยากศึกษา

    หากมีโครงการของผมน่าจะพิจารณาสนับสนุนให้เกษตรกรทำ  และหากเป็นไปได้ ควรเป็นโรงงานขนาดย่อมที่สามารถใช้ผลไม้อื่นในชนบททำการแปรรูปได้ด้วยก็จะยิ่งดี เพราะลำไยมีหน้าเดียว แต่ผมไม้อื่นๆมันมีตลอดปีมาสลับกันก็น่าที่จะพิจารณาต่อยอดได้

    ไม่คิดใหญ่ คิดเล็กๆครับระดับชุมชน

    บ่นเถอะครับ บ่นแบบนี้มีประโยชน์ ได้คิดอ่านกัน ได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ยังดีกว่าเก็บเอาไว้

    อย่างน้อยที่สุดที่ท่านไปสัมผัสวงการระดับสูงๆ เอามาเล่าสู่กันฟังว่าระดับบนเขาคิดอะไร ก็น่าจะเป็นประโยชน์คนข้างล่างที่ทำงานอยู่น่ะครับ เหมาะ ไม่เหมาะไม่เป็นไรครับ ก๋เอามาถกกันให้เกิดปัญญาครับ

    ผมเองก็บ่นเยอะอยู่ ไม่งั้น อกแตกตาย อิอิ  ใช่ไหมเฮียตึ๋ง…

  • #5 sompornp ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 กรกฏาคม 2009 เวลา 5:24 (เย็น)

    เห็นอาจารย์เข้ามาเขียนบันทึกในลานนี้แล้ว
    ยิ้ม ๆ ๆ
    และคิดถึงพ่อครูบา  ท่านจะได้พันธมิตรทำงานด้านนี้อย่างเป็นรูปธรรมอีกเป็นแน่แท้
    เดี๋ยวไปเคาะ ๆ ๆ พ่อมา
    อิอิอิ
    (สักวันจะให้น้าแป๊ดและคุณเมตตา พาไปตะลุยสวนป่าบุรีรัมย์ค่ะ)

  • #6 chakritt ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 กรกฏาคม 2009 เวลา 10:08 (เช้า)

    แฮ่ม! ต้องจากบ้านไปนอนต่างถิ่นกทม.เลยไม่ได้เข้ามาเจ๊าะแจ๊ะครับ ขออำไพด้วย
    พืชเกษตรที่คุณน้ำฟ้าและปรายดาวว่ามานั้นคงทำเป็นพืชพลังงานได้ทั้งหมด เช่นสาหร่าย แต่ต้องเป็นพันธ์น้ำมันด้วยนะครับ มีผู้รู้กล่าวให้ผมฟังว่า พืชเกิดพลังงานไว้ใน 2 รูปแบบคือ น้ำมัน และแป้ง
    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องคิดให้ครบถ้วนด้วย เช่นการเก็บเกี่ยวมีค่าใช้จ่ายสูงหรือไม่ คิดให้ครบวงจรว่าเก็บเกี่ยวแล้วมีขั้นตอนจนถึงผลิตภัณฑ์สุดท้ายอย่างไร
    สบู่ดำเป็นตัวอย่างของการเก็บเกี่ยวที่มีค่าใช้จ่ายสูงครับ

    ผมจะไปอ่านเพิ่มในลานซักล้างครับ ท่าน logos

    เรื่องลำไยเป็นน้ำตาลในระดับชุมชนก็น่าสนใจนะครับ เสียดายที่ผมอยู่ไกลวัตถุดิบไม่อย่างนั้นจะลองศึกษาดูด้วย ผมสนใจอยู่แล้วเรื่องเล็กๆ แบบชุมชนครับ ผมว่าจุดเริ่มต้นของการพึ่งพาตนเองต้องเริ่มจากเล็กๆ ระดับชุมชนก่อนครับ

    น่าสนใจที่จะเปลี่ยนชื่อเป็นลานคนขี้บ่นครับ ท่านอ.จอมป่วน

    น้าอึ่งอ็อบครับ คงได้เจอกันเร็วๆนี้อีกนะครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.39025783538818 sec
Sidebar: 0.19254302978516 sec