รักกันไว้เถิด….
ร้างลาจากการเขียนบล็อกนี้ไปนานแสนนาน ว่าจะ ว่าจะ … อยู่หลายต่อหลายรอบ ก็พลาดลืมเรื่องที่จะเขียนไปซะงั้น อิอิ เฮ้อ!!! เด๋วจะหาว่าแก้ตัวไม่พูดดีฝ่า
บ้านเมืองเดี๋ยวนี้ก็มีอะไรแปลก ๆ กันอยู่แล้ว คนไทยก็แปลกขึ้น มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เนื่องด้วยสภาวะสังคมที่กดดัน หรือแม้แต่สิ่งที่บีบคั้นรอบ ๆ ตัว และอีกปัจจัยมากมายที่ทำให้คนเราเปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว สังคมใหญ่ ๆ ไปจนถึงระดับเล็ก ๆ ก็เกิดความแก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่น สาดโคลนกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง ขาดความสามััคคี คนในหน่วยงานเดียวกัน หรืออยู่ในกลุ่มเดียวกัน แทนที่จะรักกัน เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีกลับ ซ่อนมีดไว้ข้างหลัง แทงกันเองซะงั้น(บางแห่งอาจดีนะคะ) เอาชนะคะคานกันตลอดเวลา
จริง ๆ จะว่าไปแล้ว เราจะหาความสมบูรณ์แบบในแต่ละคน ไม่มีหรอก งมเข็มในมหาสมุทรยังจะง่ายซะกว่า (แอบคิดเองคนเดียว อิอิ) ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็ตัวเองนั่นแหละ ขี้เกียจก็ติดอันดับ ดื้อก็ติดอันดับ ไม่เก่งอะไรซักอย่าง หาข้อดียากมาก แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีเลยซะทีเดียว ไม่ได้ยกหางตัวเองนะคะ อย่าเข้าใจผิด การคบกัน ราณีว่ามันคงต้องหาจุดลงตัวกันในการยอมรับข้อเสียของแต่ละฝ่ายได้เท่านั้นเอง ส่วนข้อดีของแต่ละคนนั้นมันมีอยู่แล้ว แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งอยู่แว้วววว จริงไหมค่ะ ไม่งั้นคุยกันไม่รู้เรื่องหรอก
ถ้าในสังคมระดับองค์กร หน่วยงานเล็ก ๆ ก็มีปัญหาสะสมจากความไม่เข้าใจ การไม่เปิดอกคุยกัน บางคนก็คิดเองเออเอง คนเดียว โดยคนที่เขามีปัญหาเขายังไม่พูด บางคนขยายความให้เสร็จสรรพ จากคนสนิทชิดเชื้อก็เปลี่ยนไปอย่างไม่รู้สาเหตุ จนแม้กระทั่งเจ้าตัวเองยังไม่รู้ว่าฉันทำอะไรผิดให้เขาเกลียดชังซะงั้น เฮ้ออออ… จากเรื่องเล็ก ๆ ก็ขยายให้ใหญ่โตเหมือนความผิดคดีอาญาซะงั้น การสะสมความเกลียดชังกัน ทำให้ใจเราไม่เป็นสุขนะคะ กลุ่มเดียวกันยังสาดโคลนกันเห็น ๆ เขาเรียกว่าเรายังไม่รักกันเอง แล้วจะหวังให้สังคมที่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย รักกันได้ไง สังคมมันก็สะดุดลงคงเป็นอย่างนี้มั้ง เพราะฐานรากไม่มั่นคง สังคมเราก็คงเปรียบเสมือนไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ที่โดนทั้งปลวก โดนทั้งคน ช่วยกันแซะราก แล้วไม้ยืนต้นนั้นจะมั่นคง และแข็งแรงได้อย่างไรกัน
ราณีคิดว่าหลาย ๆ ท่านคงได้ดูรายการเจาะใจของท่านอาจารย์วรภัทร์ ภู่เจริญแล้ว ท่านพูดได้ดี กินใจหลาย ๆ ท่านแน่นอน ทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานที่เราทำได้ แต่บางครั้งกับมองข้ามมันซะอย่างงั้น อ.วรภัทร์กล่าวว่าทุกอย่างก็เหมือนหยิน หรือหยาง ในความไม่ดีก็ต้องมีความดีอยู่ อยู่ที่เราจะมองและใช้ประโยชน์ และเลือกที่จะใช้ให้ถูกวิธี และจังหวะ
ราณีก็รู้แบบ งู ๆ ปลา ๆ ไม่อาจก้าวล่วงเกินใครได้ ถ้าสิ่งใดที่ทำให้ทุกท่านไม่สบายใจ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ วันนี้แค่ขอบ่นดังนิดหนึ่งนะคะ อยากให้สังคมกลับมาแบบเก่าคงเป็นไปไม่ได้ แต่แค่ฉุกใจคิดกันบ้าง ว่าเราทำไปเพื่อใคร หลอกใครก็หลอกได้ แต่หลอกตัวเองยากนะคะ ขอแถมเรื่องการเมืองนิดหนึ่ง ถึงแม้นเราจะใส่สีอะไรก็ตามก็หลอกตัวเองไม่ได้ว่าเราก็คือคนไทยด้วยกัน เลือดสีเดียว อยู่บ้านเดียวกัน สังคมเดียวกัน อย่างไรก็รักกันไว้เถิดดดดด อิอิ.
« « Prev : ไขลานปีเก่าก้าวสู่ปีใหม่
9 ความคิดเห็น
เหอๆๆๆ เขียนดีขนาดนี้ ยังไม่ยอมเขียน บ่อยๆ
ถ้าจะให้รักกันไว้เถิด ก็ควรจะเขียนๆกันเถิด แคว๊กๆ
แหะ ๆ พ่อ ไม่ได้เขียนดีหรอก เขียนแนวบ่น ๆ อิอิ
รัก ๆ ๆ และกอด ๆ ๆ ๆ ^ ^
รักกันดีกว่าเกลียดกันเน๊ะ
เมื่อไหร่จะได้เจอกันที่สวนป่าอีกหน้อ
อิอิ กอดผ่านบล็อกค่ะพี่เบิร์ด
ช่ายยยยเลยค่ะอ.สร้อย พ่อครูบาบอกว่าอาจารย์สร้อยจะไปอยู่สวนป่า 6 เดือน ราณีว่าเราคงได้เจอกันแน่นอนค่ะ ดีใจจังเลย อิอิอิ
ลานขาดเสียนานจนลืมไปเลย อิอิอิ
ตอนนี้ไขลานแล้วเตรียมตัวอ่าน…อิอิอิ
มายกมือหนับหนุนด้วยคน
รักด้วยค่ะ รักกันเยอะๆ เหมือนที่ชาวเฮรักกัน รักกัน อิอิ
แหม ๆๆๆ อ.หลิน พูดซะ เขียนไม่ออกเลย อิอิ ใช่ไหมค่ะพี่อาราม พี่หนิง อิอิ