บันทึกนี้ตั้งใจจะเขียนนานแล้ว แต่มีงานเตรียมสอนและงานเลี้ยงลูกเข้ามาก่อนเสมอ ตอนนี้เป็นโอกาสอันดีเพราะลูกกำลังหลับอยู่ ส่วนเตรียมสอนก็ยังมีเวลาอีก 1 วันเพราะพรุ่งนี้เป็นวันมาฆบูชา
สืบจากการที่เข้าไปอ่านบันทึกของคุณตฤณซึ่งได้เขียนอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่ได้สอนในมหาวิทยาลัย จึงคิดว่าคงจะเป็นประโยชน์กับนักศึกษาไม่น้อยหากเชิญคุณตฤณไปพูดให้นักศึกษาฟัง ซึ่งคุณตฤณก็ได้ทำสรุปเกี่ยวกับบันทึกของตนไว้ที่ เก็บตกส่งท้ายที่ขอนแก่น แล้วคุณตฤณก็ได้รับเชิญจาก อ แป๋ว ให้ไปแลกเปลี่ยนกับนักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ มข และบันทึกไว้ที่ AAR การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่สวนป่า
บันทึกนี้พยายามจะไม่เขียนซ้ำกับที่คุณตฤณพูดไว้แล้วที่บันทึกของคุณตฤณ จะขอสรุปแง่คิดเป็นข้อๆ ดังนี้
1) ชีวิตที่เจริญได้ดีงามและรวดเร็วเกิดจากการมีกัลยาณมิตร จากการฟังที่คุณตฤณพูด ก็พบว่าคุณตฤณเป็นคนโชคดีมีครอบครัวและสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้คุณตฤณมีการเรียนรู้ในสิ่งที่คุณตฤณอยากรู้ โดยเฉพาะคุณพ่อจะสนับสนุนคุณตฤณเต็มที่ในการศึกษาเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ซื้อหนังสือภาษาอังกฤษให้อ่าน ซื้อเครื่องคิดเลขที่สามารถเขียนโปรแกรมได้
ณตฤณรู้ตัวเองดีว่าตัวเองไม่ชอบวิชาชีววิทยา แต่ก็เลือกเรียนกับพวกที่อยากเรียนแพทย์ เพื่อจะได้มีเพื่อนที่เรียนเก่งและตั้งใจเรียน อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี แต่ดร็อปวิชาพวกชีววิทยาไว้
2) กล้าในสิ่งที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์กับสังคม ในขณะที่คุณตฤณทำงานให้กับบริษัทคอมพิวเตอร์ชั้นนำของต่างชาติ คุณตฤณก็กล้าที่จะพูดว่าการรับรองสนับสนุนภาษาไทยยังไม่มี ซึ่งทำให้เกิดการสนับสนุนทำให้ใช้ภาษาไทยได้ และคุณตฤณมีส่วนช่วยทำให้เนคเทคช่วยพัฒนาระบบเครือข่ายในประเทศไทยให้มีการแผ่ขยายอย่างรวดเร็ว
3) ยิ่งเราทำดีมากเท่าไหร่ ผลดีนั้นก็ยิ่งกลับมาหาเรามาก ในขณะที่คนส่วนใหญ่นอนหลับในตอนกลางคืน คุณตฤณก็ใช้เวลาในตอนกลางคืนทำงาน เพราะต้องทำงานกับต่างชาติ และช่วงที่ช่วยสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้กับประเทศไทยนั้น เวลาทำงานในตอนกลางคืนก็เหมาะสมที่สุด เพราะคนยังไม่ค่อยใช้แบนด์วิดธ์กัน และทำให้ปรับปรุงระบบโดยไม่กระทบกับคนหมู่มาก ความพยายามและเวลาที่คุณตฤณทุ่มเทไปในฐานะอาสาสมัครที่ช่วยเนคเทคซึ่งคุณตฤณทำด้วยความบริสุทธิ์ใจนั้นกลายเป็นโอกาสทำให้คุณตฤณเป็นผู้บริหารของบริษัทแรกของคนไทยที่ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
4) การมีคนที่มีจิตอาสา เห็นแก่ประโยชน์ของสังคมจะทำให้สังคมเราน่าอยู่มากขึ้น นอกจากคุณตฤณมีจิตอาสาที่จะช่วยพัฒนาระบบเครือข่ายของประเทศไทยแล้ว คุณตฤณก็ช่วยทำให้คนที่ประสบภัยสึนามิและญาติของผู้ประสบภัยสึนามิโดยการรวบรวมข้อมูลของผู้ประสบภัยทำให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็ว และเป็นที่มาของโครงการ OpenCare
นอกจากนี้คุณตฤณมาพูดที่วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มข โดยไม่รับเงินสักบาท คุณตฤณบอกว่า การศึกษาเป็นการลงทุนของประเทศชาติ คุณตฤณอยากมีส่วนช่วยตรงนี้ ค่าเดินทางก็ไม่รับ ค่าที่พักก็ไม่รับ และค่าวิทยากรก็ไม่รับ และไม่รับเลี้ยงอาหารด้วย เพราะคุณตฤณมีคิวจองที่เพื่อนชาวเฮหลายคนอยากเลี้ยงข้าวและทานข้าวกับคุณตฤณด้วย ถ้าประเทศไทยมีนักธุรกิจที่เห็นแก่ประโยชน์ของสังคม เห็นความสำคัญของการศึกษามากๆ ประเทศไทยอาจจะเจริญกว่าสิงคโปร์
ต้อมเองรู้สึกโชคดีที่ได้รู้จักคุณตฤณและที่ได้รับความกรุณาจากคุณตฤณในการเสียสละเวลาและเงินในการมาพูดให้นักศึกษาฟัง ต้อมก็หวังว่าจะมีโอกาสได้เจอและแลกเปลี่ยน ฟังประสบการณ์จากคุณตฤณอีก