ทุกข์ของคนเรานั้นอยู่ที่กายหรือใจกันแน่ ลุงเอกว่าสังคมไทยเรานั้นมีคนป่วยกายมากมายเห็นได้ทั่วไป แถมมีคนพิการทางจิตก็มากหลาย เราจะทำอย่างไรกันดีกังสังคมมนุษย์นี้
มีโอกาสผ่านไปแถวถนนแจ้งวัฒนะหลายครั้งล้วนลานตาที่มงเห็น ที่ทำงานใหม่ของลุงเอกข้างหน้าคือศูนย์ราชการ มองไปเห็นศาลปกครองยืนตระหง่านสร้างเอาไว้โก้หรูใหญ่โต ดูประหนึ่งว่าหาที่ใหญ่ๆไว้ให้คนทะเลาะกันมาใช้ เราจะสนับสนุนกิจกรรมนี้หรือนี่
แต่ใจมาหดหู่อยู่ที่ว่าความใหญ่โตนั้น แสดงว่าสังคมเรามีคดีความทางการปกครองมากหลายใช่ใหม คงจะไม่มีใครปฏิเสธได้ ก็งั้นแสดงว่าคนไทยมีปัญหากันมากจนยากจะแก้ไข ใช่ใหมครับ ก็คงตอบว่าใช่ เพราะเรามัวแต่คิดสั้นไม่คิดยาวนั่นเอง
ลุงเอกคงจะดีใจถ้าได้เห็นศาลเล็กๆ แสดงว่าคนไทยมีความสงบสุขไร้ทุกข์ ไม่ต้องใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในศาล ผู้พิพากษาจะได้ทำงานเฉพาะที่สำคัญเพื่อบ้านเมืองบ้าง
อยากให้สังคมไทยช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกัน ที่จะไม่สร้างบรรยากาศให้ต้องทะเลาะกัน ชิงดีชิงเด่นกันแบบสังคมทุนนิยมเสรีที่นำมาสู่ชีวิตเราได้ใหม ที่จะต้องแข่งขันกันเอาให้ตายไปข้างหนึ่ง มาให้ความรู้กันที่จะอยู่อย่างสันติสุข ได้ใหม
เมื่อเร็วๆนี้ไปดูงานที่ศาล ท่านบรรยายให้ฟังว่าต่อไปนี้ทางศาลจะมียุทธศาสตร์ใหม่ที่จะให้ความรู้ลงไปถึงชุมชน เรียกว่าสกัดกั้นไม่ให้คนเอาแต่เรื่องมาฟ้องร้องกันให้คดีรกศาล ลุงเอกเห็นด้วยกับวิถีเชิงป้องกันนี้อย่างยิ่ง ก่อนตายคงได้เห็น
ที่น่าทุกข์อีกเรื่องหนึ่งของสังคมไทยก็คือวงการแพทย์ สังคมที่มีการทะเลาะเบาะแว้งไม่กันเองก็กับคนไข้ เพราะเดี๋ยวนี้ไปที่ไหนก็จะมีการแข่งขันสร้างโรงพยาบาลเอาให้ใหญ่ๆเอาไว้ ก็ลุงเอกดูตัวเลขประชากรไทยไม่เพิ่มมาหลายปี ก็เพราะคุมกำเนิดได้ดี การตายและเกิดแทบจะเท่ากันเท่ากัน
แล้วมาตะบันสร้างมันแต่โรงพยาบาลใหญ่ๆทำไม หรือว่าวงการแพทย์เราล้มเหลว โรงพยาบาลของทหารเองลุงเอกก็เห็นสร้างกันเสียใหญ่โต แต่ทหารก็ยังเจ็บป่วยเหมือนเดิม ขยายกันจนทหารแพทย์มีมากกว่าทหารรบทั้งหมดทุกเหล่าในกองทัพ อีกหน่อยคงใช้ทหารแพทย์ออกรบแทนคงจะได้
หันมาดูโรงพยาบาลใกล้ๆบ้านที่เขาว่ากันเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่อยู่ข้างบ้าน ในการใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ตรงนี้ ๔๐ ปีผ่านมา ยังเห็นโรงพยาบาลแห่งนี้ขยายการก่อสร้างไม่หยุดหย่อน อย่างนี้แสดงว่าวงการแพทย์เราเก่งรักษาใช่ใหม ขอตอบว่าใช่ ถ้านับงบประมาณตัวเลขคงใช้ไปมากโขอยู่ ถามว่าถ้าคนไม่เข้าโรงพยาบาลจะดีใหม ต้องตอบว่าดีแน่เข้าเท่าที่จำเป็น
ตัวลุงเอกเองเข้าโรงพยาบาลนับน้อยครั้งมาก แต่ก็ผ่านชีวิตมาหกสิบกว่าปีแล้ว วงการแพทย์เขาบอกว่าผู้ชายไทยอายุเฉลี่ย ๗๒ ปี มีคนในกระทรวงสาธารณสุข บอกลุงเอกว่าไม่ใช่ต้อง ๗๖ แต่เท่าไรก็เอาเถอะ เท่าไรก็เท่านั้น แต่ให้รู้ว่าแกกำลังจะใกล้เข้าเส้นตายไปทุกทีแล้วนะ
ลุงเอกอยากเห็นวงการแพทย์ไทยใช้เงินไปในทางให้ความรู้แก่ชุมชนชาวบ้านถึงที่ชุมชน ในแนวทางป้องกันมากกว่าการสร้างแต่วัตถุ เป็นงานเชิงรุก ขอให้ใช้งบประมาณส่วนใหญ่ไปในการนี้ อย่าเอามาสร้างมันแต่ตึกๆๆๆ
โรงพยาบาลไหนมีคนมารักษาน้อย โรงพยาบาลเล็กๆ แต่ชุมชนมีคนมาก คนในชุมชนนั้นมีคนป่วยน้อยต้องให้รางวัลอย่างมากเลย ไม่ใช่ให้รางวัลที่รักษาคนได้มากๆ ที่ไหนคนป่วยมากขยายแต่โรงพยาบาลต้องตัดงบประมาณดีใหม
อยากให้สังคมไทยร่วมสร้างภูมิคุ้มกัน เรียกว่าทำเชิงป้องกันมากกว่าทำแต่แก้ไข ที่เป็นระยะสั้นไม่ว่าจะเรื่องของความขัดแย้ง การขึ้นโรงขึ้นศาล การดูแลความเจ็บป่วย ขอให้ๆความรู้เชิงป้องกันให้มากๆ
ชาติหน้าเกิดใหม่จะได้มีความสุขบ้าง แต่ยังไม่รู้จะได้เกิดเป็นคนหรือสัตว์ แล้วไปอยู่ส่วนไหนของโลกก็ไม่รู้ เอาเป็นว่าชีวิตอยู่ในโลกใบนี้อีกไม่กี่ปีลุงเอกก็จะตายแล้ว แต่ทำไมคนไทยยังโหยหาอะไรกันอยู่อีกหนา