เรื่องเล่าวันหยุด กับความสุขในการดูละครแบบไม่รู้เรื่อง
อ่าน: 149หลังกลับมาจากเบตงลงเครื่องมา ลูกสาวแสนสวย บอกว่ามีบัตรดูละครสองใบ ให้คุณพ่อกับคุณแม่ไปดูเอาใหม มีหรือจะตอบปฏิเสธของฟรีอย่างนี้แหละชอบหนักหนา ตอบรับทันที ความที่เป็นคนไร้สาระ จึงไม่ได้ถามไถ่อะไรมากนัก ไม่รู้ว่าชื่อเรื่องอะไร ถึงเวลาก็ไปดุ่ยๆเข้าโรงละครกรุงเทพเลย ความที่กรุงเทพวันนี้มันวิกฤติหลายๆเรื่องจริงๆโดยเฉพาะการจราจรนี่แสนสาหัสมากที่สุด ผู้ว่า กทม.ที่ผ่านมาก็ไม่ทำอะไร มาคนใหม่นี่ยิ่งสาหัสหนักใหญ่ ขอร้องเรียนประชาชนซะเลย
ไปถึงโรงละครกรุงเทพอยู่ปลายถนนเพชรบุรีตัดใหม่ รีบวิ่งเข้าโรง(ละคร)อย่างไม่ชักช้า ละครเริ่มเล่นไปแล้ว เรื่องอะไรก็ไม่รู้ ใครแสดงก็ไม่รู้ดูเอามันอย่างเดียว นี่แหละความไร้สาระของลุงเอก แล้วคนที่กำลังมานั่งอ่านที่ลุงเอกเล่านี่อีกระวังจะรับเอาเชื้อไร้สาระไปด้วย
เริ่มดูละครไปพักใหญ่เอ๊ะทำไมมันพูดแต่ตัวเลข แต่งกายก็คล้ายทหาร ชื่อแต่ละคนเป็นตัวเลขหมดเช่นท่านแสนพัน ท่านพันหนึ่ง คนรักพระเอกชื่อพายอาร์ แต่พระเอกชอบเรียกว่า 3.14 พระเอกเวลากอดนางเอกก็แบบหุ่นยนตร์ กอดรัดเจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์ ฉันรักเธอเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์ พูดอะไรเป็นตัวเลขเป็นเปอร์เซ็นต์ไปหมด หรือฉันเกลียดเธอแบบมีนัยสำคัญ
ทำอไรใช้อำนาจ ตัวเลขตัดสิน ลงโทษรุนแรง
เป็นอย่างไรเล่ามาถึงตอนนี้ ใครยิ้มออกมาแปลว่าเป็นพวกไร้สาระ แต่ถ้ายังคิดไม่ออก คิ้วย่น หน้าบึ้งให้รู้ไว้เถอะว่าพวกเจ้าเป็นพวกมีสาระ ตอนเขาเบรคครึ่งเวลารีบออกมาดูชื่อเรื่อง ว่าเรื่องอะไร อ้อ”เร่ขายฝัน”เฉลียง เดอะมิวสิคเคิ้ล นี่แหละเป็นที่มาของการดูละครที่ไม่รู้เรื่อง เอาละเมื่อรู้ชื่อเรื่องแล้ว จะดูว่ามันจะขายฝันอะไรหวา ดูไปดูมา กลายเป็นว่าเมืองที่ลุงเอกดูตอนต้นๆเรื่องนั้นเป็นเมืองมีสาระ มันเครียดไปทั้งเมือง เหมือนเมืองไทยตอนนี้เลยว่ะมันเป็นเมืองมีแต่สาระ หลักการ เครียดเป็นบ้า
พอมาดูอีกเมืองหนึ่งมันน่าสนุกสนานมีแต่เรื่องไร้สาระ จะตั้งชื่อลูกคนหนึ่งมันก็ให้ออกความเห็นระดมสมองกันตลอด ไม่ว่าจะคิดเรื่องอะไรขึ้นมาออกคามคิดเปลี่ยนแปลงได้ตลอดตามที่คนออกเสียง ไอ้เมืองโน้นมันตัดสินด้วยอำนาจกฏหมายตลอด
ความที่พระเอกอยู่เมืองสาระ นางเอกอยู่เมืองไร้สาระ นางเอกจะมีความสุขกับการฝันถึงจะได้เจอพ่อที่หายไปจากตกเหวเมื่อยี่สิบปีมาแล้ว จนท้ายตาบอดแล้วตกไปอยู่เมืองสาระ นางเอกก็จะมายืนตรงที่พ่อตกเหวทุกวัน จนกลายเป็นที่พบปะผู้คนของเมืองนี้ไป พระเอกได้รับคำสั่งให้โจมตีเมืองไร้สาระเป็น ผบ.ฝูงบิน ปรากฏว่าหลงฝูงเครื่องไปตกในเมืองไร้สาระ พวกไร้สาระช่วยเหลือรอดตายมาได้ จากคนแข็งกระด้างกลายเป็นคนอ่อนโยน
พวกเมืองไร้สาระบอกพระเอกว่าพร้อมเอามือชี้ที่หัวทางขมับซ้ายแล้วบอกว่าให้ใช้ตรงนี้น้อยๆหน่อย แล้วมาชี้ที่หน้าอกตัวเองตรงหัวใจว่าให้ใช้ตรงนี้ให้มากๆหน่อย
อีกคำเด็ดๆคือพวกไร้สาระจะถามว่าเจ้าเคยฝันใหม พวกสาระบอกไม่เคยฝัน เขาบอกว่าให้ลองฝันเแยอะๆสิ ชีวิตจะมีความสุขเพราะพวกสาระจะอยู่กับตัวเลข
ดูเรื่องนี้แล้วย้อนมาดูตัวเอง ความไร้สาระของละครเรื่องนี้ ช่างตรงกับจริตตัวเองจริงๆเลย โอ๊ยดูละครที่ไม่รู้เรื่องแต่มีความสุขมั๊กๆ
ใครอยากอยู่เมืองไร้สาระตาลุงเอกมา ใครไม่เคยฝันลองหัดฝันดู หมอประเวศบอกว่าเราต้องจิตนาการมากๆจะสามารถแก้ปัญหาได้ ใช้ความรู้อย่างเดียวแก้ปัญหาไม่ได้เพราะความรู้มันล้าสมัยต้งแต่เมื่อพูดจบแล้ว จินตนาการทำให้เกิดปัญญา ใช้จินตนาการแล้วเสริมความรู้จะแก้สรรพสิ่งได้ครับ
Next : เขียนเรื่องที่ไม่มีใครเขียน ทัวร์สามทหารเสือ » »
3 ความคิดเห็น
สวัสดีครับลุงเอก
บ้านเมืองเรามันสาระมากจริงๆครับ ผมประชดไม่ดูข่าวเช้า แกล้งนอนอุตุ คอยดูข่าวในมือถือพอแล้วไม่เครียดมาก อิอิ วันธรรมดาก็จะรอดูรายการคันปากเพราะไร้สาระดี พิธีกรตลกกันเอง หัวเราะกันเอง สนุกดี ไปทำงานด้วยอารมณ์แจ่มใส
ตอนนี้ตั้งหน้าตั้งตารักษาที่ดินของรัฐตามอำนาจหน้าที่ เพราะตอนเป็นอัยการจังหวัดไม่มีเวลาดูละเอียดตอนนี้เลยต้องมาเก็บรายละเอียดแก้ไขจุดบกพร่อง แต่ได้ความรู้มากขึ้น รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น
ละครเรื่องนี้น่าดูครับ แต่ไม่มีเวลาไปดู วันนี้จะรับครูคิมกับน้องนัทและบังวอญ่าตอนหัวค่ำครับ
คนข้างกายผม บ่นให้เข้าหูหลายครั้งว่า อิจฉาคนกรุงเทพฯ มีละคอน มีการแสดงดนตรี และอื่นๆจากต่างประเทศก็มีที่กรุงเทพฯ ไม่เคยมีที่ขอนแก่น หรือต่างจังหวัด เธออยากดูนั่นอยากดูนี่ ก็ไม่มีโอกาสได้ดู จะลงทุนเดินทางมาดูเฉพาะเลย ก็ ไม่ง่าย
อ้าวบ่นให้คนกรุงเทพฯฟังซะแล้ว..
อัยการชาวเกาะ ทำเพื่อบ้านเมืองเหนื่อยหน่อยแต่ก็มีความสุข ครับ ลุงเอกชอบดูเรื่องไร้สาระรายการต่างๆเพลิดเพลินดี ตอนดูละครช่างมีความสุขจริงๆ ฝากความคิดถึงครูคิมกับน้องนัทและบังวอญ่าด้วยครับ
bangsai อีกไม่นานคงได้มาใช้ชีวิตในกรุงเทพระยะหนึ่ง คงได้ไปไล่ดูละครกัน เตรียมกายจไว้ตอนเดือนมกราคมเป็นต้นไปครับ