พ่อ
อ่าน: 3593จากหนังสือ การเดินทาง ของ คนนำทาง ที่ลูกชายได้เขียนไว้ ทำให้คนเป็นพ่ออย่างผม เข้าใจตัวเองขึ้นอีกเยอะ ในฐานะคนเป็นพ่อของเขา
พ่อ
พ่อเป็นคนแรกๆที่ผมอยากเขียนถึงที่สุดคนหนึ่ง พ่อเปรียบเสมือน ไอดอล (Idol) ที่ตัวผมยึดถือเป็นตัวอย่าง เพราะว่าพ่อนั้นเป็นได้หลายๆ อย่าง เช่น เป็นครู เป็นที่ปรึกษา เป็นเพื่อนร่วมงาน และที่สำคัญที่สุดก็คือเป็น ผู้ให้กำเนิดผม พ่อขอผมถือว่า มีความเป็นเด็กอยู่ในตัว เป็นคนที่รักครอบครัว อีกทั้งยังเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีมาก สามารถคุยได้ทุกเรื่องไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นใคร มีความคิดแตกต่างกันมากเท่าใดก็ไม่เป็นอุปสรรค
ถึงพ่อจะเป็นคนที่ทำงานหนักมากคนหนึ่งแต่ท่านก็ไม่ลืมที่จะให้เวลากับครอบครัว ใส่ใจกับทุกคนในครบครัว ท่านไม่เคยทำให้ผมรู้สึกเหงาเลย เรียกได้ว่าเป็นคุณพ่อตัวอย่างเลยก็ว่าได้ การที่ผมได้ติดตามพ่อไปทำงานในที่ต่างๆนั้น ถือว่าผมได้กำไรมากกว่าคนอื่นๆ มาก เพราะได้ทำในสิ่งต่างๆ ที่หลายๆ คนไม่ได้ทำ เช่น หนังสั้น เขียนหนังสือ ทำสารคดี และการติดต่อประสานงานกับบุคคลต่างๆ เรียกได้ว่าได้ฝึกงานจริงๆ และได้ทดลองทำในหลายๆ อย่างที่ตัวผมเองก็ชอบอยู่ด้วย
เนื่องจากพ่อของผมทำงานเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม และด้านปลุกจิตสำนึกให้เยาวชนรักถิ่นฐานบ้านเกิด รู้จักรากเหง้าของตนเอง เพราะอำเภอเชียงแสนที่ผมอาศัยอยู่เป็นเมืองโบราณจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ให้ได้รู้จักรัก และหวงแหนในเมืองโบราณที่บรรพบุรุษเสียเลือดเสียเนื้อ ปกป้องมาเพื่อคนรุ่นหลัง ในขณะที่เมืองนั้นเปลี่ยนแปลงไปในด้านของเมืองหน้าด่านการค้าชายแดน
กระแสของการพัฒนาที่ไร้ทิศทางได้กระหน่ำซ้ำเติมเมืองประวัติศาสตร์เชียงแสนอย่างหนัก การระเบิดเกาะแก่งในแม่น้ำโขงเพื่อให้เรือสินค้าขนาด 500 ตัน ของจีนแล่นเข้ามาได้สะดวก การสร้างนิคมอุตสาหกรรมจีนจากยูนนาน บนพื้นที่อู่ข้าว อู่น้ำใจกลางชุมชนใน ต.ศรีดอนมูล ที่มีหมู่บ้านรอบพื้นที่ถึงสิบหมู่บ้าน ทำให้พ่อ ตัวผม และเพื่อนๆ ต้องกระโจนเข้าสู่เวทีสาธารณะ ในฐานะแกนนำในการคัดค้านการสร้างนิคมอุตสาหกรรมจีนยูนนาน
ประสบการณ์ตรงที่ได้เรียนรู้จากการทำงานร่วมกับพ่อ ทำให้ผมทึ่งในการวางแผนงาน ถ้าใครบอกผมว่าการทำงานให้สำเร็จต้องทำงานเป็นทีม ผมคงต้องไม่เห็นด้วยแน่ เพราะสิ่งที่พ่อทำนั้นบางครั้งก็ทำคนเดียวเพื่อความคล่องตัวรวดเร็ว บางครั้งต้องอาศัยทีมเพื่อให้มีพลังขับเคลื่อน การรู้จักเลือกใช้วิธีการมากกว่าที่เป็นสิ่งสำคัญ และทำให้งานสำเร็จ
ทางทีมงานหนังสือ ฅ คน ก็ได้สนใจติดต่อสัมภาษณ์เกี่ยวกับการทำงานปลุกจิตสำนึกให้กับเยาวชน หรือนักเรียน ให้เกิดความรักความหวงแหนในบ้านเมืองของตัวเอง ซึ่งก็ได้ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร ฅ. คน ปีที่ 3 ฉบับที่ 10 [34] สิงหาคม พ.ศ. 2551 ในบทความเรื่อง “การต่อสู้เล็กๆ ในสนามการค้าเสรี”
ด้วยเหตุนี้เมื่อ 10 - 11 ก.ย. 51 ที่ผ่านมา ทีมงานครอบครัวข่าวช่อง 3 ของคุณไก่ มีสุข ได้โทรศัพท์มาขอสัมภาษณ์สดในรายการของเธอ..เพราะเธอสนใจในแนวคิดพ่อ จากการอ่านเจอในนิตยสาร ฅ.คน ฉบับเดือนสิงหาคม ในประเด็น แค่เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน …เนื้อหาเก็บมาบางส่วนเท่าที่จำได้ 2 วันรวมกัน
คุณไก่ - ไก่อ่านเรื่องราวของครูจากหนังสือ ฅ.คน ไก่คิดว่าแนวความคิดของครูเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะอะไรครูมิติ ต้องออกมาทำงานเพื่อสังคมประเทศชาติจนได้รับผลกระทบถึงขั้นให้ย้ายและขู่เอาชีวิตแทนที่จะมีชีวิตสงบสุขในบทบาทของครู
พ่อ- เพราะผมเป็นข้าราชการ ข้าราชการที่หมายถึง ผู้ทำงานรับใช้พระราชา ในภารกิจที่พระองค์ท่านมอบหมาย และภารกิจที่เราเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง เพื่อความสงบสุขอยู่ดีของประชาชนตามอัตภาพ ผมจึงยึดเอาพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตน
คุณไก่- ยิ่งใหญ่มากเลยค่ะ คุณครูเริ่มมีแนวคิดอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ
พ่อ- ผมต้องบอกคุณไก่ก่อนเลยว่า ผมไม่มีโอกาสได้ฟังพระราชดำรัส ด้วยตัวเอง เพราะผมตัดสินใจมาสอบครูแทนที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกัน ผมต้องตัดสินใจเลือกอาชีพก่อน เพราะคุณพ่อของผมเริ่มป่วยหนัก ผมต้องทำงานหาเงินมาเลี้ยงท่านเป็นการตอบแทน และบังเอิญผมสอบได้
คุณไก่- ไม่ใช่บังเอิญค่ะคุณครู เป็นความสามารถล้วนๆ และความกตัญญูของคุณครูเองที่ส่งผลทันที…หลังจากเป็นครูแล้วทำอย่างไรต่อคะ
พ่อ- ผมสืบค้นและยึดเอาพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ความว่า “งานที่แต่ละคนกำลังทำอยู่นี้ คือความเป็นความตายของประเทศ เพราะอนุชนที่มีความรู้ ความดีเท่านั้น ที่จะรักษาบ้านเมืองไว้ได้” ผมเลยเริ่มทำงานถวายพระองค์ท่าน ถึงแม้เราจะเป็นส่วนประกอบเล็กๆ ขององค์กร แต่ภาระหน้าที่ของเรายิ่งใหญ่เหลือเกิน ถ้าเราไม่ตระหนักในความสำคัญตรงนี้ เราก็เป็นข้าราชการที่ดีไม่ได้ เราก็เป็นครูที่ดีไม่ได้
คุณไก่- โอ้โห! คุณครูคะอุดมการณ์ของคุณครูยิ่งใหญ่จริงๆ ค่ะ ……. ไก่ได้อ่านบทความของคุณครูมาว่า “ผมเคยรู้สึกเหนื่อยหน่ายและท้อแท้กับการทำความดีเพื่อแทนคุณแผ่นดิน ผมเฝ้าถามหาความยุติธรรมให้กับตัวเอง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธอย่างเย็นชา ผมเคยถูกข่มขู่เอาชีวิตหลายครั้ง “ ช่วงนั้นเกิดอะไรขึ้นคะ
พ่อ- ช่วงนั้นนักเรียนของผมได้จับประเด็นการสร้างนิคอุตสาหกรรม ที่อ.เชียงแสนมาเป็นกรณีศึกษา จนในที่สุดกลายเป็นแกนนำในการคัดค้านและได้รับชัยชนะในที่สุด ผมทำงานหนักทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน …
คุณไก่- คุณครูทำอย่างไรคะ จึงผ่านพันเหตุการณ์ร้ายๆ มาได้ เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ที่กำลังต้องการหาทางออกในการแก้ปัญหาอยู่
พ่อ- ผมใช้วิธีการทำให้มาก ทำแต่ไม่ท้อ เพราะถ้าเราหยุดทำคนที่เขาศรัทธาในตัวเรา เด็กที่ยึดเราเป็นแบบอย่าง ชาวบ้านที่เราปลุกเขาขึ้นมา เขาเหล่านั้นจะมีกำลังใจต่อสู้ชีวิตได้อย่างไร ถ้าแบบอย่างของเขาล้มเสียแล้ว ผมคิดให้กำลังใจตัวเองตลอดเวลาว่า ภาระเรายิ่งใหญ่ถึงแม้เราจะเป็นส่วนประกอบเล็กๆ ถ้าเป็นร่างกายเราเป็นแค่เส้นเลือดฝอยเท่านั้นเอง แต่บังเอิญเรามันเป็นเส้นเลือดฝอยในสมอง ถ้าเราท้อเราหยุด เส้นสมองก็จะหดตัว ร่างกายหรือประเทศก็แย่ เกิดแตกขึ้นมาเมื่อไหร่ ประเทศก็อยู่ไม่ได้
คุณไก่- ครูคะ ไก่ทึ่งในแนวคิดของครูมากเลย หลายคนต้องการกำลังใจจากคนอื่น แต่ครูมีวิธีให้กำลังใจตัวเอง เป็นเส้นเลือดฝอยในสมอง (หัวเราะ) ไก่ต้องเอาไปใช้บ้าง…..ครูคะมีคนโพสต์มา ถามค่ะ ว่าทำดีแล้วไม่ได้ดี จะทำดีไปทำไมกัน
พ่อ- ทำต่อไปเถอะครับ เหตุผลที่ทำดีแล้วไม่ได้ดี เพราะมันยังไม่ถึงเวลา เรามีวงล้อความดีไม่เท่ากัน คนที่มีวงล้อเล็กทำดีแป็บเดียวก็ได้รับผลแล้ว แต่วงล้อความดีของเราใหญ่ วงรอบกว้างเพราะเราทำเพื่อส่วนรวมประเทศชาติ มันเลยกลับมาครบรอบช้า แต่ถ้าครบรอบวันใดจะส่งผลที่ยิ่งใหญ่มาก ทำต่อไปนะครับอย่าท้อ (เสียงปรบมือ)
คุณไก่- คุณครูค่ะ ทีมงานทุกคนเขาปรบมือให้ครูค่ะ ………สำหรับผู้ที่บอกว่า ทำดีแล้วไม่ได้ดี นั่นแสดงว่าวงล้อความดีของคุณยิ่งใหญ่ เมื่อครบรอบผลตอบแทนก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันค่ะ…..สองวันเต็มๆ กับข้อคิดดีดี จากครูหนุ่ม ครูมิติ ยาประสิทธิ์ ขอบพระคุณค่ะคุณครู
ผมว่าคนที่ถึงแม้นจะไม่ได้ฟังด้วยตนเอง แต่ได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้ก็ต้องมีกำลังใจที่จะทำความดีเพิ่มขึ้นอีกแน่นอนครับ แม้แต่ตัวของผมเองก็มีกำลังใจที่จะทำความดี และไม่ย่อท้อกับอุปสรรคที่เข้ามาทดสอบเราและเมื่อเราทำมันสำเร็จ ผมรับรองว่าผลตอบแทนที่ได้มามันย่อมเป็นสิ่งที่ดี ตามกฎของการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม
บันทึกนี้โพสต์เมื่อ วันที่ วันจันทร์, 13 กรกฏาคม 2009 เวลา 2:08 (เย็น) และจัดไว้ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่. ติดตามอ่านการแสดงความเห็นได้ที่ฟีดนี้ RSS 2.0. คุณสามารถจะ ฝากความคิดเห็นไว้, หรือ แทร็กย้อนหลัง จากเว็บไซต์ของคุณได้.
#2:: น้ำฟ้าและปรายดาว 13 กรกฏาคม 2009 เวลา 7:40 (เย็น)
พ่อ คำนี้ยิ่งใหญ่ที่สุดเมื่อถูกเรียกขานจากหน่อเนื้อเชื้อไข ด้วยความรู้สึกท่วมท้นจากใจจริง..น้องเนว์เป็นนวัตกรรมแห่งความรักที่น่ารักจริงๆค่ะ อ่านแล้วขนลุก อิอิอิ