วุ่นวายๆ จิตใจๆ และการเรียนใหม่ๆ
^^ หลังจากห่างหายไปนาน เพราะหลายสิ่งหลายอย่าง ทั้งภารกิจด้านการเรียนบ้าง เพราะต้องย้ายที่เรียน ต้องปรับตัวหลายอย่าง เพราะปัญหา(ขี้ประติ้ว) ที่แก้ไม่ออกสักที เลยมัวแต่เสียเวลาโทรไปปรึกษาคนนู้นคนนี้ ปรึกษาไปทั่วก็ไม่เห็นจะยักแก้ไขปัญหานั้นได้สักที วันนี้เลยลองมาคุยกับตัวเองอีกครั้ง เผื่อจิตใจจะกลับไปสงบอย่างเก่า ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการคืออะไรกันแน่ เฮ่อ ^^ ความคาดหวังหนอ ช่างเจ็บปวด ความยึดติดหนอ ช่างทรมานดีแท้ ในเมื่อรู้แล้ว ทำไมจึงปล่อยวางไม่ได้ เพราะอะไรหนอ จิตใจ ผ่านมาจะครึ่งปีแล้ว ทำไมยังปล่อยวางไม่ได้สักที พูดนะพูดได้ คิดนะก็คิดได้ แต่ให้ทำเนี่ยสิ ยากดีแท้ แต่หากไม่เริ่มวันนี้ แล้วเมื่อไหร่หนอจะทำได้ เริ่มใหม่ ถึงแม้จะไม่สำเร็จมากี่ครั้ง แต่ทุกครั้งที่เริ่มใหม่ เราก็เพิ่มมากกว่าครั้งเดิมมาหนึ่งระดับแล้ว ต้องทำให้ได้ สู้ๆๆ
ขึ้นปี 4 แล้ว ขึ้นมาใช้ชีวิตคลินิคแล้ว มีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตที่ต้องเปลี่ยนแปลง หนึ่งในนั้นคือความรับผิดชอบที่มากขึ้น รับผิดชอบต่อการราวน์วอร์ด การอยู่เวร การเขียนรายงาน เพราะไม่มีใครมาบังคับ ไม่มีใครมาคอยบอกให้ส่งงานอีกแล้ว เราต้องรับผิดชอบตัวเอง เพราะต่อไปไม่ใช่แค่งานเท่านี้ที่เราต้องรับผิดชอบ เราต้องรับผิดชอบชีวิตคน แต่จะว่าไปชีวิตคลินิคก็สนุกกว่าปรีคลินซึ่งวันๆต้องนั่งเรียนเลคเชอร์อยู่ในห้องมากเลยนะ เพราะได้สัมผัสกับผู้ป่วยจริง ได้สังเกตอาการ ได้ตรวจร่างกายกับผู้ป่วยจริงๆ และได้พูดคุยกับคนไข้จริงๆ ไม่ใช่จะนั่งคุยกับกระดาษเหมือนตอนปรีคลินิคอีกแล้ว ตอนนี้ฉันอยู่ในวอร์ด ศัลยกรรม หรือการรักษาโรคด้วยการผ่าตัดนั่นเอง อาจารย์หมออยู่ที่นี่ใจดีกันมากเลยละ อาจารย์แต่ละท่านมีจิตวิญญาณของการเป็นหมอและการเป็นครูที่สูงมาก แต่ก่อนฉันอาจจะเคยมองเหมือนใครหลายคนมองว่า เดี๋ยวนี้หมอเห็นแต่ประโยชน์ตัวเอง ไม่ค่อยเห็นถึงประโยชน์ส่วนรวมเหมือนสมัยก่อนแล้ว แต่เมื่อฉันมาสัมผัส เมื่อได้มาเรียนที่นี่ สิ่งที่ฉันได้รับรู้ก็ไม่ใช่อย่างนั้นอีกต่อไป อาจารย์หมอของฉัน ^^ ทุกท่านเก่งมาก ที่1 ที่ 2 ของประเทศ นอกจากเก่งแล้วท่านยังเป็นหมอที่ดี ดีมาก งานของอาจารย์แต่ละท่านหนักมาก จนฉันสงสัยว่าท่านมีเวลาส่วนตัวกันไหม เช้าก็ราวนด์วอร์ด สอนนักศึกษา เข้าผ่าตัด ออกตรวจผู้ป่วยนอก ตอนเย็นก็อยู่เวรถึงเช้าของอีกวัน จนฉันสงสัยเวลาส่วนตัวละอยู่ไหน?? ทั้งๆที่อาจารย์มีงานหนักแล้ว แต่อาจารย์ก็ทุ่มเทให้นักศึกษาอย่างเต็มที่ สอนทุกอย่าง ให้ทุกอย่าง ไม่เคยมีเลยที่อาจารย์จะขี้เกียจสอน หรือยกเลิกชั้นเรียนโดยไม่มีเหตุผล นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ฉันประทับใจเมื่อได้ขึ้นมาเรียนชั้นคลินิค และการประทับใจนั้นก็ต้องมี ประทับใจมากเป็นพิเศษด้วย ^^ ฉันอยากเล่าความประทับใจของฉันให้ฟังจัง ฉันประทับใจอาจารย์หมออยู่ท่านหนึ่ง อาจารย์เป็นหมอศัลยกรรมปัสสาวะ แต่จะว่าไปอาจารย์วอร์ดนี้ที่ฉันสัมผัสมามีแต่ท่านที่ใจดีมากๆ และก็เป็นหมอที่ดีและเก่งมากๆเลยละ ทำให้สองสัปดาห์ที่ฉันเรียนอยู่วอร์ดนี้ฉันมีความสุขมาก เอาละ ต่อเรื่องเดิมก่อนดีกว่า มาเล่าถึงอาจารย์ท่านที่ฉันประทับใจ ขอสงวนชื่อไว้ก่อนละกัน อิอิ อาจารย์เป็นคนใจดี ใจเย็น มากกกก อาจารย์ทุ่มเทในการสอนให้นักศึกษามาก อาจารย์ไม่ดุ ไม่ว่านักเรียน คราวนี้พออาจารย์ถามอะไร นักศึกษาตอบไม่ได้ พวกฉันก็จะรู้สึกผิดไปเอง ที่ทำให้อาจารย์ต้องผิดหวัง ไม่ต้องมาดุด่าว่ากล่าว พวกฉันก็รุ้สึกผิดแล้ว รุ้สึกผิดเพราะอาจารย์ไม่ว่านี่แหละ พอกลับหอ ฉันเลยอ่านหนังสือ เพื่อจะได้ตอบอาจารย์ได้ มีอะไรก็กระตือตือร้นเต็มที่เพราะกลัวอาจารย์เสียใจ ฮ่าๆ ก็เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้ฉันกระตือรือร้นในการเรียน เพราะเกิดมานี่ไม่เคยเลยที่อยากจะกระตือรือร้นขนาดนี้ จะว่าไปการเรียนแบบราวนด์วอร์ดก็ดีนะ อาจารย์จะถามๆๆ พอตอบไม่ได้ ทำให้เรารู้สึกว่าอยากหาคำตอบ อยากรู้คำตอบเพื่อจะได้มาคุยกับอาจารย์รู้เรื่อง เราก็เลยไปหาหนังสือมาอ่านกัน ^^
มาว่าถึงเรื่องการทำหัตถการกันบ้างดีกว่า ศัลยกรรมเป็นวอร์ดที่มีงานหัตถกรรมมาก ในวอร์ด ก็มีทั้งเย็บแผล ล้างแผล ใส่สายสวนปัสสาวะ ใส่สายอาหาร ฉีดยา บลาๆๆ คราวนี้ก็สนุกฉันละสิ เพราะเป็นคนไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ แต่ชอบทำกิจกรรมทำงานมากกว่า อย่าว่าไปเชียว เพราะตอนปี1-3 ฉันเป็นเด็กกิจกรรม ทำมาหมดแหละ ทั้งทำค่าย จัดงานกิจกรรม จัดงานรับน้อง มันก็เลยไม่แปลกถ้าฉันจะชอบทำกิจกรรมมากกว่านั่งฟัง lecture ในห้อง แหะๆ ก็นั่งฟังทีไรหลับทุกทีนี่นา ต่อๆๆ อ้อ หัตถการในวอร์ด ฉันจะชอบไปคลุกอยู่ในวอร์ดศัลย์ชาย เพราะพี่พยาบาลใจดีมากเลย ^^ ฉันเลยชอบไปให้พี่สอนทำหัตถการต่างๆ ทั้งฉีดยา ทำแผล ใส่สายสวน ใส่สายอาหาร ตอนแรกๆ ทำไม่เป็นเลยสักอย่าง ทำไปก็ปนเปื้อนเชื้อโรคไป ยิ่งใส่สายสวนปัสสาวะกับทำแปลเนี่ยไม่ต้องพูดถึง ปนเปื้อนจนไม่รู้จะปนเปื้อนยังไงแล้ว ตอนแรกๆก็ดูๆพี่พยาบาลไปก่อน หลังๆก็เริ่มทำเอง ก็เริ่มคล่องขึ้นๆ แต่ก็ยังไม่ขนาดพี่พยาบาลหรอก แต่ก็ถึงว่าทำได้มากกว่าเมื่อก่อนนะเนี่ย ก็ภูมิใจในตัวเองเล็กน้อย ฮี่ๆๆ มีคนไข้อยู่สองเตียงที่ฉันชอบไปล้างแผลให้ทุกเย็น พอดีมีเย็นวันหนึ่งที่ไม่ได้ไปล้างแผล พอวันถัดมา คนไข้ถามว่า “อ้าวหมอ ทำไมเมื่อวานไม่มาล้างแผลให้ละ” ^^ รู้สึกดีใจแหะ ไม่รู้สิมันเป็นความรู้สึกที่ดีนะ แล้วก็คนไข้อีกคนหนึ่งเนี่ย ถึงว่าสอนฉันทำแปลเลยก็ได้ เพราะคนไข้เค้าต้องทำแผลเช้าเย็นๆ เค้าต้องชำนาญในแผลของเค้ามากกว่าเราอยู่แล้วละ พอเปิดเซ็ทจะทำแผลปุ๊บ คนไข้บอกเลย ทำนู่นนะ แล้วค่อยทำนี่ หมอวันนี้เค้าเปลี่ยนยาที่ทานะ หมอไม่เอายามาทำหรอวันนี้ สารพัดคำจะบอก ก็รู้สึกดีนะ แอบฮาด้วย ก็เลยมีความสุขและสนุกที่ได้ไปพูดคุยกับคนไข้ อิอิ มันเป็นความสุขอย่างหนึ่งของคนเป็นหมอเลยนะ ถึงตอนนี้ฉันจะเป็นนักศึกษาแพทย์ ซึ่งสักวันหนึ่งจะต้องไปเป็นแพทย์ในอนาคตให้ได้แหละน่า ที่จริงๆตอนเย็นๆฉันเสพติดการออกกำลังกายนะ ต้องไปออกกำลังกายตลอด แต่ตั้งแต่มาอยุ่โรงบาลเนี่ย คุณภาพชีวิตแย่มาก ไม่ได้ออกกกำลังกาย กินอาหารไม่ครบหมู่ สารพัดสารเพ นอนน้อยอีก (สำหรับคนอื่นนะ สำหรับฉันตอนนี้ยังนอนอิ่มอยุ่) อ้อ แต่พอได้ขึ้นวอร์ด ได้ไปพูดคุยกับผู้ป่วย ฉันก็เลือกจะขึ้นวอร์ดในตอนเย็นมากกว่าไปออกกำลังกาย เพราะมีความสุขที่ตรงนี้ อ้อ ต้องการจะบอก ณ จุดนี้แหละ นี่อาจจะเป็นสิ่งที่หมอหลายคนมีความสุขก็ได้ ใครหลายคนอาจมองว่า งานของหมอหนัก งานยุ่ง ไม่มีเวลาส่วนตัวเลย ตอนเย็นตอนค่ำ ก็อยู่กับคนไข้ แล้วชีวิตจะมีความสุขเหรอ ฉันเลยลองคิดว่า นี่แหละมั้งความสุขของหมออยู่ที่คนไข้นี่แหละ ใครว่าหมอไม่มีเวลาส่วนตัว หมอมีเวลาส่วนตัวอยู่นะ แต่เลือกที่ว่าอยากให้มันทำอะไรมากกว่า ^^ ตอนนี้ฉันกำลังรู้สึกดีใจและภูมิใจในวิชาชีพนี้ แต่ต้องรอติดตามพัฒนาการของตัวเองไปทีละก้าวๆ เพราะต่อจากนี้ไม่รู้จะเจออะไรบ้าง คงต้องไปอ่านหนังสือแล้วละ หวังว่า จะมีใครหลายคนที่อ่านบทความนี้แล้วเข้าใจพวกหนูมากขึ้นนะคะ
« « Prev : ^^ มออุบลยินดีต้อนรับคะ
1 ความคิดเห็น
ดีใจที่ได้อ่านอีก อิ