11 มีนา วันมหาระทึก

โดย sakura เมื่อ 6 May 2011 เวลา 3:25 pm ในหมวดหมู่ Survival and earth #
อ่าน: 2724

อยู่ญี่ปุ่นมา 9 ปี มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งจนรู้สึกเฉยๆ แต่วันนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา 11 มีนาคม 2554 วันนั้นเป็นวันศุกร์ที่ทุกคนกำลังทำงานด้วยความเบิกบานเพราะพรุ่งนี้จะได้หยุดสุดสัปดาห์กันแล้ว ตอนบ่ายกว่าๆ อาคารก็เริ่มสั่นไหว แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง เพราะสั่นไหวอย่างรุนแรง ยาวนานและต่อเนื่อง เป็นระลอกๆ ซากุระเป็นคนแรกที่รีบคว้าซื้อแจ็คเก็ตตัวเก่ง แล้วเผ่นออกจากตัวอาคารทันที ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าจะมีภัยร้ายแรงมากน้อยเพียงใด รู้เพียงแต่ว่า ถ้าขืนอยู่ในอาคารต่อไป เราอาจได้กลายเป็นซากอยู่ในตึกเหมือนที่ไครช์เชิร์ชแน่ๆ แม้อากาศข้างนอกจะหนาวเหน็บ แต่ก็ไปนั่งทนเมาคลื่นอยู่ที่ลานจอดรถ ไม่น่าเชื่อเลยว่าพื้นดินที่เคยแข็งแกร่งบนยอดเขาแห่งนี้จะไหวโคลงเคลงเหมือนเรือลำน้อยที่โต้คลื่นอยู่ในทะเล จะหนีไปไหนก็คงหนีไม่ได้ ทำได้เพียงแค่หาที่ที่คิดว่าปลอดภัยที่สุดเป็นที่หลบภัย

ด้วยความที่ที่ทำงานอยู่บนยอดเขาและไม่ได้เปิดทีวีตามข่าว ก็ไม่คิดว่าจะมีภัยร้ายแรงอะไรเกิดขึ้น แต่ที่พวกเรารู้ในเวลาต่อมาคือ รถเมล์และรถไฟหยุดให้บริการ พนักงานที่ไม่มีรถส่วนตัวไม่สามารถกลับบ้านได้ ต้องนอนค้างกันที่ที่ทำงานเกือบสี่สิบคน แต่บ้านซากุระอยู่ริมทะเลและขี่จักรยานมาทำงานก็เตรียมเก็บข้าวของกลับบ้าน เพื่อนคนญี่ปุ่นก็เข้ามาถามว่า “จะไปไหน บ้านเธออยู่ในเขตเตือนภัยสึนามินะ” ตอนนั้นก็มองหน้าเพื่อนแบบงงๆ ว่าล้อเล่นหรือเปล่า เพื่อนเลยพาไปที่ห้องทีวีที่กำลังมีการถ่ายทอดภาพเหตุการณ์สึนามิในเขตมิยากิและเซนไดอยู่ ไม่คิดเลยว่าแผ่นดินไหวเมื่อสองสามชั่วโมงที่ผ่านมานั้น จะก่อให้เกิดสึนามิคลื่นมหึมาที่กวาดเอาเมืองทั้งเมืองหายวับไปกับตา ตอนแรกที่ดูคิดว่าเป็นภาพบันทึกในประเทศอื่นหรือไม่ก็เป็นภาพยนต์อะไรสักอย่าง ดูซ้ำแล้วซ้ำอีกเพราะเขาเปิดฉายตลอด จนค่อยๆ ประติดประต่อความรู้และความเข้าใจอยู่เป็นชั่วโมงกว่าจะรู้ว่านี่คือความจริงที่เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินแห่งนี้ แม้ใจจะปฏิเสธไม่ยอมเชื่อ แต่นี่ก็คือความจริงที่เกิดขึ้น ในที่ที่ห่างจากเราไป 400 กว่ากิโลเมตร โชคดีเหลือเกินที่ที่เราอยู่ไม่ใช่ที่ที่เกิดเหตุ รู้สึกขอบคุณที่ทำงานที่มาตั้งอยู่บนยอดเขาแห่งนี้ ขอบคุณที่ทำงานที่มีห้องพักรับรองให้เราได้อาศัยนอนหนีภัยสึนามิอยู่หลายคืน ขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่นที่เขาสร้างระบบเตือนภัยและระบบรองรับภัยภิบัติ และในวันนี้เราก็ได้เรียนรู้ว่าที่ที่ทำงานเขามีห้องเก็บอุปกรณ์กู้ชีพกรณีภัยภิบัติ ซึ่งมีทั้งขนมปังอัดกระป๋องที่เปิดแล้วเสียงดังปั้ง มีผ้าห่มที่แพ็คอย่างดีด้วยอลูมิเนียมฟอยล์ มีน้ำดื่มที่ติดฉลากน้ำดื่มสำหรับกรณีภัยภิบัติ และเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ทำให้ซากุระได้เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นมากขึ้น และเรียนรู้ว่าญี่ปุ่นเขามีระบบรายงานแผ่นดินไหวและเตือนภัยสึนามิแบบนาทีต่อนาทีเวลาเกิดเหตุกันเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าแผ่นดินไหวทีไรซากุระจะต้องรีบตื่นไปเปิดทีวีดูว่าศูนย์กลางอยู่ที่ไหนจะมีสึนามิเกิดขึ้นในที่ที่เราอยู่หรือเปล่า และก็สำรวจทางหนีทีไล่ว่า ถ้าสึนามิเข้ามาตอนเรานอนอยู่ที่บ้านเราจะหนีไปทางไหนถึงจะรวดเร็วและปลอดภัยที่สุด เมื่อเรียนรู้มากขึ้นก็เริ่มนอนหลับสนิท หลังจากที่ตอนแรกๆ นอนสะดุ้งตลอดเวลา ตอนนี้แม้แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นก็ไม่ตื่นแล้ว เพราะรู้เพิ่มมาอีกว่าเขาจะมีหวอเสียงดังสนั่นหวั่นไหวดังวู๊ดๆๆๆๆ เวลาที่สึนามิจะเข้ามา เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เราตระหนักว่า ”คนเรานี้กลัวสิ่งที่ไม่รู้มากกว่าสิ่งที่รู้” และก็ได้เรียนรู้อีกว่า เรายังมีเพื่อนมากมายที่รักและห่วงใยเรา แม้บางคนจะไม่เคยติดต่อกันเลยนานนับสิบปี เพราะต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปทำงานตามหนทางของตน และเหตุการณ์ครั้งนี้เพื่อนๆ หลายคนก็ไปขวนขวายหาเบอร์โทรเราจนได้และก็โทรมากันจนสายแทบไหม้ แม้ว่าระบบสัญญาณโทรศัพท์ในช่วงเวลานั้นจะติดขัดก็ตาม จึงอยากขอบคุณทุกๆ ความห่วงใยที่มีให้กัน และขอบคุณบุญในตัวที่คุ้มครองให้อยู่รอดปลอดภัยมาจนทุกวันนี้…ขอบคุณจริงๆ…

« « Prev : กว่าจะรู้จัก..มนุษยธรรม

Next : 17 มีนา วันจำลาแดนปลาดิบ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 May 2011 เวลา 4:45 pm

    จ๊ะเอ๋
    หายไปนานเลยค่ะ ดีใจที่ส่งข่าวว่าสบายดีนะคะ ตอนแรกคิดว่าแถบที่คุณซากุระอยู่ไม่โดนเสียอีก พอเห็นหัวบันทึกใจหายวาบเลย :(

    ญี่ปุ่นมีการเตรียมพร้อมและเตือนภัยอย่างน่าศึกษามากๆเลยค่ะ ชอบห้องที่เก็บอุปกรณ์กู้ชีพกรณีภัยพิบัติ ทำให้เกิดไอเดียว่าในแต่ละที่ทำงานของไทยมีบ้างคงดี เพราะภัยพิบัติคงไม่เกิดเมื่อเราอยู่ที่บ้านเสมอไปหรอกนะคะ น่าสนใจว่าเขาซื้อหาอุปกรณ์เหล่านี้จากที่ไหน (คุณซากุระสนใจเป็นเอเยนต์นำเข้ามั้ยคะ ^ ^)

  • #2 sakura ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 May 2011 เวลา 5:24 pm

    555 เป็นความคิดที่ดีนะคะพี่ แต่ซากุระว่าปล่อยให้บ้านเมืองเราร่มเย็นแบบเดิมดีกว่า อย่าึถึงกับต้องนำเข้าของพวกนี้เลยเนาะ มันหวาดเสียวหลายๆๆ แต่จะว่าไปซากุระชอบเจ้าขนมปังกระป๋องนะคะ เปิดแล้วมันดังดี รสชาติก็โอเค เก็บได้นานตั้งห้าปี เสียดายลืมถ่ายภาพเก็บไว้ ไม่รู้เขาสั่งซื้อจากไหนเหมือนกันค่ะ เพราะตั้งแต่อยู่ญี่ปุ่นมาก็เพิ่งจะเคยเห็นนี่หละค่ะ (และหวังว่าคงไม่ต้่องใช้บริการเขาอีก แป๊วววววว)

  • #3 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 May 2011 เวลา 9:24 pm

    ที่น่าสะเอียนคือ ช่วงนั้นตั๋วเครื่องบินออกจากญี่ปุ่นพากันโก่งราคาลิบลิ่ว เพื่อรีบตักน้ำที่ขึ้น แทนที่จะลดราคาให้มากๆ และเพิ่มเที่ยวบิน เพื่อช่วยให้คนต่างชาติได้ออกมายังบ้านเกิดตัวเอง

    แบบนี้คือหากินบนหายนะของคนอื่น มันน่า…ไหม

  • #4 sakura ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 May 2011 เวลา 10:30 am

    รอบนี้ต้องขอบคุณน้ำใจของการบินไทยค่ะคุณทวิชที่เขายังขายตั๋วออนไลน์แบบราคาปรกติ แต่ซากุระบินด่วนซื้อตั๋วตอนบ่ายบินเช้าอีกวันเลยได้ราคาตั๋วหฤโหดมาเหมือนกัน พยายามติดต่อไปทางบริษัทตัวแทนขายตั๋วสองสามแห่ง ติดต่อไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าปิดร้านหนีกลับไปก่อนหรือว่าสายไม่ว่างกันแน่ ส่วนสายการบินฝรั่งเศสเขางดเที่ยวบินเข้าญี่ปุ่นเลย กลับมาถึงเมืองไทยแล้วได้คุยกับน้องที่เป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินญี่ปุ่น เขาบอกว่าไม่มีพนักงานคนไหนอยากทำงานในไฟลท์ที่บินไปญี่ปุ่นเลยค่ะ เพราะเขากลัวโดนรังสีกัน โชคดีที่ตอนนี้ทุกอย่างกลับมาเป็นปรกติแล้ว ยกเว้นเตานิวเคลียร์ที่ยังต้องจับตาดูกันอยู่อย่างใกล้ชิดค่ะ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 1.1873180866241 sec
Sidebar: 0.28041195869446 sec