ต้นไม้มันหนัก….ใคร เหตุใดไปทำลาย

4 ความคิดเห็น โดย ลุงเอก เมื่อ 26 ธันวาคม 2008 เวลา 21:16 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 206

ลุงเอกผ่านไปที่แม่สลองทางเข้าหมู่บ้านชาวเขา  เห็นต้นไม้ใหญ่กำลังถูกใครคนหนึ่งสั่งให้ชำเรา  เหตุเพราะไม้ต้นนี้ชราแล้วคือนับร้อยปี  ทางโรงเรียน จะโค่นทิ้งเพื่อสร้างตึก  แค่นึกก็เศร้ากับคนไร้ปัญญาเหล่านี้แถมเป็นผู้บริหารโรงเรียน  เด็กนักเรียนพากันห้ามด้วยว่าเขาอยู่กับต้นไม้มาทั้งชีวิต  พวกทำลายธรรมชาตินี่เมื่อไรมันจะตายหมดโลกซะทีหนา  ไอ้บ้าเอ๋ย


มิตรภาพที่เชียงแสน ดินแดนโยนกนาคนคร

6 ความคิดเห็น โดย ลุงเอก เมื่อ 26 ธันวาคม 2008 เวลา 21:08 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 222

มองดูภาพนี้ก็รู้ว่าหนาว ครูบานั้นใส่เต็มอัตราศึก  พร้อมด้วยอาเหลียง  นามขานว่าเจ้าพ่อเชียงแสน ส่วนอัยกามีฮีตเตอร์ติดตัวมาด้วยเลยอุ่นอยู่ตลอดเวลา  น้องเอกสุดหล่อก็มาจ้อร่วมกัน
แถมเจอลิฟ แต่ไม่เห็นออย  สาวสวยสองคนน่ะ…….ของลุงเอกเอง  ทีมงานเสริมสร้างสังคมสันติสุขครับ  น่าเรียนใหมล่ะ โข่งวิทยา


ทัวร์สามทหารเสือ วัดดอยทอง

5 ความคิดเห็น โดย ลุงเอก เมื่อ 14 ธันวาคม 2008 เวลา 8:31 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 286

จากการไปร่วมกิจกรรมเฮ 6 ทหารนอกอย่างลุงเอก  พาสามทหารเสืออันประกอบด้วยหมอเจ๊ อึ่ง และอุ๊ยจันตา ที่หลงมานั่งรถกับลุงเอกให้เป็นสารถีให้โดยมิได้นัดหมาย พอออกจากที่พักไปชมรอยพระบาทในค่ายพ่อขุนเม็งราย  ออกจากค่ายก็ตะลุยขึ้นเขาดอยทองหลังค่ายว่าจะไปกราบไหว้พระธาตุจอมทอง หันไปดูข้างหลังไม่มีใครตามมาสักคน

คนเชียงรายและคนที่มาเที่ยวที่เชียงรายนี่มักไม่มีใครรู้จักและสนใจที่จะมาวัดนี้เท่าใดนัก  ทั้งยังไม่มีอยู่ในแผนที่การท่องเที่ยว เหตุเพราะว่าวัดนี้มีมาก่อนอาณาจักรพ่อขุนเม็งรายหลายร้อยปีนัก หรืออาจจะพันปีก็เป็นได้ยังไม่มีใครศึกษาสำรวจ  ลุงเอกว่าน่าจะสมัยอาณาจักรหิริภุญไชย ปี 1200 เพราะในขณะนั้นนางจามเทวีที่ปกครองอยู่ลำพูนท่านสนใจในพระพุทธศาสนามาก  ว่ากันว่าท่านเป็นผู้นำศาสนาพุทธเข้ามาในล้านนา

เรียกได้ว่าวัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่วัดแรกในเชียงรายก็ว่าได้ ความที่ลุงเอกเคยมารับราชการอยู่ถิ่นนี้เป็นเวลาร่วม 5 ปีตั้งแต่ปี 2515 ขอโทษหลานๆที่ยังไม่เกิดด้วย  ลุงเอกมาที่ค่ายนี้บ่อยๆจึงทำให้ทราบเรื่องราวบ้าง มาเมื่อไดที่เชียงรายก็มักจะให้คนที่มาด้วยออกนอกเส้นทางไปชมเสมอเพราะเก่าแก่จริงๆพระคุณท่าน

พ่อขุนเม็งรายน่ะท่านมาพบวัดนี้เมื่อปี พ.ศ. ๑๘o๕ คือตามช้างมาตามน้ำกกแล้วมาเจอวัดจึงสร้างเมืองอยู่ที่นี่ ว่ากันว่ามีเขียนไว้ในพงศวดารโยนกของพระยาประชากรจักรกล่าวว่า พระเถระนามพระพุทะโฆษา ชาวโกศลเมืองสุธรรมวดีได้ออกไปสู่เมืองลังกาทวีปนำคัมภีร์พระไตรปิฏก แห่งลังกาทวีปมาสู่โยนกนครไชยบุรีศรีเชียงแสน ในวันจันทร์ขึ้น ๘ ค่ำเดือน ๖ ปีชวด มหาศักราชได้ ๓๓๕ (พ.ศ. ๑๔๘๓) นำพระบรมสารีริกธาตุ ๓ ขนาดรวม ๑๖ องค์ ถวายแก่พระเจ้าพังคราช เจ้าเมืองโยนกนาคพันธ์ พระองค์ได้แบ่งพระธาตุส่วนหนึ่งบรรจุลงมหาสถูปบนดอยทอง ขนานนามว่าพระธาตุดอยจอมทอง เพื่อเป็นมงคลนามของเมืองมีพิธีสรงน้ำพระธาตุทุกวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ (เดือน ๕ เหนือ)

ในวัดจะมีกรุวัฒนธรรม บรรจุเรื่องราวทางวัฒนธรรมของชาติไทย โดยบรรจุไว้เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2544 เขียนบอกไว้ว่ากำหนดเปิดอีก 100 ปีข้างหน้า คือวันที่ 19 มกราคม 2644 ลุงเอกคงตายแล้วมาเกิดใหม่ อาจจะเป็นสุนัขอยู่แถวนั้นก็ได้ ที่เชียงใหม่ก็มาเลียนแบบในภายหลังจะเปิด 13 เมษายน 2645 คือหลังเชียงราย 1 ปี  ที่ทำอย่างนี้เพราะต้องการให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาค้นคว้า สืบต่อมรดกอันดีงามของชาติไทยต่อไป แต่ทำไม่ไม่มีใครใคร่ไปดูหนา…

ในบริเวณวัดพระธาตุจอมทอง หรือวัดดอยทองนั้น เป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง 1 ใน 9 แห่ง เป็นสถานที่ที่ตั้งของเสาสะดือเมือง 108 หลักสร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพญามังราย เสาสะดือเมืองนี้เป็นรูปแบบสมมุติของจักรวาลอันเป็นคติที่มีมาแต่โบราณ ด้านหน้าหันไปทางทิศตะวันออก ลานรอบนอกหมายถึงแผ่นดิน ล้อมรอบด้วยคูน้ำอันเปรียบได้กับน้ำในขอบจักรวาล รอบในยกขึ้นเป็นหกชั้นหมายถึงสวรรค์ทั้งหกของกามภูมิ แล้วยกขึ้นอีกสามชั้นซึ่งหมายถึงรูปภูมิ อรูปภูมิ และชั้นบนสุดเปรียบได้กับนิพพาน สำหรับตัวเสาสะดือเมืองเป็นดั่งเขาพระสุเมรุ ตั้งอยู่บนฐานสามเหลี่ยม หมายถึงตรีกูฏบรรพตหรือผาสามเส้า ล้อมด้วยเสา 108 ต้น อันหมายถึงสิ่งสำคัญในจักรวาล และล้อมรอบอีกชั้นด้วยร่องน้ำห้าร่องซึ่งเปรียบเป็นปัญจมหานทีลดหลั่นเป็นชั้นไหลลงสู่พื้นดินตามคติโบราณของล้านนา

เสาสะดือเมืองนี้จะใหญ่เท่าห้ากำมือและสูงเท่ากับความสูงของพระเจ้าแผ่นดิน โคนเสาสะดือเมืองนี้จึงใหญ่เท่ากับห้าพระหัตถ์กำ และสูงเท่ากับส่วนสูงแห่งพระวรกาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ได้เสด็จมาเจิมเสาสะดือเมืองนี้ เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2531 ชาวเชียงรายจะมาสรงน้ำเพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของชาวเมือง และเชื่อว่าน้ำที่สรงเสาสะดือเมืองแล้วเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ (อ่านได้ในแผ่นหินอ่อนที่อธิบายความครับ)


ท่าอากาศยานเมดาน ประเทศอินโดนีเชีย

6 ความคิดเห็น โดย ลุงเอก เมื่อ 4 พฤศจิกายน 2008 เวลา 20:20 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 491

สถานที่นี้ดูไม่ดีจะคิดว่าเป็นมัสยิด  แต่จริงๆแล้วคือท่าอากาศยานเมดาน  ประเทศอินโดนีเชีย  ความที่เมืองเมดานเป็นเมืองหลวงของเกาะสุมาตราเหนือจึงทำให้  มีการเคลื่อนไหวของผู้คนมาก

ที่ผ่านมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อาคารผู้โดยสารในประเทศที่สนามบินโปโลเนียแห่งนี้  เมืองเมดานในจังหวัดสุมาตราเหนือของอินโดนีเซีย ไฟไหม้ทำให้อาคารได้รับความเสียหายอย่างมาก แต่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศไม่ได้รับความเสียหาย 

 

 

 

เขากำลังมีการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ส่วนต่างๆ  เพราะมีการเดินทางกันมากขึ้น 

 

ความที่ประเทศเขามีการพูดถึงสันติภาพกันมากจึกมีการ  กระตุ้นเร้าให้ทุกคนมองถึงเรื่องสันติภาพภายในชาติ
ทิวทัศน์หน้าแอร์พอร์ตพอมองออกไปใครๆก็บอกเหมือนภูเขาไฟฟูจีในญี่ปุ่นเลย


บันทึกแรกจะเป็นเรื่องอะไรดี”สาวอินโดนีเชียก็แล้วกัน”

3 ความคิดเห็น โดย ลุงเอก เมื่อ 4 พฤศจิกายน 2008 เวลา 19:56 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 400
บันทึกแรกเลยขอเอาสาวเมดาน อินโดนีเชียมาฝาก  ระหว่างเช็คอินจะขึ้นเครื่องต่อไปจาร์กาต้า  สาวที่ไปด้วยกันมาสะกิดให้ดู  เลยถ่ายมาฝาก
ระหว่างการเปลี่ยนเครื่องที่บินมาจากอาเจะห์จะไปจาร์กาต้า ต้องมาแวะต่อเครื่องที่เมดาน  พบสาวรูปหนึ่งนิ่งมาก  ทำหน้าที่รับเช็คอิน  แถมใส่ชุดสีม่วง  ที่เป็นสีเทรนด์ของปีนี้ด้วย  ลุงเอกยังซื้อเสื้อสีม่วงของหนุ่มอินโดมาใส่ 1 ตัวตอนลองใส่ใครๆก็ชม  ตอนใส่จริงจะเป็นไงยังไม่รู้
ล่ามคนไทยที่ไปด้วยบอกกับพวกเราว่าสาวๆอินโดนั้น  ชอบใช้สมุนไพรประเทืองผิว  เมื่อยามว่างจะดูแลหน้าตาเพราะเป็นที่รับแขก
ใครยังโสดจะเปลี่ยนใจก็ได้ไปเลือกสาวอินโด  ส่วนตัวลุงเอกสายไปซะแล้ว  เพราะตอนนี้ลุงเอกอยู่กับสาวพุงโล  หมดสิทธิ์ๆ


บันทึกแรกของฉัน!

13 ความคิดเห็น โดย ลุงเอก เมื่อ 16 กันยายน 2008 เวลา 23:43 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 139

ยินดีต้อนรับสู่ลานปัญญา

  • ท่านได้สร้างบล็อกของท่านเองแล้วที่นี่
  • บันทึกนี้เป็นข้อความทดสอบ
  • ท่านสามารถเข้า Dashboard หรือ Site Admin เพื่อลบบันทึกนี้ออกได้
  • คำแนะนำภาษาไทยอยู่ในบล็อกลานคู่มือบ้านลานปัญญา

ยินดีต้อนรับสู่ลานปัญญา



Main: 0.033055782318115 sec
Sidebar: 0.065077066421509 sec