เล่าเรื่องไปบราซิลแบบชิวชิว ตอนที่ ๑ การเดินทางไปบราซิล
วันนี้ขี้เกียจไปทำงาน เลยขอเจ้านายนอนทำงานแบบเล่นๆ ที่บ้าน ด้วยเหตุผลว่าดิฉันเหนื่อยมากกกก กับการปั่นรายงานอาทิตย์ละฉบับ…นอนจนเบื่อละ เลยคิดว่าเขียนบล็อกดีกว่า เพราะโดนแซวมาว่าบลอกนี้มีราคาเพราะกว่าจะได้มาแต่ละบทความต้องรอกันเป็นปี…..
เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้รับเชิญให้ไปบรรยายเรื่องเทคโนโลยีการจัดการขยะในประเทศญี่ปุ่น และเรื่อง 3Rs ที่เมือง Recife ประเทศบราซิล เนื่องด้วยประเทศบราซิลประกาศยกเลิกระบบการเทกองขยะทั้งประเภทภายในปี 2014 ถ้าเมืองใดทำไม่สำเร็จนายกเทศมนตรีของเมืองนั้นจะต้องติดคุก โอ้..แม่เจ้า….โหดจริงๆๆๆๆ
(ภาพ ลอนดอนยามบ่าย)
การเดินทางครั้งนี้ ออกค่าใช้จ่ายโดยธนาคารเพื่อการพัฒนาบราซิล ก็ประมาณ ADB ในเอเชียของเรา แต่คงมีงบน้อยกว่า ถูกขอร้องบวกบังคับเพราะเขาไม่ให้เราเลือกให้ใช้สายการบินของบราซิล TAM airline ก็แปลกดีเช็คราคาแล้วถ้าซื้อจากบราซิลราคาถูกกว่าซื้อในญี่ปุ่นครึ่งนึง จริงๆ แล้ว TAM ไม่มีเคาน์เตอร์ในสนามบินนาริตะ แต่บินด้วยเครื่อง ANA จากญี่ปุ่นไปลอนดอน แล้วเปลี่ยนไปใช้เครื่อง TAM จากลอนดอนไปบราซิล TAM airlines เป็นสายการบินที่ชาวบราซิลภาคภูมิใจว่าใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกา ครอบคลุมเครือข่ายการบินสู่ยุโรป อเมริกา และแอฟริกา ….ว่างั้น
เริ่มจากการเดินทางออกจากญี่ปุ่นเลยละกัน…จากญี่ปุ่นไปลอนดอน ตอนนี้การเดินทางสะดวกราบรื่นดีไม่มีปัญหาอะไร อาหารอร่อย อาจเพราะเราคุ้นเคยกับระบบสายการบินในญี่ปุ่นแล้ว แต่จากลอนดอนไปบราซิลนี้เริ่มจะมีปัญหาแล้ว หลังจากลงจากเครื่องแล้วต้องเดินไปตามเส้นทางระบุอาคารโดยสาร ซึ่งมีหลายอาคาร ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าไปอาคารไหน เพราะประตูทางออกจะล็อคและเปิดเฉพาะตอนรถรับผู้โดยสารมาถึงแล้วเท่านั้น มีคนญี่ปุ่นบางคนหลงทาง มาผิดอาคาร ต้องเสียเวลาไปนานทีเดียว
เมื่อผ่านกระบวนการตรวจความปลอดภัยในอาคารแล้วก็ไปนั่งทำงานรอในห้องรับรองสายการบินอยู่หลายชั่วโมงก็ยังไม่มีการประกาศว่าเครื่องจะออกจากประตูไหน ถามพนักงานก็บอกว่ายังไม่ประกาศ เราก็ต้องเฝ้ารอไป เขาประกาศหมายเลขประตูทางออกสิบนาทีก่อนได้เวลาขึ้นเครื่อง นัยว่าเพื่อความปลอดภัย แม่เจ้า…ระยะทางเดินจากห้องรับรองไปขึ้นเครื่องก็ใช่จะใกล้ๆ ขึ้นเครื่องได้ก็กะนอนยาววว
กรี๊ดดดดดด….กรี๊ดดดดดดดดดดด..ว๊ากกกกกกกก เสียงที่ดังแสบแก้วหูจากที่นั่งด้านขวาของตัวเครื่อง….สรุป เรามีผู้หญิงที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิตนั่งมาในเครื่องด้วยห่างจากเราไปห้าที่นั่ง หลังจากที่เธอเริ่มกรี๊ดแรกเธอก็กรี๊ดตลอดคืน … นัยว่าเธอมีปัญหากับความมืดและโดดเดี่ยว..พนักงานต้อนรับต้องจับเธอมัดมือมัดเท้าไว้เพื่อไม่ให้เธอไปเผลอทำร้ายใคร มีหมอนั่งมาบนเครื่องด้วย…ได้ฉีดยาระงับประสาทให้แล้วก็ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไร มีผู้โดยสารที่นั่งรอบๆ เธอต้องเขียนรายงานเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และย้ายที่นั่งให้อยู่ห่างจากเธอ นัยว่าเพื่อความปลอดภัย และเพื่อป้องกันการฟ้องร้องจากผู้โดยสารทีหลังว่าพนักงานทำเกินกว่าเหตุ กว่าเครื่องจะลงก็โทรมกันไปทั้งห้องโดยสาร น่าสงสารที่สุดก็พนักงานต้อนรับที่ไม่ได้หลับได้นอน ต้องผลัดกันคอยนั่งเป็นเพื่อนคุยกับเธอทั้งคืน ….. เวรกรรม
หลังจากเครื่องลงจอดแล้วก็ไม่สามารถลงจากเครื่องได้ทันทีต้องรอให้แพทย์สนามบินมาตรวจผู้โดยสารก่อน แพทย์ดูแล้วบอกว่าเอาไปไม่ได้ ต้องให้ตำรวจมาดูก่อนเพราะว่าผู้โดยสารถูกมัดไว้ กว่าตำรวจจะมาก็อีกเกือบสิบนาที มาแล้วก็ต้องสอบสวนอีกพักนึง กว่าจะลงจากเครื่องได้ก็ช้าไปเกือบชั่วโมง
เครื่องบินพาเราบินผ่าน Recife ไปลงที่ Sao Paulo ที่นี่เราต้องเปลี่ยนไปขึ้นเครื่องต่อ เพื่อบินกลับมา Recife ทำไมไม่ปล่อยเราลงRecife ก่อน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาบินไปกลับตั้ง 6 ชั่วโมง แต่ต้องผ่านระบบการตรวจคนเข้าเมืองก่อน ในตั๋วเครื่องบิน กระเป๋าระบุปลายทางที่ Recife International ต้องตรวจสอบและสอบถามหลายรอบ พนักงานก็ไม่เก่งภาษาอังกฤษเพราะเขาพูดแต่สเปนกับโปรตุเกส ก็ไปด้วยความงงๆ เขาก็ชี้มือให้เราไปตรงตรวจคนเข้าเมือง ต้องไปเดินวนในซองอยู่นาน กว่าจะได้ออกมา แต่กระเป๋าก็ตั้งรอไว้แล้ว..ก็ต้องรีบคว้ากระเป๋าและเดินออกไปด้วยความงุนงงว่าจะไปทางไหนดี เจอคนขับแทกซี่ยืนอยู่เลยลองถามดู ลุงแกพูดภาษาอังกฤษเก่งกว่าแอร์โฮสเตสเสียอีก ฮ่าๆๆ สรุปที่เช็คกระเป๋าก็อยู่ไม่ไกล ไปเข้าซองส่งกระเป๋าแล้วก็ไปรอขึ้นเครื่อง ตรงนี้บัตรทอง Star alliance กับ Tag Priority ไม่ได้ช่วยอะไร สงสัยพนักงานยังไม่คุ้นกับระบบ เพราะ TAM เพิ่งเข้าเป็นสมาชิก
ด้วยความสับสนของระบบการให้ข้อมูลดังที่กล่าวข้างต้น สังเกตเห็นว่ามีแก๊ง สว ห้าหกคน ยืนงงอยู่และก็บ่นกันอุบเลยว่าข้างในบอกให้ออกมาแล้วตรงนี้บอกว่าไม่ใช่ ไม่รู้ว่าลุงๆ ป้าๆ จะตกเครื่องกันหรือเปล่า หลังจากนึกสงสารคนอื่นแล้วก็มาเผชิญชะตากรรมของตัวเองต่อไป
เมื่อเข้าไปหาทางออกขึ้นเครื่องแล้วก็เป็นศึกหนักอีก ประตูทางออกหมายเลขหนึ่ง เข้ามาแล้วมีทางออกสามประตู แม่เจ้า..แล้วประตูไหนไป Recife ไม่มีประตูไหนระบุเที่ยวบินของเรา อีกสิบห้านาทีเครื่องจะออกแล้ว ถามพนักงานก็บอกว่ารอขึ้นเครื่องที่นี่แหละ อ๊ะ…อย่างน้อยก็มาถูกที่แล้ว รอไป…รอจนเลยเวลาที่ระบุในตั๋วแล้วก็ยังไม่ขึ้นป้าย ชักจะงงละ หันซ้ายหันขวาหาพวก สรุปเจอพวกบราซิลไปเที่ยวเดียวกะเรา หาที่ขึ้นเครื่องไม่เจอเหมือนกัน ยังไงก็มีพวกแล้วเรา ตามๆ เขาไปละกัน….ขึ้นไปบนเครื่องแล้วก็ต้องถามพนักงานอีกว่าถูกเครื่องไม๊ เดี๋ยวไปลงเมืองอื่น…ยุ่งอีก
สรุป…1) รอบนี้ใช้เวลาเดินทางไปเกือบสองวัน จากโตเกียวถึง Recife กิน…นอน…อยู่บนเครื่อง…..นั่นเอง
2) Recife คนญี่ปุ่นบอก รีซีฟ คนอังกฤษอย่างเราๆ หุหุหุ อ่าน เรซีเฟ่ แต่ผิดทั้งไทยทั้งญี่ปุ่น เพราะชาวบราซิลเรียก เฮซีฟี่ ..นัยว่าคนบราซิลจะออกเสียง ร เรือ หรือ R ไม่ชัด คงเหมือนคนไทยเราที่ออกเสียง H เอช ไม่ได้ต้องออกเป็น เฮช ……แล้วทำไมไม่เขียน Hecifee หรือ Hecifi ไปซะเลยเนาะ
3) เราควรจะเรียนรู้ภาษา Spain ไว้บ้าง เพราะประชากรที่พูดภาษานี้อาจจะมีเยอะกว่าภาษาอังกฤษเสียอีก
4) อาหารเจของ ANA อร่อยมากกกกกกก
« « Prev : ยาแก้เจ็บคอแบบง่ายสุดๆ
2 ความคิดเห็น
ตื่นเต้นดีครับ
ขากลับก็ตื่นเต้นใช่ย่อยค่ะพี่