Olympic
อ่าน: 1764สวัสดีค่ะ ตลอดเวลาเกือบสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ซากุระก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ของโอลิมปิกเกมส์ เรียกว่าเกาะติดหน้าจอกันเลยทีเดียวค่ะ ไม่รู้ว่าที่เมืองไทยมีการถ่ายทอดทั้งสดและไม่สดเกือบ 24 ชั่วโมงเหมือนที่ญี่ปุ่นไม๊นะคะ แต่ที่นี่มีเกือบตลอดค่ะ เป็นกระแสที่มาแรงและประชาชนของเขาให้ความสำคัญมากๆ ค่ะ
ซากุระเองก็ทึ่งมากกับภาพบนจอที่เราจะสัมผัสได้ถึง ความฝัน ความเจ็บปวด ความเสียใจ ความชื่นชม ความยินดี น้ำตาที่ไหลก็มีคละเคล้ากันไป ทั้งน้ำตาแห่งความปิติ และน้ำตาแห่งความเสียใจ สี่ปีที่รอคอย เชื่อได้ว่านักกีฬาทุกคนทุ่มเทกันเต็มที่เพื่อที่จะฝึกฝนตนเองให้เป็นหนึ่งในยุทธจักร แต่แม้ว่าจะแพ้หรือชนะก็มีมิตรภาพให้เห็น แม้จะต่างชาติ ต่างเผ่าพันธุ์แต่ทุกคนก็เป็นมิตรกันได้ แม้สีผิวจะต่างกัน เราก็วิ่งบนความฝันเดียวกันได้
ญี่ปุ่นก็กวาดเหรียญไปเยอะมากทีเดียวค่ะ แม้จะไม่ที่หนึ่งแต่ก็ประทับใจกองเชียร์ทุกรายการค่ะ มีหลายๆ อย่างที่ซากุระไม่รู้ว่าที่เมืองไทยมีหรือเปล่าคือ การกระตุ้นให้เด็กมีความใฝ่ฝันแต่เด็ก นักกีฬาว่ายน้ำเจ้าของสถิติโอลิมปิกสองสมัยเคยเขียนเรียงความสมัยมัธยมต้นส่งอาจารย์ “ผมจะเป็นเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก” เจ้าตัวลืมไปแล้ว แต่ความฝันก็คือความฝัน เขาพยายามฝึกฝนตนเองจนเป็นเจ้าเหรียญทองและเรียงความที่เขาเคยเขียนก็ถูกนำมาบอกเล่า นักกีฬาว่ายน้ำอีกคน อยู่ในต่างจังหวัด อย่างที่ทราบค่ะว่าที่ญี่ปุ่นเป็นเมืองหนาว สระว่ายน้ำก็ต้องเป็นแบบในร่มมีระบบปรับอากาศ แต่มีที่แห่งหนึ่งที่นักกีฬาเจ้าของเหรียญโอลิมปิกนี้ใช้ฝึกฝนตัวเอง ได้ถูกสร้างขึ้นแบบง่ายๆ ท่ามกลางสวนเกษตร และมันถูกคลุมด้วยพลาสติกเพื่อให้ความอบอุ่นในหน้าหนาว นักกีฬาว่ายน้ำคนนี้ได้รับฉายาว่า “ราชาแห่งสระพลาสติก” น่าประทับใจใช่ไม๊คะ ว่าความจนหรือความขาดแคลนไม่ได้เป็นอุปสรรคแห่งความสำเร็จ ขอแต่เพียงเราตั้งใจจริงและรักในสิ่งที่จะทำจริงๆ
กลับมาดูที่นักกีฬาสาวๆ สวยๆ กันบ้าง นักกีฬาระดับโลกที่ซากุระเห็นไม่ว่าจะเป็นว่ายน้ำ วิ่ง กระโดดไกล กระโดดสูง กระโดดค้ำถ่อหรือแม้แต่มวยปล้ำ และยูโด ส่วนใหญ่จะสวยและสุขภาพดีคะ หลายๆ คนหุ่นดีมากๆ แถมสวยมากๆ อีกต่างหาก เรียกได้ว่าประกวดนางงามได้สบาย เห็นสวยๆ แบบนี้เจ้าของเหรียญทองนะคะ ใครว่าสวยแล้วต้อง “แอ๊บแบ๊ว” (แปลได้ว่า อาการแบ๊วที่ผิดปรกติ) ซากุระว่ามันเป็นค่านิยมที่ผิดอย่างยิ่ง น่าจะเปลี่ยนมาเป็น “สวยแบบเพอร์เฟ็คท์” กันได้แล้วล่ะคะ อีกคนที่ซากุระประทับใจคือ นักกีฬายูโดหญิงคนหนึ่งของญี่ปุ่นค่ะ เขาแต่งงานแล้วและมีลูกแล้ว แต่เขาตั้งเป้าไว้เลยว่า เขาจะเป็น “คุณแม่เหรียญทองโอลิมปิก” ค่ะ แต่ความฝันของเขาไม่ประสบผลสำเร็จดังที่หวังแต่ก็เป็น “คุณแม่เหรียญทองแดงโอลิมปิก” ค่ะ
ทีนี้ลองกลับมามองประเทศไทยกันบ้าง ไม่ได้มองที่ทีมชาติอย่างเดียวนะคะ แต่มองทั้งประเทศค่ะ นักกีฬาไทยมักจะเลิกเล่นเพราะห่วงสวยบ้าง เพราะมีแฟนแล้วบ้าง ทำงานแล้วบ้าง ทำให้การพัฒนาไม่ก้าวหน้าและไม่ต่อเนื่องค่ะ คนที่นี่อายุจะสี่สิบแล้วเขายังไปโอลิมปิกกันเลยค่ะ แถมเอาลูกเอาครอบครัวไปเชียร์ให้ลูกประทับใจว่า คุณพ่อหรือคุณแม่นั้นเก่งกาจเพียงใด บางท่านก็คว้าเหรียญกลับบ้าน บางท่านก็พลาดโอกาสแต่นั่นคือการถ่ายทอดความฝันสู่กันและกันในครอบครัวค่ะ ส่วนทีมท้องถิ่นเหรอคะ ไม่ต้องห่วงค่ะ จะ 70 ปีแล้ว บางคนแปดสิบก็ยังเล่นกันอยู่เลยค่ะ แข็งแรงกว่าหนุ่มๆ สาวๆ อีก ก็ฝากไว้ค่ะ อยากให้เมืองไทยให้ความสำคัญกับกีฬาเพื่อสุขภาพของกลุ่มที่ไม่ใช่เยาวชนกันมากขึ้นค่ะ
กลับมาที่โอลิมปิกกันต่อค่ะ หลายท่านคงทราบว่า “ยากิว” หรือกีฬาเบสบอลเป็นกีฬาที่คนญี่ปุ่นคลั่งไคล้กันมาก ปีนี้ทีมหญิงคว้าเหรียญทองไปครองได้อย่างสมภาคภูมิ แต่เบสบอลชายของญี่ปุ่นไม่ได้เหรียญใดๆ กลับบ้านเลย ขณะที่เกาหลีใต้คว้าเหรียญทองไปครอง กลับมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาว่า ที่เป็นเช่นนี้เพราะ “ไม่ได้กินข้าวหม้อเดียวกัน” คำๆ นี้ดูง่ายๆ แต่ถ้าคิดให้ลึกซึ้ง ซากุระก็เห็นจริงตามนั้น การเรียกเอาดาวเด่นแต่ละทีมมารวมกันแต่ไม่ได้หลอมให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ใจไม่ประสานเป็นหนึ่งทำให้ทีมเวอร์คไม่ดี ซากุระก็เคยประสบปัญหานี้มาก่อน เราเล่นได้ไม่สนุกเลย เพราะเรา “ไม่รู้ใจกัน” อันนี้ก็ฝากไว้ค่ะ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับทีมชาติไทย
อีกอย่างที่สำคัญมากๆ คือ ความถ่อมตนค่ะ ทุกคนที่กลับมา ไม่มีใครโอ้อวดเลย แต่กลับถ่อมตนและถ่ายทอดความรู้สึกประทับใจและปลื้มปิติใจกันอย่างเป็นธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็ถ่ายทอดประสบการณ์การฝึกที่ทรหดให้กับรุ่นน้องได้รับรู้เพื่อจะได้เป็นแบบอย่างในการฝึกฝนตนเอง เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จในอนาคตค่ะ เห็นแล้วซึ้งจริงๆ ค่ะ บางคนนะคะ เป็นนางรองตลอดมา แต่เอาจริงเอาจังและไม่ทิ้งไปกลางคัน สุดท้ายก็มีชื่อเสียงระดับโลกได้เช่นกันค่ะ ขอเพียง “อย่ายอมแพ้”
ซากุระอยู่ที่นี่มาหลายปี เข้าเชียร์กีฬาระดับโลกหลายๆ ครั้งทั้งในโรงยิมและบนหน้าจอ ซากุระว่านักกีฬาไทย ฝีมือไม่แพ้ญี่ปุ่นเลยค่ะ ความสามารถเฉพาะตัวนั้นเหนือกว่าเยอะค่ะ แต่ “สปิริต” และ “ความมุ่งมั่น” นั้นต่างกันเยอะค่ะ ซากุระมองว่านี่คือเหตุผลว่าทำไม นักกีฬาทีมชาติไทยถึงไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
« « Prev : ญี่ปุ่นกับไทย ที่ไหนร้อนกว่ากัน
15 ความคิดเห็น
อ่านสนุกมากค่ะ ถ้ามีเวลา แวะมด้วยนะคะ http://lanpanya.com/goodthings/?p=8
ขอบคุณค่ะ ต้องแวะไปแน่ๆ ค่ะ
จะนั่งรอ นอนรอ เชียร์ซากุระเป็นสาวสวยเหรียญทอง อิอิ
อิอิ ตามคุณหมอมาติดๆคะ เป็นกำลังใจให้ แวะมาบันทึกราณีบ้างนะคะ แบบนาน ๆ คลอด 1 บันทึก ห้าๆๆๆ
นักกีฬาไทยแรงบันดาลใจอาจจะมีมาก
แต่การสนับสนุนน้อยค่ะ
การฝึกซ้อมบางประเภทกีฬาจังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร
มีองค์ประกอบหลากหลายมากค่ะ
ขณะที่เป็นนักกีฬา บางคนเป็นนักเรียนเป็นนักศึกษา บางคนต้องทำงาน บางคนไม่มีงาน
องค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านี้ จึงทำให้นักกีฬาเราด้อยกว่าหลาย ๆ ประเทศมากค่ะ
……..
ลองสักเกตดู คนที่มีการสนับสนุนอย่างเต็มที่ เช่นนักกีฬาเทนนิส ภารดร แทมมี่ เขาเหล่านี้ม่แรงสนับสนุนจากครอบครัว ต้องมีเงิน และไม่เรียนหนังสือ ฝึกซ้อมอย่างเดียว พ่อแม่ ครูฝึก หาสปอร์นเซอร์ นักกีฬาจึงประสบผลสำเร็จพอมีชื่อเสียง
……..
สำหรับความฝันของ “น้า” ฝันอยากเป็นครูแต่เด็ก จนกระทั่งแก่ ก็ยังไม่ได้เป็นครูเลย คริคริ
……..
ตามหมอชอบป่วนมาเหมือนกันค่ะ
กลับไทยคราวนี้ว่าจะท้าจอมป่วนประลองกินจุกันดูซักหน่อย อิอิอิ แต่ว่าไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะจอมป่วนก็จ่าย 555
วันอาทิตย์นี้ซากุระมีแข่งวอลเลย์บอลแบบ 9 คน แล้วจะมาเล่าให้ฟังนะคะ อิอิอิ
ขอบคุณพี่ราณีนะคะ ที่อุตส่าห์แวะมาอ่าน แล้วจะแวะไปเยี่ยมค่ะ
แวะไปเยี่ยมพี่ราณีมาแล้วนะคะ แต่ไม่รู้จะเคาะประตูบ้านยังไง ไม่มีกระดานให้เขียนโน้ตทิ้งไว้ด้วยสิคะ คือซากุระยังมือใหม่ หาที่เขียนโน้ตไม่เจอค่ะ
ปล ซากุระชอบกินแกงขี้เหล็ก กะ แกงหน่อไม้ใบย่านางมากเลย อิอิอิ บอกไว้ๆ เผื่อจะฟลุ้คได้กินฟรีค่ะ
ขอบคุณน้าอึ่งอ๊อบด้วยนะคะ ที่อุตส่าห์แวะมาเยี่ยมด้วยอีกคน ถึงจะแก่แต่ก็ยังมีไฟอยู่ค่ะ มาเป็นครูสอนซากุระอู้กำเมืองก่อได้นะคะ อู้ทีไรเขาหาว่า “เว่าลาว” ทุกทีเลยค่ะ อิอิอิ
น้าอึ่งเป็นโค๊ชวอลเลย์บอล ทีมได้เหรียญทองเชียวนะ ( แต่โค๊ช ข.ต. อิอิ )
โอ้ อย่างนี้ต้องไปขอวิชาจากคุณน้าอึ่งอ๊อบบ้างแล้วล่ะค่ะ แต่ ข.ต. นี่แปลว่าอะไรคะคุณน้าจอมป่วน
อิอิ……แฟนเยอะจ้ง ไปดีกว่า
ว่างๆ ก็แวะมาอีกนะคะ
หวัดดีค่ะ…อาจารย์
ดีใจสุดๆ เข้าไปบันทึกคุณหมอจอมป่วนเห็นรูปอาจารย์
เลยรีบถามคุณหมอทันทีว่ารู้จักกันด้วยเหรอ
โลกกลมจริงๆ นะคะ มิมคิดถึงอาจารย์จังเลยค่ะ
มากๆ ด้วย มาเมืองไทยก็ไม่ยอมส่งข่าวมาบ้าง
หายเงียบไปเลย เบอร์โทรที่เคยโทรได้
เดี๋ยวนี้ทำไมมันโทรไม่ได้แล้วละคะ
เซอร์ไพร้สสุดๆๆ แล้วเมื่อไหร่อาจารย์จะมาอ่านบันทึกเนี๊ยะ
น้องอั๋นเป็นงัยบ้างค่ะ เรียนจบหรือยัง
ได้คุยกับเอ๋บ้างไหมค่ะ อิอิ มีคำถามเยอะแยะเลย
คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงงงง
มิมเองค่ะ อิอิ
โอ้ โดนลูกศิษย์จับได้ว่าแอบมาเขียนบันทึกไว้ที่นี่ ซ่าไม่ออกแล้วเรา
อาจารย์ก็คิดถึงมิมจ้า ส่วนเบอร์โทรก็โดนเจ้าของบริษัทเขาตัดสิทธิ์การใช้ด้วยข้อหาเอามาอยู่ญี่ปุ่นเกินสามเดือน โห ช่างทำกันได้ลงคอ ตอนนี้อาจารย์ก็เลยไม่มีเบอร์จ้า เอาไว้คุยกันต่อทาง MSM นะคะ