ใครกันที่ทวนกระแส
อ่าน: 4068ผมกำลังนั่งดูรายการคนค้นคน ตอนศิลปินสุดเซอร์ คุณลุงไม้ร่ม ธรรมชาติอโศก หรือชื่อเดิมก็คือ วิโรจน์ นุ้ยบุตร ศิลปินวัยชราที่มีผลงานมากมายทั้งในไทยและต่างประเทศ แต่ไม่เคยขายงานตัวเองกิน ไปอยู่ในป่า อาบน้ำด้วยขี้โคลน ทานมังสวิรัติ และเป็นตัวของตัวเองจนคนที่ต้ออายก็คือผมเองที่ไม่มีความเข้มแข็งและกล้าหาญเท่ากับแก
คุณลุงที่ไว้หนวดยาวรุงรัง เอาเหรียญเอาอะไรก็ไม่รู้มาขอดไว้กลางหัว ใส่เสื้อผ้าปุปะ เดินเท้าเปล่า ปกติก็อยู่แต่ในป่า พูดจาไม่เหมือนคนทั่วไป แต่สิ่งที่แกพูดนั้น โดนใจผมเหลือเกิน คือสิ้นคิด ไม่ต้องคิดอะไร ปรุงแต่ง ล่อหลอกตนเองและคนอื่น บอกออกมาอย่างที่มันควรจะเป็น พูดออกมาแบบที่ต้องพูด ถ้อยคำหนึ่งที่สะดุดเอามากๆ ถึงมากที่สุด ก็คือที่คุณลุงบอก ว่าแกเป็นคนตามกระแส ทำตามกระแสของโลกทุกอย่าง คนอื่นๆ ต่างหากที่ทวนกระแส ไปบีบไปเค้น เอาทรัพยากรโลกมาถลุงใช้ พยายามทำตัวให้เหนือธรรมชาติ สวนกระแสแห่งโลกที่ควรจะเป็นจริงๆ
สิ่งที่คุณลุงพูดออกมานั้น ถ้ามองผ่านๆ ก็คือทัศนคติของคนขวางโลกที่แสดงออกมาก็เท่านั้น แต่ถ้าคิดให้ดี มีอะไรซ่อนอยู่มากมาย แต่คงต้องคิดแบบสิ้นคิด คือทิ้งความรู้เดิมๆ ที่มีให้หมด ทิ้งความเชื่อ หรืออย่างน้อยวางมันลงไปก่อน แล้วลองฟัง อย่างตั้งใจ ผมก็ต้องอึ้งไปกับสิ่งที่แกพูด และผมก็เริ่มเชื่อแล้วว่า แกเป็นคนตามกระแสจริงๆ คือกระแสของโลก กระแสของธรรมชาติ คนอื่นๆต่างหาก(รวมทั้งผมด้วย) ที่ทวนกระแส ถ้าหากโลกอุตสาหกรรมล่มสลายลง มนุษย์ต้องกลับไปอยู่กับธรรมชาติอีกครั้ง ใครกันที่จะอยู่รอด พวกเรา หรือคุณลุงไม้ร่ม คงไม่ต้องสงสัย ทุกวันนี้ปัญหาที่เป็นผลพวงมาจากยุคอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบต่อเราอย่างหนัก ก็คือปัญหาโลกร้อน สภาพอากาศต่างๆแปรปรวนจนไม่เป็นฤดู ภัยทางธรรมชาติต่างๆ รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และทรัพยากรที่ควรจะฟื้นคืนกลับมาใช้ได้ใหม่ ไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ทันต่อการบริโภคของเราอีกต่อไป (ถ้าหากเปรียบอัตราการฟื้นฟูของทรัพยากรทั้งหมดบนโลกนี้เท่ากับ 1 อัตราการบริโภคของมนุษย์จะอยู่ที่ประมาณ 1.3) ปัญหาน้ำและอาหารจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอีกไม่นานจากนี้ นอกจากนั้นตัวบ่งชี้ที่สำคัญอีกอันหนึ่งก็คืออัตรา CO2 ในชั้นบรรยากาศ ที่พุ่งพรวดขึ้นมาในเวลาไม่กี่ร้อยปี ที่ผ่านมานี้ อัตราอ้างอิงสำหรับระดับ CO2 ตามประวัติศาสตร์ในอดีตที่เคยเกิดขึ้นก็คือ 350 ppm แต่ในปัจจุบันนั้นสูงถึง 384.78 ppm ซึ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี แม้จะมีความพยายามสร้างความร่วมมือในระดับนานาชาติเพื่อลดจำนวนนี้ลงให้เห็นในข่าวเกือบทุกๆ วัน นักวิทยาศาสตร์ได้ประมาณการไว้ว่า โอกาสของมนุษย์ที่จะฟื้นฟูความยั่งยืนของตนนั้นอยู่ที่ตังเลข 80:20 หรือต้องลดจำนวน CO2 ให้ได้อย่างน้อย 60-80% ภายใน 20 ปีนี้! (อยู่ในหนังสือ the Necessary Revolution ของ Peter Senge ซึ่งตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2008) ทั้งหมดนี้หมายความว่าอย่างไร สำหรับผมนั้นเข้าใจโดยไม่ต้องคิดได้เลยว่า เรากำลังยืนอยู่บนความเสี่ยงอันมหาศาล อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกขณะ อาจไม่ต้องรอจนถึงปี 2012 ตามที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้ก็ได้ เพราะเรากำลังเดินทวนกระแสของโลกกันอยู่ใช่หรือไม่ เรื่องแบบนี้ถ้าใช้ความคิดเดิมๆ รับรองได้ว่า อาจจะตกใจอยู่พักหนึ่ง แล้วสักพักก็ลืม แต่ถ้าคิดแบบสิ้นคิดละก็ ขนหัวลุกเลยครับผม
หนังสือ the Necessary Revolution โดย Peter Senge และทีม
บันทึกนี้โพสต์เมื่อ วันที่ วันพุธ, 11 พฤศจิกายน 2009 เวลา 12:03 (เช้า) และจัดไว้ในหมวดหมู่ สิ้นคิด. ติดตามอ่านการแสดงความเห็นได้ที่ฟีดนี้ RSS 2.0. คุณสามารถจะ ฝากความคิดเห็นไว้, หรือ แทร็กย้อนหลัง จากเว็บไซต์ของคุณได้.
#2:: bangsai 11 พฤศจิกายน 2009 เวลา 11:32 (เช้า)
มีคนมากระตุกความคิดแบบนี้กันบ่อยๆก็ดีครับ