วันไหว้ครู 2554
เด็กชายปรีชา
วันนี้เป็นวันไหว้ครู ฉันกลับไปบ้านในเมืองเพื่อแต่งเครื่องแบบ
จึงมาถึงโรงเรียนเกือบแปดโมง รีบร้อนเพราะเป็นครูเวร
เด็กๆ น่ารักเหมือนอย่างเคย ถือของไปส่งให้ที่บนห้องชั้นสาม
ฉันเองแวะเซ็นชื่อเข้าทำงานที่หน้าห้องธุรการ
มีเด็กชายตัวน้อยมายืนคอยมองอยู่
ขณะที่ครูลุกลี้ลุกลนรีบเซ็นชื่อเพื่อจะไปเตรียมเรียกเข้าแถว
เพื่อนของเด็กเอ่ยว่า “ปรีชาปวดท้องครับ”
ฉันจึงสอบถาม ซักอาการจากปรีชา รวมความว่าเขาปวดท้องโรคกระเพาะ
ถามว่าเคยเป็นหรือไม่ เขาตอบว่า เคยเป็น
ฉันบอกให้ปรีชาไปรอครูอีกคนที่หน้าห้องพยาบาล
เมื่อครูมาไขห้องให้บอกอาการแล้วครูจะได้ให้กินยา
เมื่อกินยาแล้ว นอนพักจะได้มีเรี่ยวแรงดีขึ้น
เกือบจะผละจากปรีชามาแล้ว นึกได้หันไปถามว่า
“ปรีชาได้กินข้าวเช้ามาหรือเปล่า”
เด็กน้อยสั่นหัว ฉันรีบพูดว่า
“เห็นไหมเล่า ถึงได้ปวดท้อง”
หลังจากนั้นฉันยุ่งกับสารพัดสิ่ง จากแปดโมงเช้ามาจนบ่าย
เจอปรีชาอีกครั้งที่หน้าห้องชั้นสาม เขานั่งเบียดอยู่กับเสาระเบียง
ฉันจึงนึกได้ว่า ระหว่างพิธีไหว้ครู มองไปที่แถวเด็ก มอ 1 ไม่เห็นปรีชา
แต่ตอนนั้นสรุปเอาว่า ครูพยาบาลคงให้เขานอนพักหลังจากกินยา
ถามไถ่ปรีชาว่าเป็นอย่างไรบ้าง ไม่เห็นไปไหว้ครู ตอนนั้นไปอยู่ที่ไหน
ปรีชาตอบว่า “อยู่ในห้องครับ” ฉันร้อง “อ้าว!”
ซักถามได้ความว่า ปรีชาไปรอครูเป็นนาน ครูก็ไม่มา
(ครูคงรีบมาร่วมพิธีไหว้ครู จึงไม่ได้ไปเปิดห้องพยาบาล)
ปรีชาปวดท้อง ก็เลยขึ้นไปนอนอยู่บนห้อง มอ 1 คนเดียว
จนเสร็จพิธี..
ฉันได้แต่ร้องโอ้ละหนอ.. พลางโทษตัวเองในใจ
โชคดีที่ปรีชาบอกว่า ดีขึ้นแล้ว (เขามาสอบท่องเลข 1-20 ภาษาอังกฤษ)
และได้กินข้าวกลางวันแล้ว
ฉันจึงถามต่อว่า ทำไมไม่ได้กินข้าวเช้า
ปรีชาตอบว่า “พระไปบิณฑบาตสาย กลับมาผมก็ไปโรงเรียนแล้ว”
ครูอึ้ง..
ถามปรีชาว่า กินมาม่าไหม? ปรีชาก็ส่ายหัว
ฉันลุกขึ้นไปหยิบมาม่าคัพ (มาม่าหมีพูห์ของนิสชิน) ของโปรดของตัวเอง
ที่ซื้อมายกแพ็ค แพ็คละหกถ้วย เอามาให้ปรีชาดู
โฆษณาว่า เห็นมั้ย น่ารักมั้ย ปรีชากินมั้ย อร่อยมากเลยนะ
ปรากฎว่า ปรีชาพยักหน้า ทำท่าสนใจถ้วยสีส้มๆ ที่มีรูปหมีพูห์
สรุปว่า ยกหมีพูห์หกถ้วยให้ปรีชา สอนให้ถึงฝาเปิดถ้วยแล้วกดน้ำร้อนใส่
หวังใจ.. พรุ่งนี้ปรีชาคงได้กินข้าวเช้านะ
……………………………………………………………………
เจ้าปลา
ลูกสาว (เจ้าปลา) หาพวงมาลัยมากราบ “ครู” ในวันนี้
ให้ยืนไหว้ก็ไม่ยอม ต้องต้อนครูไปนั่งเก้าอี้ แล้วนั่งลงกราบ
เพิ่งไปเริ่มชีวิตเด็กปีหนึ่งคณะบัญชี มหาวิทยาลัยเล็กแห่งหนึ่ง
เจ้าปลา แม่ตาย และต่อมา พ่อก็มาตายตอน มอ 2 ด้วยพิษสุราเรื้อรัง
เหลือเจ้าปลาอยู่กับน้องชายฝาแฝด โจ๊ก และ เจ๊ก
มีญาติอุปการะ จนจบมอ 6 แต่เขาก็ส่งเสียต่อไม่ไหวในขั้นอุดมศึกษา
ต้องขอบพระคุณที่มี “กยศ.” อยู่ในประเทศนี้
ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นหนี้ญาติอยู่ราวหมื่นห้า ทำงานโรงงานใช้หนี้ไปบ้างแล้ว
เจ้าปลายังไม่เคยรบกวนอะไรฉันเลยสักบาท
มีแต่กระวีกระวาดช่วยเหลือครูทุกอย่าง ตั้งแต่อยู่กันมาหลายปีในโรงเรียน
เมื่อจบไปแล้วโทรศัพท์มาเล่าความเป็นไปในชีวิตราวเดือนละครั้ง
เป็นเด็กน่าสงสารที่ “รักดี” อย่างเหลือแสน
ขอคุณพระศรีรัตนตรัย คุ้มครอง ปกป้อง ลูกศิษย์ทุกคนด้วยเถิด
7 ความคิดเห็น
ความงอกงามของศิษย์ หล่อเลี้ยงใจของครูเสมอนะคะ
สาธุ ..ครูดีๆ ยังพอมีอยู่ ในโลกระบบ โล”ภา”ภิวัฒน์นี้ ที่ครูต่างล่กๆ หารายได้เสริมกันเป็นแถว ปล่อยให้ศิษย์แกร่วหน้ามุ่ย
พูดแล้วจะหาว่าโม้ ตัวผมนั้นก็เป็นครูบ้านนอก ที่ให้ทุนการศึกษาเด็กยากจนมาหลาย รวมทั้งนศ.ปริญญาเอกจาก สปป. ลาว ที่หมดทุน จะต้องกลับประเทศ เรียนไม่จบ ก็มีคนโทรมาหา เห็นว่าผมชอบให้ทุน จนบริจาคเงินเดือนตั้งเป็นกองทุน ก็ให้ผมช่วยสนับสนุน
แล้วผมถามว่า เอ้า อาจารย์สาขาของเธอทำไมไม่ไปถาม มาถามผมทำไม แกว่าถามมาหลายแล้วเขาต่างอ้างว่ายากจนทั้งนั้น
อ้อ..คงเห็นว่าผมรวย เอ้ารวยก็รวยวะ ผมก็เลยให้ สองปี หมดไปสองแสนกว่าบาทได้กระมัง ..เธอจบปริญญาเอก และเป็นคณบดีไปแล้ว
ปิดทองหลังพระนะเนี่ย …ฉ่าง ฉ่าง ฉ่าง
คุณ dd_l คะ จริงค่ะ ต้นไม้ที่ปลูกงอกงามขึ้นมาสักนิดให้เห็น ก็ชื่นใจจนเดินต่อไปได้อีกหลายวัน
ว่าไปแล้ว นิสซิน เนี่ยผมชอบมาก กินแล้วไม่แพ้ผงชูรสมากเหมือนบะหมี่ของไทยเรา สมัยอยู่เมกา ก็ได้นิสซินนี่แหละแก้เหงาปากครับ
แล้วกระทรวงสาธาฯ เราก็ง่อยกระรอกตามเคย คิดได้แต่หาเสียงว่าจะเอาชนะวาทกรรม 30 บาทได้อย่างไร โดยไม่สนใจอะไรเลย
อ่านแล้วชื่นใจจังเลยค่ะคุณครู เคยเจอเด็กวิศวะคนหนึ่ง สังเกตเห็นว่ากลางวันไปนั่งอยู่ตามใต้ต้นไม้ ขณะที่เพื่อนๆไปทานข้าว สงสัยไปถามก็ได้รับคำตอบว่ามีเงินมาเรียนน้อย ไม่กินสักมื้อพอได้ทุ่นไปบ้าง ตอนนั้นเราเองก็ไม่ค่อยมีมากนัก แต่ก็ไปเรี่ยไรเพื่อนๆในแผนก ให้ผลัดกัน ให้เขาไปกินข้าววันละ ยี่สิบบาท บอกไม่งั้นเดี๋ยวจะหิวจนเรียนไม่รู้เรื่อง
ตอนหลังพี่ชาย “คนถางทาง” (ที่เคยอยู่มิชิแกนด้วยกัน) รู้เข้า เลยเอามาอยู่ที่บ้าน อยู่กินกับบ้านเราจนเรียนจบ เดี๋ยวนี้เป็นนายช่างใหญ่อยู่แถวโคราช ได้ภรรยาเป็นหมอ ครอบครัวดีมีความสุข ยังกลับมาหาเราเมื่อมีโอกาส
วันหนึ่งในอนาคต เมื่อคุณครูรู้ว่า ปรีชา และ หนูปลา ได้ดีมีสุขในชีวิต มันจะเป็นความชื่นใจที่หวานหอม แบบหาอะไรมาเปรียบไม่ได้เลยค่ะ ขอบอก
อาจารย์ withwit เรื่องสาธารณสุขของเรา ก็มีปัญหามากไม่แพ้กระทรวงศึกษาฯ นะคะ
ถึงแม่ใหญ่ที่เคารพรัก…ว่าไหมล่ะ ผมคบกับพี่ชายสุดที่รักน่ะ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เพราะเรามัน “คนพันธุ์เดียวกัน” ….จนแสนจน แต่ก็ช่างหัวมัน ขอให้ได้ใช้เงินที่พอติดก้นกระเป๋า สาดไปทำอะไรให้สมใจเป็นพอ
ว่าแต่ว่า ผู้หญิง ที่มาหลงรักผู้ชายแบบนี้ ก็คงไม่ธรรมดานะแม่ใหญ่นะ ฮิฮิ..โสน้าหน้า